“พปชร.” โผล่เชิญ “ประชาธิปัตย์” ร่วมลงโรงแล้ว! “อุตตม” เชื่อแค่ 20 พรรคตั้งรบ.ได้
“พปชร.” โผล่เชิญ “ประชาธิปัตย์” ร่วมลงโรงแล้ว! “อุตตม” เชื่อแค่ 20 พรรคตั้งรบ.ได้
วันนี้(27พ.ค.62) นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า วันนี้แกนนำพรรคพลังประชารัฐจะเดินทางมาที่พรรคประชาธิปัตย์ทาบทามให้ร่วมรัฐบาล โดยการพูดคุยวันนี้ยังไม่รู้ว่านานหรือไม่ หลังจากนั้นต้องนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมร่วมคณะกรรมการบริหารพรรคอีกครั้ง ซึ่งทุกอย่างจะชัดเจนเมื่อรอให้จบกระบวนการของพรรคก่อนที่จะต้องประชุมร่วมคณะกรรมการบริหารพรรคและ ส.ส. โดยจะประชุมร่วมกันในวันพรุ่งนี้ (28 พ.ค.) ซึ่งจะมีมติชัดเจนว่าจะร่วม หรือไม่ร่วมรัฐบาล
ส่วนกรณีที่ก่อนหน้านี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค ประกาศหากพรรคร่วมรัฐบาล พรรค พปชร.จะลาออกจาก ส.ส.นั้น ก็ต้องมาพูดคุยกันเอาเหตุผลหลายอย่างมาประกอบกัน รวมถึงเหตุผลของนายอภิสิทธิ์ด้วย การที่จะให้ประเทศเดินไปข้างหน้าก็จะเอาต้องมาพิจารณาร่วมกันด้วย
นายเฉลิมชัย” ระบุอีกว่า ส่วนเงื่อนไขการโหวตลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีมีอย่างไรก็คงต้องคุยกันในที่ประชุมเพื่อฟังความคิดเห็นของที่ประชุมร่วม ส่วนการพิจารณาร่วมรัฐบาลกับการเลือกนายกรัฐมนตรีนั้นเป็นประเด็นแยกกันหรือไม่ ก็ต้องรอพูดคุยกันในที่ประชุมของพรรคก่อน ทุกเรื่องต้องมีเหตุมีผลเวลาที่จะทำอะไรสักอย่าง
ทั้งนี้เมื่อถามถึงกรณีที่ก่อนหน้านี้ในการหาเสียงพรรคพลังพรรคประชาธิปัตย์ได้ประกาศว่าไม่จะไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจ แล้วหากวันนี้ตัดสินใจจะร่วมรัฐบาลจะทำให้พักสวนสาธารณะประชาชนหรือไม่ หากสนใจไปร่วมรัฐบาลจะอธิบายกับคะแนนเสียงประชาชน 3.9 ล้านเสียงอย่างไร
นายเฉลิมชัย ระบุอีกว่า ทุกอย่างก็ต้องรอให้ที่ประชุมร่วมของพรรคตัดสินใจก่อน ไม่ว่าจะตัดสินใจอย่างไรก็มั่นใจว่าพรรคมีเหตุผลทั้งหมด จะเปิดให้ที่ประชุมได้พูดคุยอย่างเต็มที่ และจะลงมติกันว่าอะไรคือสิ่งที่ดีที่สุด
ส่วนกรณีการโหวตเลือกในสภาที่ผ่านมาเสียงค่อนข้างปริ่มน้ำ แล้วอาจจะเป็นปัญหาเสถียรภาพในการร่วมรัฐบาล จะแก้อย่างไร คงต้องคุยทุกมิติและต้องมองว่าหลายครั้งเมื่อเกิดรัฐบาลขึ้น เสียงปริ่มน้ำบางครั้งก็อยู่ได้โดยขึ้นอยู่กับการทำงานและการประสานงานมากกว่า
ส่วนประเด็นเรื่องของการต่อรองตำแหน่งได้ปฏิเสธโดยย้ำว่าพรรคไม่มีเรื่องการต่อรองตำแหน่ง วันที่นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานสภาฯนั้น ต้องยอมรับว่านายชวนมีความเหมาะสมทุกประการ และตนเชื่อมั่นว่าในสภาก็ไม่มีใครเหมาะสมเท่านายชวน การจะทำให้สภาและประเทศเดินหน้าไปได้ ก็ต้องให้บุคคลที่มีความน่าเชื่อถือ มีภาพลักษณ์ที่ดีมาซึ่งเราต้องแยกส่วนกันระหว่างงานฝ่ายบริหารกับงานฝ่ายนิติบัญญัติ โดยตำแหน่งประธานสภาฯ ไม่ได้เป็นโควต้าตำแหน่ง แต่เป็นการให้เกียรติกันและ ความเหมาะสมว่าจะขับเคลื่อนสภาและประเทศไปได้อย่างไร
นายเฉลิมชัย กล่าวปฏิเสธย้ำว่าในการมาทาบทามร่วมรัฐบาลของพรรคประชารัฐในวันนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยถึงการจัดสรรตำแหน่ง โดยการจะตัดสินใจว่าร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาล ก็จะต้องมีเหตุผล ต้องตอบคำถามได้ โดยช่วงหาเสียงพรรคก็มีนโยบายหลายอย่างในการเสนอที่จะให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนและเกษตรกรจริงๆโดยถ้าตัดสินใจร่วมรัฐบาลนโยบายต่างๆ ก็ต้องได้รับการปฏิบัติและนำไปสู่การปฏิบัติได้
ทั้งนี้เมื่อถามจนถึงวันนี้มีโอกาสที่พรรคประชาธิปัตย์จะตัดสินใจไม่ร่วมรัฐบาลได้หรือไม่ แน่นอนทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ร่วมกับ ส.ส. ซึ่งมติพรรคเป็นอย่างไรก็จะเป็นเช่นนั้น ซึ่งการตัดสินใจอย่างใดก็ต้องมีผลกับพรรคอย่างแน่นอน
โดยล่าสุดวันนี้(27พ.ค.62) เมื่อเวลา 11.00 น. นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เดินทางมาพร้อม “นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” เลขาธิการพรรค และกลุ่มสามมิตร แกนนำ พรรค พปชร.เดินทางมาถึงพรรคประชาธิปัตย์ โดยมี “นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน” เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และคณะพร้อมต้อนรับ
นายอุตตม กล่าวว่า ในการเดินทางมาวันนี้ก็เพื่อ เรียนเชิญพรรคประชาธิปัตย์ อย่างเป็นทางการเพื่อมาร่วมกัน จัดตั้งรัฐบาลที่ที่จะเดินหน้าประเทศไทยและเพื่อประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนประเทศไทย ตามที่พรรคได้ให้คำมั่นสัญญาไว้ ก็ถือเป็นการดำเนินตามประเพณีการเมืองที่ทำมาโดยตลอด
โดยวันนี้จะมีการพูดคุยถึงเรื่องการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีเลยหรือไม่ยังไม่คุยในรายละเอียด โดยวันนี้ถือเป็นพิธีการสำคัญที่ามาพบกัน ส่วนเรื่องรายละเอียดต่างๆเช่นนโยบาย ของพรรคร่วมรัฐบาลก็จะใช้โอกาสต่อไปพูดคุยกัน ว่าแต่ละนโยบายนั้นจะขับเคลื่อนอย่างไร การแบ่งงานกระทรวง จะทำอย่างไร และกำลังคน ซึ่งจะต้องให้สอดรับกัน และเมื่อจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลแล้วก็คาดหวังว่าจะได้รับการสนับสนุน ซึ่งคิดว่าการที่พรรคจะมาร่วมงานด้วยกันนั้นก็คงเข้าใจกันดีว่าจะสนับสนุนซึ่งกันและกันอย่างไร
นายอุตตม กล่าวอีกว่า ส่วนปัญหาภายในพรรคของพรรคพลังประชารัฐเองไม่ได้มีความเป็นเอกภาพนั้น จากภาพที่ปรากฏในการประชุมสภาที่ผ่านมา แล้วจะแก้ปัญหาภายในพรรคอย่างไร ในเรื่องนั้นไม่ได้มีปัญหารุนแรงอะไรก็ถือเป็นเรื่องธรรมดา ที่ผ่านมาไม่ได้มีการเลือกตั้งมา 5 ปี ดังนั้นก็ต้องใช้เวลาหารือกันโดยยืนยันว่า ยังเป็นทิศทางเดียวกัน ซึ่งอาจจะมีความเห็นแตกต่างกันบ้างก็ถือเป็นเรื่องปกติ แต่สุดท้ายแล้วยืนยันว่าพรรคพลังประชารัฐจะก้าวไปด้วยกัน
ส่วนเรื่องเสียงส.ส.ที่มีลักษณะปริ่มน้ำ คนในพรรคพลังประชารัฐ 5 คนโหวตพลาดเหมือนการประชุมสภาที่ผ่านมา จะทำให้แพ้ใน ญัตตินั้น รัฐบาลจะอยู่รอดได้หรือไม่ ก็เป็นเรื่องที่จะต้องไปบริหารจัดการกันพรรคพลังประชารัฐและพรรคร่วมทั้งหลาย ถ้าทุกคนมีเจตนาที่แน่วแน่ที่จะทำงานให้ประเทศชาติแล้วดำเนินการในสิ่งที่ถูกต้องไม่ว่าคะแนนจะเป็นอย่างไรก็เชื่อว่า แล้วก็จะจัดการให้ผ่านไปได้
ส่วนกรณีว่าภาพการเมืองดูเหมือนมีเรื่องค่าตัวนั้นจะทำให้ระบบการเมืองเสื่อมหรือไม่ อันนี้เป็นเรื่องของการคาดการณ์ไป ดังนั้นขอให้รอดูวันที่มีการตั้งรัฐบาลแล้ว และมีฝ่ายนิติบัญญัติแล้วดีกว่า
ส่วนก่อนหน้านี้พรรคประชาธิปัตย์ เคยประกาศว่าจะไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และการสืบทอดอำนาจนั้น “นายอุตตม” ระบุว่า เรื่องวันนั้นผ่านพ้นไปแล้ว วันนี้อย่าไปติดใจอะไร อย่าไปสร้างเงื่อนไขอะไร เป็นนิมิตหมายที่ดีแล้วที่จะเดินหน้าไปร่วมกัน
“วันนี้เราก็ยังมีความมั่นใจว่าจะตั้งพรรคร่วมรัฐบาล 20 พรรคได้โดยเราจะเดินไปด้วยกัน”