สังคมข่าวหุ้น

คาเฟอีน

**นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยเมื่อวันศุกร์อีกกว่า 1,507 พันล้านบาท ส่งผลให้ซื้อสุทธิ 4 วันทำการติดต่อกัน สรุปแล้วยอดเดือน พ.ค. 2562 ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิ 3,671 ล้านบาท แต่หากนับจากต้นปี 2562 ยังขายอยู่เล็กน้อย 6,036 ล้านบาท ส่วนนักลงทุนสถาบัน (กองทุน) ขายออกมาต่อเนื่องในเดือน พ.ค. ทำให้ขายสุทธิกว่า 15,548 ล้านบาท แต่จากต้นปีซื้อสุทธิ 28,755 ล้านบาท

**หุ้น SAWAD ของ ธิดา แก้วบุตตา กำลังพยายามกลับขึ้นไปปิดด้วยการยืนเหนือ 50.00 บาทอีกครั้ง แต่ยังมีแรงขายทำกำไรออกมาต่อเนื่อง ส่วนสัญญาณทางเทคนิค ก่อนหน้านี้แม้จะเป็นขาลง (ลงไปที่ 45.00 บาท) แต่ล่าสุดกลับเป็นขาขึ้น มีแนวต้านสำคัญคือ 52.00 บาท แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/2562 ยังแจ๋ว และการซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ BFIT จะส่งผลบวกต่อ SAWAD อย่างมีนัยสำคัญในช่วงต่อไป

**บมจ.ท่าอากาศยานไทย หรือ AOT ราคาปิดเมื่อวันศุกร์ลงมาอย่างหนัก –2.75 บาท ปิด 63.75 บาท (ต่ำสุดในรอบ 5 เดือน) เปลี่ยนแปลง 4.14% ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขาย 9,810 ล้านบาท หลังจากยังไม่ได้เปิดเผย Revenue Sharing หรือส่วนแบ่งรายได้ การประมูลร้านดิวตี้ฟรี และพื้นที่เชิงพาณิชย์ในสนามบินสุวรรณภูมิที่ “คิง เพาเวอร์” เป็นผู้ชนะประมูลทั้งสองส่วน คือยังไม่รู้ว่าผลตอบแทนจะดีหรือไม่ และต้องรอตัวเลขในวันที่ 19 มิ.ย.นี้ แต่นักลงทุนสายย่อต่างมองว่า นี่แหละคือโอกาสดีที่จะเข้าเก็บ

**วันนี้ (4 มิ.ย.) มาลุ้น  “พี่ปอ” หรือ PTT กันว่า ราคาจะหลุด 45.00 บาทอีกครั้งหรือเปล่า หลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกร่วงลงอย่างหนักในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จากกรณีสหรัฐฯ หันมาทำสงครามการค้ากับเม็กซิโก ล่าสุด ราคาหุ้น PTT ปิดเมื่อวันศุกร์ 46.25 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง แต่หากราคาดิบเมื่อคืนนี้พอจะฟื้นขึ้นมาได้บ้าง ก็น่าจะพอทำให้ราคาหุ้น PTT ไม่ลงไปลึกมานัก

**ว่ากันตามตรงเลยนะ ตอนนี้หุ้น บิวตี้ฯ BEAUTY ราคาหุ้นไม่มีแนวรับ แนวต้าน หรือมองยากมาก เพราะราคาวิ่งขึ้นลงแบบไร้ทิศทาง ทำให้การเข้าเก็งกำไรต้องระวังกันสักหน่อย และประเด็นที่ไม่อาจมองข้ามคือ หลังจากก่อนหน้านี้นักลงทุนสถาบันที่เป็นบริษัทประกันชีวิตขายออกมากันเกลี้ยงแล้ว ล่าสุด กองทุนกรุงศรีก็ขายหุ้นออกมาส่วนหนึ่ง และเหลือถืออยู่ไม่ถึง 5% พอออกมารูปแบบนี้ มีโอกาสที่จะขายหมดพอร์ตได้เหมือนกัน

**แบงก์ทีเอ็มบี TMB ในมุมมองนักวิเคราะห์ แนวโน้มไตรมาส 2/2562  ยังไม่ค่อยดี มีโอกาสตั้งสำรองเพิ่ม และเอ็นพีแอลก็อาจจะเพิ่ม ส่วนราคาหุ้นเมื่อหลุดต่ำกว่า 2.00 บาทก็ยากที่จะกลับขึ้นไปยืนเหนือระดับนี้อีกครั้ง เว้นแต่ดีลเรื่องควบรวมกับแบงก์ธนชาต หรือ TBANK จะแล้วเสร็จ ซึ่งอาจจะเป็นช่วงไตรมาส 3 หรือไตรมาส 4 ปีนี้ ทำให้วอลุ่มซื้อขาย TMB ดูเบาบางลงไปมาก เฉลี่ยต่อวันไม่ถึงร้อยล้านบาท และเป็นหุ้นอีกตัวที่นักลงทุนน่าจะติดดอยกันเยอะ

**เรื่องแบงก์ชาติคุมเข้มสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ ทำให้ส่งผลลบไปทั้งการปล่อยกู้ของแบงก์ และยอดขายบ้านและคอนโดมิเนียมของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่ผู้ว่าการ ธปท. “วิรไท สันติประภพ” ยืนกรานว่าจะยังมีผ่อนปรนแน่นอน เพราะมาตรการนี้ต้องการสกัดการเก็งกำไรบ้าน ส่วนใครซื้อบ้านหลังแรกจะไม่ได้รับผลกระทบ ซึ่งก็เป็นคำตอบที่เชื่อว่าหลายคนคาดกันไว้อยู่แล้ว ดังนั้นใครจะไปเจรจาด้วยก็ต้องทำใจร่ม ๆ ไว้หน่อย การพูดคุยกับ ธปท. ก็พอจะทราบกันอยู่นะว่า เขาฟังใครบ้างล่ะ