สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 16 พ.ค. 2561
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 16 พ.ค. 2561
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ (16 พ.ค.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ และผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึง บริษัทซิสโก้ ซิสเต็มส์ และวอลมาร์ท อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิพร่วงลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทที่เป็นซัพพลายเออร์ของหัวเว่ย เทคโนโลยี่ หลังจากรัฐบาลสหรัฐออกมาตรการแบนสินค้าของบริษัทหัวเว่ย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,862.68 จุด พุ่งขึ้น 214.66 จุด หรือ +0.84% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,876.32 จุด เพิ่มขึ้น 25.36 จุด หรือ +0.89% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,898.05 จุด เพิ่มขึ้น 75.90 จุด หรือ +0.97%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (16 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากข่าวเกี่ยวกับการทำข้อตกลงทางธุรกิจในเยอรมนี ขณะที่นักลงทุนปรับตัวรับความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างจีน-สหรัฐแล้ว และได้มุ่งความสนใจมากกว่าไปที่สถานการณ์การค้าระหว่างยุโรปและสหรัฐ
ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 1.27% ปิดที่ 382.88 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,448.11 จุด เพิ่มขึ้น 73.85 จุด หรือ +1.37% และ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,310.37 จุด เพิ่มขึ้น 210.80 จุด หรือ +1.74% ส่วนดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,353.51 จุด เพิ่มขึ้น 56.56 จุด หรือ +0.78%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (16 พ.ค.) โดยบวกขึ้นเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันตามทิศทางของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐ ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารและหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นนำตลาด และการที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มส่งออกด้วย
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,353.51 จุด เพิ่มขึ้น 56.56 จุด หรือ +0.78%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ (16 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากสถานการณ์ตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลาง ซึ่งรวมถึงเหตุการณ์โจมตีท่อส่งน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย และการที่อิหร่านประกาศเตรียมความพร้อมขั้นสูงสุดเพื่อรับมือกับการคุกคามจากกองทัพต่างชาติ
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 85 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 62.87 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 85 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 72.62 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (16 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และเข้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า เช่นหุ้น หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยกดดันตลาดทองคำ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 11.6 ดอลลาร์ หรือ 0.89% ปิดที่ 1,286.2 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 27.3 เซนต์ หรือ 1.84% ปิดที่ 14.539 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 14.1 ดอลลาร์ หรือ 1.66% ปิดที่ 833.6 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 8.20 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 1,324.70 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (16 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านที่พุ่งขึ้นสูงกว่าคาดการณ์ในเดือนเม.ย.
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.84 เยน จากระดับ 109.55 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0101 ฟรังก์ จากระดับ 1.0092 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3462 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3438 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1171 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1203 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2791 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2843 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6893 ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.6927 ดอลลาร์ออสเตรเลีย