PRO โชว์กำไรโตสนั่น 3 ปีติด รับอานิสงส์ EEC เล็งยื่นขอกลับเข้าเทรดถาวรปีหน้า
PRO โชว์กำไรโตสนั่น 3 ปีติด รับอานิสงส์โครงการ EEC หนุนคว้างานเพิ่ม เล็งยื่นขอกลับเข้าเทรดถาวรปีหน้า
รศ.ดร. วิไลลักษณ์ สกุลภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โปรเฟสชันแนล เวสต์ เทคโนโลยี (1999) จำกัด (มหาชน) หรือ PRO เปิดเผยว่า หลังจากได้เข้ามาถือหุ้นใหญ่ และเข้ามาบริหารงานได้ร่วม 5 ปี สามารถปรับปรุงธุรกิจให้เข้มแข็งขึ้นอย่างมั่นคง และสร้างผลประกอบการให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
โดยบริษัทฯ มีรายได้รวม 266 ล้านบาทในปี 2560 และ 277 ล้านบาทในปี 2561 ในขณะที่กำไรสุทธิเติบโตสูง 65% เช่นกัน จากกำไรสุทธิ 20 ล้านบาทในปี 2560 เป็น 33 ล้านบาทในปี 2561 ส่วนในไตรมาส 1 ปี 2562 บริษัทฯยังเติบโตต่อเนื่อง มีรายได้รวม 76 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 54 ล้านบาทในปี 2561 และมีกำไรสุทธิในไตรมาส 1 ปีนี้จำนวน 13 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากกำไรสุทธิ 0.45 ล้านบาทในไตรมาส 1 ปี 2561 ซึ่งด้วยผลประกอบการที่มีรายได้และผลกำไรสุทธิเติบโตต่อเนื่อง บริษัทฯมีแผนที่จะยื่นขออนุญาตนำหุ้นกลับเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์อย่างถาวรในปีหน้า
“จุดเด่นของ PRO มีหลายประการ คือ บริษัทเป็นผู้ให้บริการรับบำบัดของเสียอุตสาหกรรม ทั้งที่เป็นอันตรายและไม่เป็นอันตราย โดยมีพื้นที่ของโครงการขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ มีพื้นที่โดยรวมทั้งหมด 918 ไร่ ซึ่งพื้นที่ที่ใช้งานในปัจจุบันใช้ไปเพียง 1 ใน 3 ของพื้นที่ทั้งหมดเท่านั้น ฉะนั้น PRO มีศักยภาพในการรองรับกากของเสียให้บริการได้อีกไม่ต่ำกว่า 30 ปี ยิ่งกว่านั้น บริษัทฯ มีสถานะการเงินที่เข้มแข็ง มีอัตรากำไรสุทธิที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และไม่มีหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย
นอกจากนี้บริษัทยังมีธุรกิจหลอมอลูมิเนียมสำเร็จรูป ดำเนินธุรกิจ โดยบริษัทย่อยคือ บริษัท เจทีเอส อลูมิเนียม แอนด์ เมทเทิล จำกัด ดำเนินธุรกิจภายใต้ใบอนุญาตอย่างถูกต้องของกรมโรงงาน โดยนำอลูมิเนียมและขี้เถ้าอลูมิเนียม นำกลับมาหลอมใหม่ด้วยเทคโนโลยีที่ได้รับมาตรฐาน เพื่อจำหน่ายให้ลูกค้าในประเทศต่อไป ซึ่งธุรกิจนี้มีอัตรากำไรที่ดีและมีอนาคตที่จะเติบโตต่อเนื่อง” รศ.ดร. วิไลลักษณ์ กล่าว
ด้าน นายพลพิพัฒน์ ศรีสุวรรณ กรรมการบริหาร PRO เปิดเผยว่า ธุรกิจหลักของ PRO คือ 1. การกำจัดกากอุตสาหกรรม ที่ไม่เป็นอันตรายและเป็นอันตราย ซึ่งใช้ระบบฝังอย่างปลอดภัยและถูกหลักสุขาภิบาล (Sanitary & Secure Landfill) โดยมี ศูนย์บำบัดกากอุตสาหกรรม จังหวัดสระแก้ว พื้นที่ 918 ไร่ โดยมีกำลังการผลิตการกำจัดกากอุตสาหกรรมแบบที่เป็นอันตราย 82,500 ตันต่อปี และมีกำลังการผลิตการกำจัดกากอุตสาหกรรมแบบที่ไม่เป็นอันตราย 330,000 ตันต่อปี
ทั้งนี้บริษัทได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน ลำดับที่ 101, 105, 106 ที่ได้รับจากกรมโรงงานกระทรวงอุตสาหกรรมและความเห็นชอบในรายงานผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากสำนักงานนโยบายสิ่งแวดล้อม เป็นใบอนุญาตความเห็นชอบที่ไม่มีข้อจำกัดเรื่องระยะเวลา และไม่ต้องต่ออายุ 2. การนำของเสียมาใช้รีไซเคิล คือการทำเชื้อเพลิงผสม เป็นระบบที่ใช้ในการผสมและปรับสภาพกากของเสียที่มีความร้อน ให้กลายเป็นพลังงานทดแทนหรือเชื้อเพลิงทดแทนสำหรับเตาเผาโรงงานปูนซีเมนต์ 3. ระบบบำบัดน้ำเสียที่เป็นอันตรายและไม่เป็นอันตราย จากหลุมฝังกลบและน้ำเสียจากกิจกรรมต่างๆในโรงงาน ซึ่งมีความสามารถในการบำบัดสูงสุด 70 – 125 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน
โดยบริษัทมีแผนและนโยบายในการพัฒนาและเพิ่มศักยภาพในการให้บริการโดยในปีที่ผ่านมามีการก่อสร้างอาคารห้องปฎิบัติการแห่งใหม่ เพื่อรองรับการวิเคราะห์กากอันตราย ซึ่งจะมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นในอนาคต และมีแผนในการก่อสร้างโรงงานทำปุ๋ยและโรงงานทำอิฐบล็อกเพื่อนำกากอุตสาหกรรมบางชนิดให้สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้อีก
นอกจากนี้ บริษัทได้รับประโยชน์จากนโยบาย EEC ของรัฐบาลที่ส่งเสริมการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมโดยมีโครงการเขตพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกเพื่ออนาคตของประเทศไทย ทำให้มีการเปิดโรงงานอุตสาหกรรมเพิ่มมากขึ้นกว่า 20,000 โรงงาน ในเขตจังหวัด ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา สระแก้ว และ ปราจีนบุรี ทำให้บริษัทมีโอกาสได้งานเพิ่มมากขึ้นจากการเปิดโรงงานที่เพิ่มขึ้นเพื่อรองรับ EEC
อนึ่ง PRO ให้บริการเพื่อการจัดการกากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตรายและไม่เป็นอันตรายโดยทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์ในธุรกิจการให้บริการบำบัดและกำจัดกากอุตสาหกรรม เพื่อให้เป็นไปด้วยความถูกต้อง ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมเป็นอันดับแรก โดยมีบริษัทย่อยที่ดำเนินงานได้แก่ บริษัท เจ ที เอส อลูมิเนียม แอนด์ เมทเทิล จำกัด, บริษัท เบกีมานน์ เมอร์คิวรี เทค (บี เอ็มทีขเอเชีย) จำกัด, บริษัท โปรเฟสชั่นแนล เวสต์ เทคโนโลยี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และ บริษัท เวสท์ เอ็กเชนจ์ จำกัด