ธปท.คุมเข้มทุกธุรกรรม ป้องกันเก็งกำไรค่าเงินหลังบาทแข็งหนัก! ล่าสุดแตะ 30.94 เทียบดอลลาร์
ธปท.คุมเข้มทุกธุรกรรม ป้องกันเก็งกำไรค่าเงินหลังบาทแข็งหนัก! ล่าสุดแตะ 30.94 เทียบดอลลาร์
น.ส.วชิรา อารมย์ดี ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า ธปท. จะเพิ่มความเข้มงวดในการติดตามธุรกรรมที่มีวัตถุประสงค์ในการใช้ไทยเป็นแหล่งพักเงินระยะสั้นเพื่อเก็งกำไรค่าเงินบาท ซึ่งเป็นสิ่งที่ ธปท. ไม่พึงประสงค์ เนื่องจากในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปรับแข็งค่าขึ้นเร็ว และแข็งกว่าสกุลเงินส่วนใหญ่ในภูมิภาค ซึ่งมาจากปัจจัยทั้งภายนอกและภายในประเทศ โดยปัจจัยภายนอกมีบทบาทสำคัญที่ทำให้เงินบาทและเงินสกุลกลุ่มประเทศเกิดใหม่ผันผวนสูง
“ธปท.ได้ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด โดยหากแข็งค่าต่อเนื่อง และเร็วขึ้นเทียบกับสกุลคู่ค้าคู่แข่ง อาจเป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานของไทย และอาจส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจจริงและการปรับตัวของผู้ประกอบการ” น.ส.วชิรา กล่าว
พร้อมกันนั้น ธปท.ยังระบุว่า ในระยะต่อไป ปัจจัยภายนอกจะยังคาดการณ์ได้ยาก และจะส่งผลให้ค่าเงินสกุลประเทศเกิดใหม่ผันผวนได้ต่อเนื่อง ภาคเอกชนจึงควรพิจารณาป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ขณะที่การแข็งค่าของเงินบาทเป็นจังหวะที่ดีสำหรับผู้มีภาระหนี้หรือค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระเป็นสกุลเงินต่างประเทศ รวมทั้งธุรกิจสามารถนำเข้าสินค้าและเครื่องจักร หรือเพิ่มการลงทุนในต่างประเทศด้วยต้นทุนค่าเงินที่ถูกลง
ด้าน นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 30.94 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าต่อเนื่องจากเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 31.12/14 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินหลัก หลังประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 30.91 – 31.17 บาท/ดอลลาร์
“วันนี้บาทค่อนข้างผันผวนในขาล่าง เนื่องจากมีการย่อยข่าวเรื่องเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยคาดว่าอาจมีการปรับลดถึง 3 ครั้ง โดยบาทแข็งค่าสุดที่ระดับ 30.91 บาท/ดอลลาร์ ในรอบ 6 ปี นับตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน 2013 และเงินบาทแข็งค่ามากสุดรองจากเงินวอนเกาหลีใต้ ประกอบกับมี flow ไหลเข้ามาต่อเนื่อง” นักบริหารเงิน ระบุ
นักบริหารเงิน คาดวันพรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.85 – 31.10 บาท/ดอลลาร์ สำหรับทิศทางบาทวันพรุ่งนี้น่าจะยังคงผันผวนต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยเพิ่มเติมเรื่องสงครามการค้า