ชู 13 บจ.ดาวรุ่ง ลุ้น Outperform ตลาดระยะสั้นSET เสี่ยงลงตามตปท. หลังตลาดหุ้นจีนร่วงหนัก

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้อ่อนแอกว่าที่คาดไว้ และมีโอกาสหลุดแนวรับที่ 1,470 จุด ตามแรงกดดันของตลาดต่างประเทศที่ปรับลงหลังตลาดหุ้นจีนร่วงหนักต่อเนื่อง การลงทุนเน้นกลุ่มที่มีโอกาส Outperform ตลาดระยะสั้น และปันผลสูง


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.05 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 33.94 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ร่วงลง เนื่องจากความวิตกกังวลว่าการปรับตัวลงของตลาดหุ้นจีนอาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก

ขณะที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของจีน (CSRC) ประกาศห้ามไม่ให้นักลงทุนที่ถือหุ้นเกิน 5% ทำการขายหุ้นเป็นระยะเวลา 6 เดือน โดยนักลงทุนกลุ่มดังกล่าวได้รวมถึงบรรดาผู้บริหารของบริษัทเอกชน ข่าวดังกล่าวส่งผลให้ตลาดหุ้นจีนร่วงลงอีกกว่า 3% หลังเปิดตลาดปรับตัวลง 74.74 จุด หรือ 2.13% แตะที่ 3,432.45 จุดในวันนี้

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้อ่อนแอกว่าที่คาดไว้ และมีโอกาสหลุดแนวรับที่ 1,470 จุด ตามแรงกดดันของตลาดต่างประเทศที่ปรับลงหลังตลาดหุ้นจีนร่วงหนักต่อเนื่อง และแนะนำให้ขายทำกำไรหากเกิด Technical Rebound ในช่วง 1-2 วันนี้ การลงทุนเน้นกลุ่มที่มีโอกาส Outperform ตลาดระยะสั้น และปันผลสูง หุ้นเด่นเลือก THCOM-RCL-HANA-BCP-BMCL-IFEC-WHA-TASCO-INTUCH-ADVANC-TRUEIF-ACD และ BIG

 

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (9 ก.ค.) คงน้ำหนักการลงทุนวันนี้เป็น “กลาง” วันที่ 3 พร้อมให้น้ำหนักกับการเกิด Technical Rebound มากกว่าตลาดที่จะปรับฐานลงเป็นวันที่ 2 แต่ด่านสำคัญ 1,480 จุด +/- ยังคงไม่น่าผ่านในช่วงสั้นนี้

กลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง PTTEP แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/58 มีโอกาสขาดทุนสุทธิด้วยการขาดทุนจากการป้องกันความเสี่ยงของราคาน้ำมันดิบ แต่ส่งผลกระทบต่อ PTT จำกัด เพราะมีกำไรจากการขายหุ้น BCP ที่จะบันทึกไตรมาส 2/58 ราว 4 พันล้านบาทก่อนภาษี อีกทั้งราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก แกว่งในกรอบแคบ เพื่อรอดูผลการประชุม World Power ต่อการตรวจสอบโครงการนิวเคลียร์ในอิหร่าน ภายในวันศุกร์นี้จะทราบผลการตรวจว่าจะผ่านหรือไม่ ซึ่งจะมีผลต่อ Upside ของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกช่วงที่เหลือของปีนี้ ดังนั้น หุ้นกลุ่มโรงกลั่น / ปิโตรเคมี จะมีความเด่นกว่า หุ้นน้ำมันเพียงอย่างเดียว

ด้านปัจจัยต่างประเทศ เชื่อว่าตลาดหุ้นจีน/ฮั่งเส็ง ในวันนี้จะเริ่มทรงตัวดีขึ้น หลัง Valuation ของตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ ปรับตัวลงมา เป็น 14.71เท่าและ 12.99 เท่า สำหรับ PER15-16 ตามลำดับ จากระดับสูงสุดในรอบปีนี้ที่ 21.08 เท่าและ 18.40 เท่าตามลำดับ ย่อมทำให้ Bargain Hunter เข้ามาเลือกลงทุนตลาดหุ้นอีกครั้ง และเราเชื่อว่า ทางการจีนจะออกมาตรการพยุงตลาดหุ้น เพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนภายในประเทศอีกครั้ง หากเป็นไปตามที่ประเมินไว้ จะทำให้บรรยากาศตลาดหุ้นในเอเชีย และทั่วโลก ทรงตัวดีขึ้นและรอความชัดเจนกรณีกรีซโดยมีเส้นตายภายในวันอาทิตย์ที่ 12 ก.ค.

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ “นักลงทุนซื้อเก็งกำไรไปก่อนหน้านี้ หาก SET INDEX เกิด Technical Rebound ในช่วง 1-2 วันนี้ ควรพิจารณาขายทำกำไร และกลับมาถือเงินสดอีกครั้ง” เนื่องจากภาพการลงทุนตลาดหุ้นไทยเป็นการแกว่งในกรอบ กลยุทธ์ เทรดดิ้ง หรือ ขึ้นขาย-ลงซื้อ เพื่อปิดความเสี่ยงในช่วงสั้นนี้

Top Pick in Q3/15: BCP/BMCL/IFEC/WHA

Speculative Buy: TASCO

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (9 ก.ค.) ว่า นอกจากปัญหาหนี้กรีซที่ทำให้นักลงทุนอยู่ในสถานะ Risk-Off ตั้งแต่กลางเดือน มิ.ย. การปรับลดลงแรงของตลาดหุ้นจีน และฮ่องกงกดดัน Sentiment ตลาดทั่วโลก ส่งผล SET อ่อนแอกว่าที่คาดไว้ และมีโอกาสหลุดแนวรับที่ 1,470 จุด ไปที่แนวรับระยะสัปดาห์ถัดไปที่ 1,450 +/- จุด

แม้ฝ่ายวิจัยมอง Downside Risk ทางพื้นฐานจำกัดที่ 1,480 จุด และมองเป็นโอกาสในการ “ซื้อ” แต่เนื่องจาก Sentiment ตลาดหุ้นโลกอ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้มากไม่ว่าจะเป็นปัญหากรีซ หรือการปรับลดลงของตลาดหุ้นจีน ทำให้เราแนะนำ “Wait & See” หรือ “Trading” หุ้นเด่นทางเทคนิคระยะสั้นไปก่อน จนกว่าจะเห็นสัญญาณ “กลับตัว” ทางเทคนิค ขณะที่กลุ่มหุ้นที่ยังคาดว่าจะสามารถ Outperform ตลาดระยะสั้นได้แก่ กลุ่มหุ้นปันผลสูง อย่าง INTUCH ADVANC และ TRUEIF

 

บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (9 ก.ค.) ว่า ปัจจัยกดดันจากภายนอก และมีแนวโน้มตัดลด EPS ตลาดลงจากเดิมราว 4% ทำให้มีโอกาสปรับลดดัชนีเป้าหมายจากเดิม 1,480 จุด เหลือ 1,421 จุด กลยุทธ์ยังเน้นหุ้นรายตัวที่มีกำไรเด่นไตรมาส 2-3/58 ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อน (RCL, TASCO, HANA) หรือกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัวน้อย TASCO, THCOM วันนี้เลือก THCOM (FV@B51) เป็น Top Pick

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (9 ก.ค.) คาดการณ์มุมมองทางเทคนิค SET เมื่อวันก่อนลดลงใต้กรอบบนที่ 1,480 และพบรูปของ candlestick แสดงภาพแนวโน้มสวนกลับแท่งรีบาวด์เมื่อวันก่อน สัญญาณ breakdown  ยังทำงาน เราพบว่าค่า MACD อยู่ที่ -7.42 ค่าของ MACD ยังมากกว่าวันก่อน ภาพตลาดจึงอยู่ในทิศทางแกว่งตัวลง สัญญาณขาลงเด่นกว่า sideway ภาพตลาดไร้ทิศทางระยะหนึ่ง (3-4 วัน)

แนวโน้มของตลาดจะเคลื่อนไหวที่กรอบ 1,465-1,480

หุ้นที่เลือกวันนี้มีโอกาสปรับขึ้น แนะนำซื้อเก็งกำไรที่ ACD และ BIG

Back to top button