ลุ้นดีดกลับ ?

*เปิดต้นสัปดาห์ดัชนีมีการเคลื่อนตัวแบบสุดสวิงเริ่มจากการเปิดบวกไปราว 4 จุด และมีแรงขายออกมาทำให้ภาพการลงทุนเคลื่อนไหวทั้งในทางบวกและลบในกรอบแคบ ๆ “โมนิก้า” กลับมองว่าการขยับตัวเที่ยวนี้มีอะไรมากกว่าที่คิดจากข้อมูลที่ได้รับมาอีกทอดหนึ่งก็มีการพูดถึงกรอบลงทุนที่ยังมีลุ้นว่าจะแกว่งตัวขึ้น “เดี๊ยน” ถึงอยากให้นักเล่นอย่าได้มัวแต่เล่นแทงกั๊กหากอยากได้กำไรหนาต้องลุยกันให้สุด


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*เปิดต้นสัปดาห์ดัชนีมีการเคลื่อนตัวแบบสุดสวิงเริ่มจากการเปิดบวกไปราว 4 จุด และมีแรงขายออกมาทำให้ภาพการลงทุนเคลื่อนไหวทั้งในทางบวกและลบในกรอบแคบ ๆ “โมนิก้า” กลับมองว่าการขยับตัวเที่ยวนี้มีอะไรมากกว่าที่คิดจากข้อมูลที่ได้รับมาอีกทอดหนึ่งก็มีการพูดถึงกรอบลงทุนที่ยังมีลุ้นว่าจะแกว่งตัวขึ้น “เดี๊ยน” ถึงอยากให้นักเล่นอย่าได้มัวแต่เล่นแทงกั๊กหากอยากได้กำไรหนาต้องลุยกันให้สุด

*ด้วยเหตุนี้การทำกำไรจึงขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละคนว่าจะสามารถเข้าไปเก็บหุ้นได้ในจังหวะไหน ? หากช้อนหุ้นได้ในราคาต่ำ ๆ ก็คงรู้สึกแฮปปี้ไม่น้อย…แต่ถ้าเข้าไปเก็บหุ้นในราคาสูงก็คงต้องลุ้นตัวโก่ง “โมนิก้า” เลยอยากให้เหล่านักเคาะขยับพอร์ตให้รับกับสถานการณ์ เพราะเมื่อไหร่ที่ตลาดหุ้นยังมีปัจจัยบวกจึงไม่มีความจำเป็นต้องจด ๆ จ้อง ๆ เพราะว่าเหตุผลที่จะทำให้ตลาดหุ้นเกิดความฮึกเหิมในสัปดาห์นี้ยังมีอีกเยอะ !

*กอปรกับแรงซื้อของนักลงทุนหลาย ๆ กลุ่มที่ดูเหมือนจะมีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เกมรอบนี้ที่ต้องสู้รบปรบมือกับเม็ดเงินต่างชาติที่ทำหน้าที่เป็นผู้ขายหลัก อย่างไรก็ตามการที่ดัชนีลงมาปิดที่ระดับ 1,667.23 จุด ลบ 5.10 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขาย 4.94 หมื่นล้านบาท ถึงยังไม่ใช่จังหวะที่ต้องถอยเพราะการซื้อขายระหว่างวันยังแสดงให้เห็นว่ามีนักลงทุนหลายกลุ่มที่พร้อมจะเข้ามาเก็บในช่วงดัชนีปรับตัวลดลงเจ้าค่ะ

*อย่างในรายของ ROJNA ยังคงได้เห็นการบวกสวนตลาดขึ้นมาได้อย่างโดดเด่น มาปิดที่ระดับ 6.05 บาท ปรับตัวขึ้น 0.40 บาท หรือ 7.08% ด้วยมูลค่าการซื้อขายอัดแน่น 171.94 ล้านบาท การปรับตัวขึ้นของหุ้นตัวนี้ในรอบนี้ถือเป็นสิ่งที่ทำให้ตลาดครื้นเครงมากขึ้น เพราะมันหมายถึงในจังหวะที่ดัชนีถูกทิ้งยังมีหุ้นเด่นสตอรี่งามให้แฟนคลับได้เลือกสรรซึ่งจะทำให้การขึ้นเที่ยวนี้สนุกตื่นเต้นยิ่งขึ้นค่ะ

*มาทรงเดียวกันกับหุ้นโรงไฟฟ้าอย่าง BGRIM หลังประกาศข่าวดีจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบโรงโซลาร์เวียดนาม 677 เมกะวัตต์ก็มีแรงซื้อหนุนให้ราคาหุ้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 34.25 บาท ปรับตัวขึ้น 0.75 บาท หรือ 2.24% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 432.07 ล้านบาท เพราะนอกจากเป็นการหนุนให้จำนวนเมกะวัตต์ในมือสูงขึ้นแล้วยังเป็นตัวสนับสนุนให้รายได้ปีนี้โตอย่างต่ำ 15% นาทีนี้มันเป็นภาพที่ย้ำกับนักเล่นสั้นให้ระลึกไว้เสมอว่าเมื่อโอกาสทำกำไรรออยู่เบื้องหน้าก็ไม่มีความจำเป็นต้องรีรออะไรทั้งสิ้นเจ้าค่ะ

*มาที่หุ้นพลังงานทดแทน SUPER กันบ้างวานนี้บรรดาแฟนคลับขาเล็ก-ขาใหญ่เข้ามาลงทุนรอบใหม่อีกครั้งจนราคาหุ้นวิ่งมาปิดที่ระดับ 0.68 บาท บวก 0.02 บาท หรือเพิ่มขึ้น 3.03% ด้วยมูลค่าซื้อขายหนาแน่น 165.26 ล้านบาท ภายหลังจากเฮีย “จอมทรัพย์” ออกมาแจ้งความคืบหน้าการเสนอขายกองทุนอินฟราฯฟันด์ อีกครั้งหลัง 2 โรงไฟฟ้าที่ก.ล.ต.ตั้งเงื่อนไขให้ได้รับใบอนุญาตครบถ้วนก่อนจึงจะไฟเขียวขายหน่วยลงทุนขณะนี้ได้ใบอนุญาต (เกือบ) ครบ และตั้งธงว่าจะเสนอขายได้เร็ว ๆ นี้ มิตรรักแฟนเพลงตั้งหน้าตั้งตาคอยได้เลยเจ้าค่ะ

*หุ้นโรงไฟฟ้าอีกรายที่สร้างสีสันให้ตลาดหุ้นวานนี้คือ EA ขึ้นมาปิดที่ระดับ 53 บาท ปรับตัวขึ้น 0.50 บาท หรือขึ้นไป 0.95% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 975.38 ล้านบาท ซึ่งราคาหุ้นก่อนหน้านี้ยังเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบแคบมองเป็นจังหวะที่น่าลุ้นให้ไปต่อทดสอบไฮเดิมที่ 57.75 บาทอีกครั้งเมื่อภาวะเป็นใจ เพราะจากลักษณะการเคลื่อนไหวของหุ้นถ้ายังไม่หลุดเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน ก็ยังมีโอกาสกลับขึ้นไปยอดเดิมได้ทุกเมื่อเจ้าค่ะ

*กลับมาเล่นกันอีกครั้งสำหรับ TFG จนราคาหุ้นกระชากขึ้นมาปิดที่ระดับ 3.90 บาท บวกไป 0.14 บาท หรือขึ้นไป 3.72% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 50.02 ล้านบาท แรลลี่ไปยาว ๆ ถึง 8 วันติด ด้วยปัจจัยพื้นฐานที่ยังแข็งแกร่งดั่งหินผา เป็นแรงผลักดันให้บรรดาแฟนคลับกระโจนเข้าใส่แบบไม่ยั้ง ผสมโรงกับฝั่งเทคนิคดูเหมือนเป็นการสร้างฐานรอบใหม่หนุนให้หุ้นทะยานต่อ “เดี๊ยน” รับรองว่านาทีนี้ให้เอาอะไรมาฉุดก็หยุดไม่อยู่แล้วเจ้าค่ะ…อิอิ

*ส่วนในรายของ LH ถูกกองทุนรายใหญ่ของรัฐบาลสิงคโปร์ GIC ที่ร่วมหัวจมท้ายกันมานานหลังจากการเข้าเก็บหุ้นเพิ่มทุนตั้งแต่ปี 2542 ก็ถึงเวลาเซย์กู๊ดบายขายล้างพอร์ตด้วยราคาต่ำกว่ากระดานสะเทือนราคาให้ไหลมาปิดที่ระดับ 10.90 บาท ลบไป 0.40 บาท หรือ 3.54% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.31 พันล้านบาท การขายที่ราคาต่ำกว่ากระดานซื้อขายไม่ได้ถือเป็นการขาดทุนสำหรับการลงทุนในหุ้น LH เพราะจากยีลด์ที่สูงถึงปีละ 7-8% เป็นระยะเวลา 20 ปีถือเป็นการได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่า ดังนั้นเมื่อราคาหุ้นเริ่มทรงตัวก็คงถึงเวลาหอบเงินไปลงทุนในธุรกิจอื่นเท่านั้นเองจ้า

*ปิดท้ายที่ AEONTS เปรียบเสมือนความหวังของใครหลาย ๆ คนในช่วงที่เศรษฐกิจภาพรวมยังลุ่ม ๆ ดอน ๆ เพราะปัจจัยพื้นฐานที่ยังหนุนต่อเนื่อง พ่วงด้วยปันผลสม่ำเสมอ ส่งผลให้กลายมาเป็นหุ้นที่มีความน่าสนใจอีกครั้ง วานนี้ถึงได้เห็นการไต่ขึ้นมาปิดที่ระดับ 226 บาท  บวกไป 8 บาท หรือขึ้นไป 3.67% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 250.72 ล้านบาท ทุบสถิติออลไทม์ไฮไปแบบสวย ๆ ยังไงล่ะจ๊ะ

Back to top button