SYNTEC คาดกำไรไตรมาส 2/58 สดใสไม่ต้องรองานรัฐแนะซื้อมีอัพไซด์อีก 44%
SYNTEC คาดการณ์กำไรไตรมาส2/58 โดดเด่นในกลุ่มรับเหมาฯ เพิ่ม 60% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนและ 20% เทียบไตรมาสก่อนหน้าเป็น 118 ล้านบาท ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (YTD) ลงนามในสัญญาก่อสร้างและเสนอราคาต่ำสุดได้แล้วในมูลค่ารวม 6.5 พันล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 81% เทียบกับเป้าประมูลงานปีนี้ที่ 8 พันล้านบาทแล้ว จึงมีโอกาสสูงที่จะประมูลได้ตามเป้าหมาย ลูกค้าที่บริษัทได้รับส่วนใหญ่เป็นลูกค้าเดิมที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดฯ ซึ่งมีฐานะการเงินดี จึงปลอดภัยเรื่องหนี้เสีย คงคำแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐานมีส่วนเพิ่มได้อีกถึง 44% จุดเด่นคือ บริษัทเน้นงานอาคารสูง ไม่ต้องรองานจากภาครัฐ
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (9 ก.ค. ) บริษัท ซินเท็ค คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SYNTEC คาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 2/58 โดดเด่น เพิ่ม 60% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็น 118 ล้านบาท สืบเนื่องจากรายได้จากการก่อสร้างเพิ่มขึ้น 18% ตามงานก่อสร้างในมือ (Backlog) ที่มีอยู่สูง ณ สิ้น ไตรมาส2/58 เป็น 9 พันล้านบาท และรายได้จากค่าเช่าเซอร์วิส อพาร์ทเม้นท์เพิ่ม 39% เป็น 32 ล้านบาท แม้อัตรากำไรขั้นต้นจากการก่อสร้างอยู่ในเกณฑ์ทรงตัวระดับสูงที่ 12.6% แต่อัตรากำไรขั้นต้น-ธุรกิจเซอร์วิส อพาร์ทเม้นท์ดีขึ้นเป็น 30.8% เทียบ เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 22.5% เนื่องจากอัตราการเข้าเช่า (OR) ที่ดีขึ้น และการทยอยมีพื้นที่ให้เช่าที่มากขึ้น อีกทั้งฐานไตรมาส 2/57 มีค่าใช้จ่ายพิเศษ แต่ไตรมาสนี้มีสมมุติฐานว่าไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษเหล่านี้
ส่วนกำไรสุทธิไตรมาส 2/58 เทียบ เทียบไตรมาสก่อนหน้าเพิ่มได้ 20% แม้ว่ากำไรจากการดำเนินงานส่วนใหญอยู่ในเกณฑ์ทรงตัว แต่ฐาน ไตรมาส 1/58 มีค่าใช้จ่ายพิเศษ 21 ล้านบาท ซึ่งนานๆจะเกิดขึ้นสักครั้ง ซึ่งได้แก่ การสร้างแคมป์คนงาน และเปลี่ยนรถประจำตำแหน่ง แต่ไตรมาสนี้มีสมมุติฐานว่าไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษเหล่านี้ จึงทำให้โดยรวมประมาณการกำไรสุทธิไตรมาส 2/58 จึงเพิ่มได้ 20% เทียบไตรมาสก่อนหน้า
มีโอกาสประมูลงานก่อสร้างได้ตามเป้าหมายสูง พิจารณาตามตารางด้านล่าง ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (YTD) ลงนามในสัญญาก่อสร้างแล้ว 5 สัญญา มูลค่า 1,250 ล้านบาท และเสนอราคาต่ำสุดได้แล้วรอลงนามในสัญญา 4 งาน มูลค่า 5,220 ล้านบาท ในมูลค่ารวม 6,470 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 81% เทียบกับเป้าประมูลงานปีนี้ที่ 8,000 ล้านบาทแล้ว ด้านงานก่อสร้างในมือ (Backlog) ณ สิ้น ไตรมาส1/58 ที่ 9 พันล้านบาท ต่ำกว่าสิ้นปี 57 ที่ 10.6 พันล้านบาท แต่เมื่อได้ลงนามในสัญญางานก่อสร้างที่เสนอราคาประมูลต่ำสุดแล้ว ก็จะมาเติมเต็ม Backlog ได้
เน้นได้งานลูกค้าเดิม ความเสี่ยงหนี้สูญน้อย เพราะลูกค้าเดิมส่วนใหญ่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มีฐานะการเงินดี ไว้วางใจได้ นั่นคือจาก 9 งานก่อสร้างข้างต้น แบ่งเป็น SPALI 3 โครงการ PS 3 โครงการ AP 1 โครงการ Noble 1 โครงการ และบริษัทนอกตลาดฯ 1 โครงการ สำหรับงานที่เสนอราคาต่ำสุด และรอลงนามในสัญญาเป็นคอนโด เช่น Life อโศกของ AP มูลค่า 2 พันล้านบาท Noble Revolve ของ NOBLE 1.3 พันล้านบาท งานของ PS ประมาณ 890 ล้านบาท เป็นต้น
คาดการณ์กำไรครึ่งแรกปี 58 เป็นสัดส่วนเพียง 36% ของทั้งปี 58 เนื่องจากในงวดครึ่งแรกปี 58 บริษัทเสียภาษีเงินได้ในอัตราปกติ ขณะที่ยังไม่ได้ใช้ส่วนประหยัดภาษี (tax shield) ของบริษัทร่วมทุน ซินเท็ค-ไมวานซึ่งปัจจุบันเลิกกิจการแล้วในมูลค่าประมาณ 500 ล้านบาท อีกทั้งในสมมุติฐานให้บริษัทมีกำไรพิเศษจากการขายหุ้น BMCL ต้นทุนต่ำออกไปเท่ากับปี 57 ที่ 34 ล้านบาท แต่ใน 1H58 บริษัทยังไม่ได้ขายออกไป โดยบริษัทยังรอดูการควบรวมกิจการกับ BECL อยู่ ที่จะเป็นบริษัทใหม่คือ BEM ในอนาคต
คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาพื้นฐานประเมินด้วย P/E ปี 58 ที่ 11 เท่า ราคาปิดยังมีส่วนเพิ่มได้อีกถึง 44% จุดเด่นคือ บริษัทเน้นงานอาคารสูง เช่น คอนโดมิเนียม ศูนย์การค้า และอาคารสำนักงานเป็นต้น จึงไม่ต้องรองานจากภาครัฐ ในโครงการขนาดใหญ่ (Mega Projects) ดังนั้นในกรณีที่งานก่อสร้างจากภาครัฐออกมาล่าช้า SYNTEC ก็จะได้รับผลกระทบน้อย ส่วนคาดการณ์อัตราการเติบโตกำไรหลักปีนี้เป็น 39% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนส่วนปี 59 อยู่ในเกณฑ์เพียงทรงตัว เนื่องจากไม่มี tax shield มาใช้ได้ แม้กำไรก่อนภาษี (EBT) เพิ่ม 27% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนก็ตาม