MTC คาดผลงานไตรมาส 2 โต! รับยอดสินเชื่อขยายตัว-รุกเปิดสาขาต่อเนื่อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC ล่าสุด ณ เวลา 10.33 น. อยู่ที่ระดับ 51.50 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ 2.49% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 274.32 ล้านบาท

อนึ่งก่อนหน้านี้ นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร MTC คาดว่า ผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2/62 จะเติบโตมากกว่าช่วงไตรมาส 1/62 โดยเป็นช่วงที่ลูกค้าต้องการสินเชื่อมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นช่วงเปิดการเรียน ช่วงเริ่มต้นของฤดูการเพาะปลูกด้วย

ขณะที่ มองว่าภาพรวมธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังจะเติบโตมากกว่าช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากในช่วงครึ่งปีหลังจะเป็นช่วงไฮซีซั่นของบริษัท เนื่องจากมีความต้องการสินเชื่อค่อนข้างมาก และในปีนี้มองว่าราคาพืชผลทางการเกษตรจะปรับตัวดีขึ้นด้วย ในขณะเดียวกันบริษัทเตรียมที่จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่คือในส่วนของสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ซึ่งมั่นใจว่าจะมีส่วนสำคัญในการผลักดันรายได้และกำไรในอนาคต เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน เนื่องจากมีฐานลูกค้ามากกว่า 2 ล้านราย

“โดยปกติแล้วในช่วงไตรมาส 1 จะเป็นช่วงไตรมาสที่ต่ำที่สุด แต่ก็ยังสามารถเติบโตได้ค่อนข้างดี ซึ่งในช่วงไตรมาส 2 จะเริ่มเห็นการเติบโตอีกจากความต้องการใช้เงินเริ่มจากเดือนเม.ย. ที่ผู้คนต้องการกลับบ้านก็ต้องใช้เงิน เดือน พ.ค. ลูกๆเปิดเรียนก็ต้องใช้เงิน และเดือนถัดไปก็ต้องใช้เงินในการปลูกพืชก็ต้องใช้เงิน ทำให้จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง”นายชูชาติ กล่าว

สำหรับทิศทางการเติบโตทั้งปี 62 นี้ บริษัทคงเป้าหมายการเติบโตยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ที่ 35% จากปีก่อนที่มียอดปล่อยสินเชื่อ 81,976 ล้านบาท โดยสัดส่วนการปล่อยสินเชื่อจะยังอยู่ในระดับใกล้เคียงกันกับปีก่อนคือ รถจักรยานยนต์ 35% รถยนต์ รถแทร๊กเตอร์รวม 35% โฉนดที่ดิน 10% สินเชื่อส่วนบุคคล 10% และที่เหลือเป็น Nano Finance

ส่วนรักษาระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ให้ไม่เกิน 2% จากปัจจุบันอยู่ในระดับ 1.04% ซึ่งมั่นใจว่าสามารถทำได้ จากความเข้มงวดในการดูแลลูกค้าใกล้ชิด และดูแลการปล่อยสินเชื่อแก่ลูกค้ารายใหม่ได้ดีขึ้น

ทั้งนี้บริษัทยังแผนการเปิดสาขาอีก 600 สาขา จาก ณ สิ้นไตรมาส 1/62 ที่ผ่านมามีการเปิดสาขาใหม่แล้ว 165 สาขา หรือมีสาขารวมราว 3,444 สาขา และคาดว่า ณ สิ้นปีสาขารวมทั้งหมด 3,900 สาขา และในช่วงปี 63 จะมีสาขารวมเป็น 4,500 สาขา

นายชูชาติ บริษัทยังอยู่ระหว่างการพิจารณาบันทึกกลับสำรองส่วนเกินที่มีอยู่ราว 1,500 ล้านบาท โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจากับผู้ตรวจสอบบัญชีว่าจะเป็นอย่างไร และความเป็นไปได้มากน้อยเพียงได โดยคาดว่าหากสามารถบันทึกกลับมาได้อย่างเร็วจะเป็นปี 62 นี้ แต่อย่างช้าอาจจะต้องเป็นปี 63

นอกจากนี้บริษัทได้เตรียมที่จะออกหุ้นกู้เพิ่มอีกราว 4,000-6,000 ล้านบาท ในช่วงไตรมาสมาส 3/62 รองรับการปล่อยสินเชื่อเพิ่ม และขยายกิจการ