
ดอลล์ร่วงหลังเฟดส่งสัญญาณระมัดระวังขึ้นดอกเบี้ย
ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินเยนและยูโรเมื่อคืนนี้ (8 ก.ค.) หลังจากรายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงให้เห็นว่าเฟดยังคงมีความระมัดระวังเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1069 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0977 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5361 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5446 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 120.64 เยน จาก 122.46 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9452 ฟรังก์ จาก 0.9467 ฟรังก์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7426 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7442 ดอลลาร์
ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันจากรายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดประจำวันที่ 16-17 มิ.ย.ที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ เนื่องจากเฟดได้เตือนเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจีน รวมทั้งความปั่นป่วนที่เป็นผลจากวิกฤตหนี้กรีซ
ภาวการณ์ดังกล่าวทำให้มีความไม่แน่นอนมากขึ้นนับตั้งแต่การประชุมเฟดครั้งล่าสุด และได้ถ่วงตลาดหุ้นทั่วโลกในสัปดาห์นี้ นอกจากนี้ รายงานยังส่งสัญญาณว่ามีแนวโน้มที่เฟดจะชะลอช่วงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 9 ปีออกไปเป็นสิ้นปีนี้ หรืออาจจะเป็นในช่วงปี 2559
ส่วนสกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้น ขานรับความหวังเกี่ยวกับสถานการณ์หนี้กรีซ หลังจากมีข่าวว่ากรีซได้ยื่นเรื่องอย่างเป็นทางการเพื่อขอรับเงินกู้ระยะ 3 ปีจากกองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) แล้วเมื่อวานนี้ และยืนยันว่าจะดำเนินการตามเงื่อนไขบางประการที่เจ้าหนี้เรียกร้องในข้อตกลงให้ความช่วยเหลือ ซึ่งช่วยหนุนความหวังที่กรีซอาจเลี่ยงความเสี่ยงที่จะพ้นจากการเป็นสมาชิกยูโรโซน