ILINK ย้ำเป้ารายได้ปี 62 โตแตะ 5.4 พันลบ. รับอานิสงส์ธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณหนุน
ILINK ย้ำเป้ารายได้ปี 62 โตแตะ 5.4 พันลบ. รับอานิสงส์ธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณหนุน
นายสมบัติ อนันตรัมพร ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิว นิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ILINK เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 1/2562 บริษัทฯมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,157.50 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิจากผลการดำเนินงาน อยู่ที่ 87.46 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้มาจาก 3 ธุรกิจหลัก ประกอบด้วย 1.รายได้จากธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณ ซึ่งเป็นการนำเข้าและจัดจำหน่ายสัญญาณคอมพิวเตอร์สำหรับเทคโนโลยีดิจิตอลและการสื่อสาร
2.รายได้จากธุรกิจโทรคมนาคม ซึ่งเป็นรายได้จากการให้เช่าวงจรสื่อสารความเร็วสูง และให้บริการเช่าพื้นที่ดาต้าเซ็นเตอร์ รวมทั้งการติดตั้งระบบโครงข่ายสายสัญญาณและระบบโทรคมนาคม ให้ลูกค้าที่ใช้บริการเช่าวงจรและค่าก่อสร้างโครงข่าย Fiber Optic ให้ กับผู้ประกอบการโทรคมนาคมที่ให้บริการโทรศัพท์มือถือ รวมทั้งโครงการอินเตอร์เน็ตชายขอบของ กสทช.อีกด้วย
และ 3.รายได้จากธุรกิจวิศวกรรมโครงการพิเศษ ซึ่งเป็นรายได้จากการรับเหมาโครงการวิศวกรรมระบบไฟฟ้าและโครงการพิเศษที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
“สำหรับผลการดำเนินงานงวดสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2562 นั้น กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้รวมจำนวน 1,157.50 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้ร้อยละ 85.30 ของรายได้รวม เป็นรายได้ที่เติบโตขึ้นของกลุ่มธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณและธุรกิจโทรคมนาคม ซึ่งบรรลุตามเป้าหมายที่กลุ่มบริษัทฯ ตั้งไว้
และเนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชี ซึ่งกลุ่มบริษัทฯ ได้นำมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 15 เรื่องรายได้จากสัญญาที่ทำกับลูกค้า มาใช้ปฏิบัติตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2562 จึงต้องปรับเปลี่ยนวิธีการรับรู้รายได้จากธุรกิจวิศวกรรมโครงการพิเศษ และการบันทึกบัญชีของอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง ซึ่งบริษัทฯได้ทำ Forward ล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยง
ส่งผลให้ในตัวเลขของงบดุลที่ต้องแสดงยอดกำไรสุทธิที่มีผลดำเนินงานที่ดี แต่ต้องไปหักขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจำนวน 48.18 ล้านบาท (สุทธิของภาษีเท่ากับ 38.54 ล้านบาท) จึงอาจสร้างความสับสน ให้เกิดความไม่เข้าใจในผลการดำเนินงานอย่างแท้จริงของบริษัทฯได้ โดยในปี 2562 นี้ ทางบริษัทฯมั่นใจที่จะสร้างกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นได้ เพราะสามารถควบคุมต้นทุนในการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น” นายสมบัติ กล่าว
ส่วนแนวโน้มผลประกอบการในปี 2562 บริษัทฯได้ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 5,485 ล้านบาท โดยคาดหมายว่าจะมีรายได้เติบโตจากธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณซึ่งมีการแต่งตั้ง Distribution ในต่างประเทศเพิ่มขึ้น ได้แก่ สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า จำนวน 3 ราย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จำนวน 3 ราย ราชอาณาจักรกัมพูชา จำนวน 2 ราย
อีกทั้งยังได้เปิด Show Room Online ใน Lazada, Shopee และ ID Central เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าเพิ่มเติม และเมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2562 นี้ ยังได้เปิดตัว LINK SWITCH ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ในหมวด Networking ที่มีมูลค่าตลาดในประเทศไทยกว่า 8,000 ล้านบาท
สำหรับธุรกิจวิศวกรรมยังคงเติบโตแบบก้าวกระโดด เนื่องจากมีรายได้ในการให้เช่าวงจรสื่อสารความเร็วสูง ซึ่งมีทั้งลูกค้าในกลุ่มธนาคาร บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ และบริษัทขนาดใหญ่ทีมีสาขาทั่วประเทศ รวมทั้งยังชนะการประกวดราคาโครงการอินเตอร์เน็ตชายขอบของกสทช. มูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท ทำให้สามารถรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง
และยังมีรายได้คงที่จากการให้เช่าพื้นที่ดาต้าเซ็นเตอร์ และลูกค้าเดิมที่ต่อสัญญามาโดยตลอดและธุรกิจวิศวกรรมโครงการพิเศษที่นอกจากจะพยายามเร่งรัดและสร้างกำไรจากการดำเนินงานโครงการ Satellite Terminal ของสนามบินสุวรรณภูมิ ที่ก่อสร้างมานานกว่า 3 ปี ให้แล้วเสร็จตามกำหนดเวลา ยังจะได้เตรียมประกวดราคาโครงการ Submarine Cable ของเกาะสมุยวงจร 4 มีมูลค่า 1,767 ล้านบาท และเกาะปันหยีมูลค่า 188 ล้านบาท ซึ่งได้ล่าช้ามากว่า 3 ปี โดยคาดว่า จะสามารถเปิดประมูลได้ภายในไตรมาสที่ 3/2562