MITSIB ปลื้มรายย่อย-สถาบันตอบรับหุ้น IPO ล้นหลาม จ่อเทรด “เอ็มเอไอ” 11 มิ.ย.นี้

นายสัมฤทธิ์ชัย ตั้งหะรัฐ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ 1 บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท มิตรสิบ ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ MITSIB เปิดเผยว่า “MITSIB” เตรียมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 11 มิถุนายน 2562 นี้

ทั้งนี้ ภายหลังเปิดขายหุ้น IPO ให้ประชาชนทั่วไปจองซื้อเมื่อวันที่ 29-31 พ.ค.ที่ผ่านมานั้น พบว่า ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนบุคคลทั่วไปและนักลงทุนสถาบัน ซึ่งกระแสตอบรับช่วงเสนอขายหุ้นดีเกิดคาด โดยนักลงทุนให้ความสนใจในธุรกิจของบริษัทฯ และเข้าใจถึงพื้นฐานของบริษัทฯ เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ บริษัทฯ เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 167 ล้านหุ้น  มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท ในราคาหุ้นละ 2.50 บาท

อีกทั้ง มีผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายอีก 6 แห่ง ประกอบด้วย 1. บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) 2. บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) 3. บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) 4. บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) 5. บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และ 6. บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน)

ด้านนายกิตติ ยงค์สงวนชัย ประธานกรรมการ บริษัท มิตรสิบ ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) “MITSIB” ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการเช่าชื้อรถแท็กซี่ใหม่ รถแท็กซี่มือสอง รวมถึงบริการสินเชื่อเพื่อรถแท็กซี่และรถขนส่งสาธารณะ กล่าวว่า กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 อันดับแรก ประกอบด้วย กลุ่มครอบครัวยงค์สงวนชัย ถือหุ้น รวม 50.69% หลังการเสนอขายหุ้น IPO จะคงเหลือ 38.00% รองลงมาคือ กลุ่มครอบครัวมั่งมี ถือหุ้น รวม 9.00% หลังการเสนอขายหุ้น IPO จะคงเหลือ 6.75% และกลุ่มครอบครัวเลียวตระกูล ถือหุ้น รวม 5.56% หลังการเสนอขายหุ้น IPO จะคงเหลือ 4.17%

ขณะที่นายนิติพัทญ์ ยงค์สงวนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิตรสิบ ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) MITSIB  กล่าวว่า สำหรับเม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้จำนวน 417.50 ล้านบาท บริษัทฯ มีแผนที่จะใช้เป็นการต่อยอดการเติบโตของธุรกิจ ขยายการให้สินเชื่อ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ รวมถึงชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน อีกทั้งเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่โครงสร้างเงินทุนของบริษัทฯ ในการขยายสาขา พร้อมดำเนินธุรกิจตามเป้าหมายที่วางไว้

ส่วนของบริษัทฯ นั้น มีความเชื่อมั่นในพื้นฐานของบริษัทฯ เพราะเมื่อพิจารณาตัวเลขทางการเงินจะพบว่า อยู่ในอัตราที่แข็งแกร่งและสามารถแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดได้ดี  ประกอบกับ ผลประกอบการของบริษัทฯ ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องและด้วยความเชี่ยวชาญด้านการบริการสินเชื่อมานานกว่า 16 ปี ทำให้บริษัทฯ มีข้อได้เปรียบทางธุรกิจ