สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 19 มิ.ย.62

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 มิ.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวานนี้ พร้อมกับส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอย่างใกล้ชิด หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ต่างก็ออกมายืนยันว่าจะพบปะกันนอกรอบการประชุมซัมมิตกลุ่ม G20 ที่นครโอซากาของญี่ปุ่นในสัปดาห์หน้า

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,504.00 จุด เพิ่มขึ้น 38.46 จุด หรือ +0.15% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,926.46 จุด เพิ่มขึ้น 8.71 จุด หรือ +0.30% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,987.32 จุด เพิ่มขึ้น 33.44 จุด หรือ +0.42%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (19 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายหุ้น ขณะรอผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยหลังจากตลาดหุ้นยุโรปปิดทำการไปแล้วนั้น คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟด มีมติ 9-1 เสียงในการคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 2.25-2.50% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้

นอกจากนี้ เฟดยังได้ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจ และการคาดการณ์เงินเฟ้อที่ลดลง

ดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับลง 0.01 จุด ปิดที่ 384.77 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,518.45 จุด เพิ่มขึ้น 8.73 จุด หรือ +0.16% ขณะที่ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,308.53 จุด ลดลง 23.22 จุด หรือ -0.19% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,403.54 จุด ลดลง 39.50 จุด หรือ -0.53%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (19 มิ.ย.) โดยหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ถ่วงตลาดลง หลังบริษัทริโอ ทินโต ปรับลดคาดการณ์การส่งออกแร่จากออสเตรเลีย นอกจากนี้ เงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้นก่อนการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ ถ่วงหุ้นกลุ่มส่งออกลงด้วย ขณะที่นักลงทุนชะลอการซื้อขายหุ้น เพื่อรอผลการประชุมกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) 

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,403.54 จุด ลดลง 39.50 จุด หรือ -0.53%

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (19 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐดีดตัวขึ้นขานรับความหวังในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการซื้อขายก่อนที่คณะกรรมการเฟดจะแถลงมติการประชุม

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 1.9 ดอลลาร์ หรือ 0.14% ปิดที่ 1,348.8 ดอลลาร์/ออนซ์                   

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 3.5 เซนต์ หรือ 0.23% ปิดที่  14.958  ดอลลาร์/ออนซ์ 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 3.8 ดอลลาร์ หรือ 0.47% ปิดที่ 805.8 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. พุ่งขึ้น 19.30 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 1,492.60 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (19 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี สัญญาน้ำมันดิบ WTI ขยับลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากตลาดได้รับปัจจัยหนุนจากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ลดลงมากกว่าตัวเลขคาดการณ์

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 14 เซนต์ หรือ 0.26% ปิดที่ 53.76 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 32 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 61.82 ดอลลาร์/บาร์เรล

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (19 มิ.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวานนี้ พร้อมกับส่งสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีนี้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจ

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 107.97 เยน จากระดับ 108.44 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9922 ฟรังก์ จากระดับ 1.0000 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3292 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3382 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1244 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1194 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2666 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2560 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.6889 ดอลลาร์ จากระดับ 0.6874 ดอลลาร์