ระวังเทรดเพลิน

ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร

2 วันที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นไทยวิ่งขึ้นมาแล้ว 28 จุด

เมื่อวานนี้ดัชนีขึ้นไปสูงสุด 1,650.70 จุด (ปิด 1,648.46 จุด) ชนแนวต้านสำคัญพอดี และทำให้มีแรงขายทำกำไรออกมา

นักวิเคราะห์ต่างมองว่าบริเวณ 1,650 จุด เป็นแนวต้านสำคัญมาก

และยากที่จะผ่านไปได้ในขณะนี้

จะเห็นว่าแม้เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติจะซื้อสุทธิเพิ่มอีก 4,788 ล้านบาท ( รวมซื้อ 6 วันทำการติดต่อกันแล้วกว่า 28,580 ล้านบาท) ผสมกับกองทุนกลับมาซื้อ 1,625 ล้านบาท

ทว่าดัชนีก็ยังไม่ผ่านแนวต้านดังกล่าวได้

อย่างที่รับทราบกันไปแล้ว

ปัจจัยที่หนุนหุ้นไทยในขณะนี้ นอกเหนือจาก MSCI ปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุน

ในด้านปัจจัยภายในประเทศ มาจากเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลที่เริ่มมีความชัดเจน

และเมื่อวานนี้ที่มีการประชุมสภาฯ เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี

หากไม่มีอะไรผิดพลาด

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะได้รับการโหวตกลับมานั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีอีกครั้ง

หลังจากนั้น จะมีการแต่งตั้งรัฐมนตรีประจำกระทรวงต่าง ๆ ตามมา

ความชัดเจนเรื่องการเมืองที่ว่านี้ ทำให้นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่น (ในระยะสั้น) แต่ในระยะยาว ยังคงต้องจับตาเกี่ยวกับเรื่อง “เสถียรภาพ” ว่าจะมีมากน้อยแค่ไหน

ในมุมมองของนักลงทุนต่างชาติมองว่า แม้รัฐบาลจะไร้เสถียรภาพ

กระทั่งอาจมีการยุบสภา นำไปสู่การเลือกตั้งครั้งใหม่

หากเป็นรูปแบบนี้ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรที่ต้องกังวล หรือไปขัดต่อการลงทุน

เพราะขอเพียง อย่ามีรัฐประหารเกิดขึ้นอีกเท่านั้น

ภายหลังการจัดตั้งรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ทำให้กองทุนต่างชาติหลายรายที่เป็นประเภท Active Fund ที่มีข้อจำกัดเงื่อนไขการเข้าลงทุน จะสามารถเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยได้เพิ่มขึ้น

จากที่ผ่านมากองทุนต่างชาติส่วนมากที่เข้ามาลงทุนเป็นประเภท Passive Fund

กลุ่มต่างชาติเหล่านี้ จะลงทุนผ่านการเพิ่มน้ำหนัก (เช่น MSCI) ตามการเคลื่อนไหวของดัชนี

ส่วนปัจจัยต่างประเทศ เรื่องเทรดวอร์ สงครามการค้าสหรัฐฯ และจีน เริ่มคลี่คลายมากขึ้น (แต่ยังเป็นประเด็นต้องจับตา)

ผสมกับปัจจัยบวกที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด อาจจะปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย สำหรับการประชุมในช่วงกลางปี 2562 และน่าจะส่งผลบวกต่อเงินไหลเข้า

ตอนนี้ดูเหมือนหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ถูกเข้าเก็บเยอะมาก

อย่างวานนี้ปรับขึ้นพร้อมกันยกกลุ่มเลย

นำโดย KBANK และ BBL ที่เป็นหุ้นอยู่ในเป้าหมายของต่างชาติอยู่แล้ว เมื่อกลับเข้ามาลงทุนในแต่ละครั้ง

ขณะที่ SCB บวกแรง และผ่านขึ้นมายืนเหนือ 130 บาทได้อีกครั้ง (ปิดวานนี้ 132.50 บาท) หลังมีประเด็นเรื่องการขายหุ้น ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต หรือ SCB Life ที่คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในไตรมาส 3/2562

ประเด็นบวกแม้จะเข้ามาพร้อม ๆ กัน

แต่มีคำเตือนจากนักวิเคราะห์ให้ระวังการพักฐานบริเวณ 1,650 จุด

อย่าเพลินกับการเก็บหุ้นเข้าพอร์ตล่ะ