“ออโตคอร์ป โฮลดิ้ง” เคาะเทรด “mai” 27 มิ.ย.62 ระดมทุนขยายสาขาแตะ 15 แห่งภายในปี 65
"ออโตคอร์ป โฮลดิ้ง" หรือ ACG เคาะเทรด “mai” 27 มิ.ย.62 ระดมทุนขยายสาขาแตะ 15 แห่งภายในปี 65
บริษัท ออโตคอร์ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ ACG กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 156 ล้านหุ้น หุ้นละ 1.44 บาท มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท โดยจะเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 19-21 มิถุนายน 2562 คาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 27 มิถุนายนนี้ ในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม (หมวดยานยนต์) โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายว่า “ACG”
ทั้งนี้ ACG แต่งตั้งบล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย โดยมีผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย 5 แห่ง ประกอบด้วย บล.โกลเบล็ก, บล.เคจีไอ (ประเทศไทย), บล.เคทีบี (ประเทศไทย), บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) และ บล.ไอร่า
ด้านนายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ สายงานวาณิชธนกิจ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย หุ้น IPO ของ ACG เปิดเผยว่า การกำหนดราคาขายหุ้น IPO ของ ACG ที่ 1.44 บาท/หุ้น ถือว่าเป็นระดับราคาที่มีความเหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง เนื่องจากสะท้อนปัจจัยพื้นฐานของบริษัท ประกอบกับการกำหนดหุ้นนั้น คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earning Ratio : P/E) เท่ากับ 18.70 เท่า
โดยคำนวณกำไรสุทธิของบริษัทในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2561 ถึงไตรมาส 1 ปี 2562 (4 ไตรมาสย้อนหลัง) ซึ่งมีกำไรสุทธิเท่ากับ 46.37 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัท ซึ่งเท่ากับ 600 ล้านหุ้น (Fully Diluted) จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.077 บาท โดยเป็นการคำนวณจากผลประกอบการในอดีต ซึ่งยังไม่ได้พิจารณาถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ทั้งนี้ P/E Ratio ไม่มีบริษัทจดทะเบียนที่ประกอบธุรกิจที่มีผลิตภัณฑ์เหมือนหรือใกล้เคียงกับธุรกิจของบริษัท และเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการประเมินราคาหุ้นที่เสนอขาย และเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุน จึงแสดงอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้นของตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ซึ่งเป็นตลาดหลักทรัพย์ที่บริษัท จะเข้าไปจดทะเบียน เฉลี่ยในช่วงระยะเวลา 3 เดือนย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม 2562 ถึง 12 มิถุนายน 2562 ซึ่งมีค่าเท่ากับ 48.26 เท่า
ด้านนายภานุมาศ รังคกูลนุวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ ACG กล่าวว่า บริษัทเตรียมนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ ไปใช้ในการลงทุนตามแผนการขยายสาขาให้ครบทุกภูมิภาคของไทยภายในปี 2565 ซึ่งจะทำให้มีสาขาและศูนย์บริการรวมกันทั้งสิ้น 15 สาขาทั่วประเทศ จากปัจจุบันที่มีแล้ว 9 สาขา ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันให้ยอดขาย กำไร และส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น
“การขยายสาขาไปยังภูมิภาคต่างๆ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการขยายฐานลูกค้ามากขึ้น สร้างโอกาสในการเติบโตให้กับกลุ่ม ACG ในฐานะดีลเลอร์รถยนต์รายใหญ่ของฮอนด้า ทำให้ฐานที่มาของรายได้และกำไรมากขึ้นตามปริมาณการขายรถยนต์ที่จะเพิ่มขึ้น ทั้งจากรายได้จากการขาย งานบริการซ่อมบำรุงและจำหน่ายอะไหล่ รวมไปถึงรายได้ค่านายหน้าจากการเสนอบริการสินเชื่อเช่าซื้อและประกันภัยรถยนต์ นอกเหนือจากรายได้จากการจำหน่ายรถยนต์และอุปกรณ์ตกแต่ง ซึ่งเป็นรายได้หลัก” นายภานุมาศ กล่าว
นายภานุมาศ กล่าวอีกว่า ในฐานะที่เป็นทั้งผู้ถือหุ้นรายใหญ่และผู้บริหารของ ACG มีความตั้งใจอย่างสูงที่จะผลักดันให้บริษัท เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และยั่งยืนต่อไปในอนาคตให้ได้ ควบคู่กับความสามารถที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นทุกคนด้วย ซึ่งการก้าวเข้ามาเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ครั้งนี้ถือเป็นจุดสำคัญในการก้าวไปข้างหน้าให้ถึงเป้าหมายที่ตั้งใจเอาไว้
อนึ่ง ACG ประกอบธุรกิจการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding company) ที่ประกอบธุรกิจจำหน่ายและการให้บริการในอุตสาหกรรมรถยนต์ และธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่อง อื่น ๆ ปัจจุบัน ถือหุ้นในบริษัทย่อย คือ บริษัท ฮอนด้ามะลิวัลย์ จำกัด (บริษัทแกน) ซึ่งเป็นบริษัทผู้จำหน่ายและศูนย์บริการรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า