ฝนตกขี้หมูไหล!

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ก่อนอื่นต้องเรียนให้ทราบตามตรงว่า “โมนิก้า” ไม่ได้มีความกังวลเกี่ยวกับการเคลื่อนตัวของดัชนีเหมือนเมื่อก่อนหน้าอีกแล้ว เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา และสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ คงไม่มีอะไรแตกต่างจากที่เป็นอยู่สักเท่าไหร่ ? จึงอย่าไปเสียเวลาสนใจเหตุการณ์ที่ทุกคนพอรู้เลา ๆ มากนักเลย เพราะยังมีบางเรื่องที่น่าเผือกแบบสุดซอยมากกว่าไงล่ะตัวเอง

*โดยเฉพาะประเด็นของการหักเหลี่ยมเฉือนคมของบรรดามหาวายร้ายที่เกิดขึ้นในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มันกระทบโดยตรงกับความมั่นใจของผู้คนในแวดวงตลาดหุ้น เพราะมีการใช้เล่ห์เพทุบายแบบไม่เกรงกลัวสำนักงาน ก.ล.ต. กันเสียเลย “โมนิก้า” ถึงต้องหยิบยกประเด็นดังกล่าวขึ้นมาบอกเล่า เพื่อช่วยเตือนสติเหล่านักเล่นอย่าหลงเข้าไปเล่นเกมของคนอื่นเป็นอันขาดนะจะบอกให้

*มิฉะนั้นอาจกลายเป็นเหยื่ออันโอชะของพวกสายดาร์กแบบไม่รู้ตัว ซึ่งเหมือนกับเหตุการณ์ที่เกี่ยวโยงกับก๊วนของ “เสี่ยอ๋า” ในช่วงที่มีข่าวไปพัวพันกับหุ้นร้อนสองสามตัว ก็มีการกล่าวอ้างชื่อถึงเสี่ยคนดังกล่าวอย่างกว้างขวาง ซึ่งไล่เรียงตั้งแต่หุ้น OCEAN ในช่วงที่ทะยานขึ้นอย่างร้อนแรง ได้มีการประกาศลั่นทุ่งว่า ธุรกิจที่นำมาสวมช่วยให้บริษัทเติบโตแบบก้าวกระโดด แต่สุดท้ายกลับหายจ้อยไปกับสายลมและแสงแดดน่าตาเฉยพะยะค่ะ

*นอกจากนี้บรรดาแมงลือต่างเม้าท์มอยกันสนุกสนานว่า ก๊กก๊วนของเสี่ยยังไม่หมดฤทธิ์ เพราะผันตัวไปเป็นดีลเมกเกอร์อย่างเต็มตัว พร้อมกับหลบเข้าไปอยู่ฉากหลัง เพื่อไม่ให้ทางการตามดมกลิ่นเจอนั้น “โมนิก้า” มองเป็นเกมที่นักเล่นต้องทำความเข้าใจมากนิดหนึ่งว่า หุ้นขนาดเล็กที่เผยอหน้าขึ้นมาแบบไม่มีเหตุผล คือเหตุการณ์ทำให้นักเล่นมีความจำเป็นต้องตั้งข้อสงสัยไว้ก่อนเจ้าค่ะ

*เหมือนกับเหตุการณ์ซื้อตั๋วเงินของหุ้นน้องใหม่ GSC โดยไม่มีการระบุไว้ในหนังสือชี้ชวน มันเป็นสถานการณ์ที่ผิดแผกแหวกประเพณีเป็นอย่างมาก ซึ่งกลายเป็นประเด็นที่ทำให้ผู้หลักผู้ใหญ่ในตลาดหุ้นบางท่านไม่สบายใจอย่างแรง เพราะแสดงให้เห็นความไม่ชอบมาพากลของผู้บริหารในยุคนี้ พร้อมกับเกิดคำถามขึ้นมาในทันทีว่า ทำไมคนยุคนี้ชอบเล่นแร่แปรธาตุกันเหลือเกินล่ะค่ะ

*ยิ่งเห็นมูลค่าของเงินระดมทุนจำนวน 98 ล้านบาทตกไปอยู่ในรูปของตั๋วสัญญาใช้เงินของผู้ถือหุ้นใหญ่ ACAP ด้วยแล้ว “โมนิก้า” ย่อมชี้ปลายกระบอกปืน..อุ๊ย..ย่อมชี้เป้าไปยังคุณน้อง “สุกัญญา” กำลังคิดกระทำการอะไรมิทราบ ? เพราะของมันเห็นทนโท่ว่า เรื่องนี้ไม่มีทางรอดสายตามือปราบอย่างแน่นอน บวกกับที่ผ่านมาไม่มีการแจ้งรายการเกี่ยวโยงให้กับสังคมรับทราบด้วยแล้ว..โทษหนักเป็น 2 เท่านะคุณน้อง !

*ประเด็นตรงนี้กลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้บอร์ดของ GSC ต่างกุลีกุจอรีบไขก๊อกออกกันมากถึง 7 ราย เพราะไม่อยากเข้าไปมีส่วนรับผิดชอบกับเรื่องฉาวที่เกิดขึ้น ผลดังกล่าวทำให้ศึกหนักไปตกอยู่ที่ MD กับ CFO เพราะเป็นคนเดินเรื่องทำดีลกู้ยืมเงินผิดวัตถุประสงค์ “โมนิก้า” ถึงมองเป็นเรื่องที่ดิ้นหลุดยากมากเหลือเกิน เพราะโดนเขาจับได้คาหนังคาเขานะซี

*ที่สำคัญคือ ความรับผิดชอบดังกล่าวยังผูกติดกับ FA แบบแยกขาดจากกันไม่ได้เสียด้วย เพราะเป็นธรรมเนียมปฏิบัติมาแต่ไหนแต่ไรว่า เอฟเอต้องดูแลเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ของบริษัทน้องใหม่เป็นเวลา 1 ปี ส่งผลให้การกระทำการใด ๆ ก็ตามที่เกิดขึ้นในระยะเวลาดังกล่าว ต้องถือว่ารับรู้กับสิ่งที่เกิดขึ้นแบบหมดเปลือก งานนี้เลยทำให้ “น้องหนึ่ง” หัวเรือใหญ่แห่งอาณาจักร “ฟินเน็กซ์ฯ” ตกที่นั่งลำบากในทันทีนะคะ

*เม้าท์ถึงเรื่องที่ปรึกษาทางการเงินขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” คงต้องแวะเวียนมาเม้าท์ถึงเรื่องของหุ้นน้องใหม่ ARIN ที่เตรียมจะเข้าเป็นสมาชิกใหม่ของตลาด mai  แต่สุดท้ายกลับอดเข้าตลาดแบบไม่คาดฝันมาก่อนนั้น กลายเป็นประเด็นที่ทำให้เกิดสงครามน้ำลายสาดใส่กันไปมาอย่างหนักหน่วง ซึ่งเขาว่ากันว่า ทั้งหมดเป็นผลมาจาก บล.คิงส์ฟอร์ด ขอเอาหุ้นมาขายเป็นจำนวนมาก แต่ดันขายหุ้นไม่หมดตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้พะยะค่ะ

*โดยจุดที่ผู้คนในตลาดหุ้นโต้เถียงกันคอเป็นเอ็นมีอยู่ด้วยกัน 2 เรื่องหลักคือ 1. บล.คิงส์ฟอร์ด ควรแสดงสปิริตในการรับหุ้นเข้าพอร์ต ไม่ใช่ปล่อยให้บริษัทน้องใหม่ต้องรับเคราะห์กรรม 2. ARIN ทำผลงานไม่ได้เหมือนกับที่คุยโม้ไว้ แล้วจะให้คนอื่นมารับความเสี่ยงแทนได้อย่างไร? “โมนิก้า” มองทั้ง 2 เหตุผลเป็นเรื่องของเอฟเอต้องทำตัวเป็นตัวกลางเพื่อไกล่เกลี่ยข้อพิพาทที่เกิดขึ้นทั้งหมด และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคราวนี้ก็ทำให้รู้ว่า ใครเป็นมืออาชีพนะจะบอกให้

*เรื่องดังกล่าวเลยตีกลับไปหา บล.คิงส์ฟอร์ด ชนิดที่ชาวบ้านชาวเมืองรุมถล่มไม่ยั้ง พร้อมกับมีการขุดคุ้ยประวัติของพวกตัวแสบที่เข้ามาร่วมงาน ล้วนมีแต่คนร้องเต้าหู้ยี้กันเป็นแถวแบบนี้ “โมนิก้า” เลยรู้ชะตากรรมของโบรกเกอร์รายนี้ทันทีว่า “หัวเน่า”..เรื่องทั้งหมดเลยเอวังด้วยประการฉะนี้ (รักทุกคนนะ ถึงแชร์ข้อมูลให้ฟัง)..อิอิอิ