สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 22 พ.ค. 2562
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 22 พ.ค. 2562
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (22 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอาจลุกลามเป็นวงกว้าง หลังจากมีรายงานว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมขึ้นบัญชีดำบริษัทจำหน่ายกล้องวงจรปิดรายใหญ่ 5 รายของจีน ในข้อหากระทำการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยความกังวลในเรื่องดังกล่าวได้บดบังปัจจัยบวกจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งส่งสัญญาณว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,776.61 จุด ลดลง 100.72 จุด หรือ -0.39% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,856.27 จุด ลดลง 8.09 จุด หรือ -0.28% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,750.84 จุด ลดลง 34.88 จุด หรือ -0.45%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (22 พ.ค.) โดยถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน และความไม่แน่นอนของกระบวนการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มรถยนต์ ปรับตัวลงมากที่สุด
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลบ 0.08% ปิดที่ 379.19 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,378.98 จุด ลดลง 6.48 จุด หรือ -0.12% ขณะที่ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,168.74 จุด เพิ่มขึ้น 25.27 จุด หรือ +0.21% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,334.19 จุด เพิ่มขึ้น 5.27 จุด หรือ +0.07%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (22 พ.ค.) เนื่องจากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มส่งออก แต่หุ้นกลุ่มบริษัทสร้างบ้านและกลุ่มสายการบินที่อ่อนไหวต่อการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ร่วงลงตามกัน ขณะที่มีข่าวลือว่า บรรดารัฐมนตรีของอังกฤษอาจจะปลดนางเทเรซา เมย์ ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หลังจากแผน Brexit ของนางเมย์ ไม่ได้รับการสนับสนุน
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,334.19 จุด เพิ่มขึ้น 5.27 จุด หรือ +0.07%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (22 พ.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 2 นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่า ข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอาจส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมันในตลาดโลก
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 1.71 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 61.42 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. ดิ่งลง 1.19 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 70.99 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (22 พ.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีน นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยหนุนตลาดทองคำ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 1 ดอลลาร์ หรือ 0.08% ปิดที่ 1274.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 3.9 เซนต์ หรือ 0.27% ปิดที่ 14.449 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 10.10 ดอลลาร์ หรือ 1.24% ปิดที่ 805.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 1 ดอลลาร์ หรือราว 0.1% ปิดที่ 1313.50 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (22 พ.ค.) ขณะที่นักลงทุนปรับตัวรับการเปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินครั้งล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.02% แตะที่ 98.0403 เมื่อคืนนี้
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 110.28 เยน จากระดับ 110.62 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0086 ฟรังก์ จากระดับ 1.0113 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3427 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3404 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1159 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1157 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าแตะที่ระดับ 1.2668 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2705 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.6884 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6881 ดอลลาร์สหรัฐ