สรท.หั่นคาดการณ์ส่งออกปีนี้เหลือ -1% ชี้ยอดพ.ค.หดตัวเซ่นสงครามการค้าสหรัฐ-จีน

สรท.หั่นคาดการณ์ส่งออกปีนี้เหลือ -1% ชี้ยอดพ.ค.หดตัวเซ่นสงครามการค้าสหรัฐ-จีน


สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือสภาผู้ส่งออก ปรับลดประมาณการส่งออกไทยในปีนี้ลดลงเหลือ -1% จากเดิมที่เคยคาดโต 1% หลังมูลค่าการส่งออกในเดือนพ.ค.62 ยังคงหดตัวต่อเนื่อง และผลกระทบจากปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ และจีน

“ยอดส่งออกตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนพฤษภาคม ติดลบไปแล้ว -2.7% เดือนนี้ติดลบสูงมาก ทำให้กังวลว่าช่วงเวลาที่เหลือในทิศทางใด โอกาสที่จะเติบโตค่อนข้างริบหรี่ น่าจะหดตัว -1% จากภาวะสงครามการค้า” น.ส.กัณญภัค ตันติพิพัฒน์พงศ์ ประธาน สรท.กล่าว

พร้อมระบุว่า สถานการณ์ทางการเมืองยังขาดความชัดเจนในเรื่องของนโยบาย เนื่องจากการจัดตั้งรัฐบาลยังไม่เรียบร้อย

โดยล่าสุด กระทรวงพาณิชย์แถลงการส่งออกไทยเดือนพ.ค.62 มีมูลค่า 21,017 ล้านดอลลาร์ หดตัว -5.79% ในขณะที่ภาพรวมการส่งออกไทยช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-พ.ค.62) มีมูลค่ารวม 101,561 ล้านดอลลาร์ หดตัว -2.7%

น.ส.กัณญภัค ตันติพิพัฒนพงศ์ ประธานสภาผู้ส่งออก กล่าวว่า สรท.ได้ปรับลดคาดการณ์การส่งออกในปีนี้ลงเหลือ -1 ถึง 0% บนสมมติฐานว่า ค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 33.00 บาท/ดอลลาร์ (+/- 0.50 บาท/ดอลลาร์) จากอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 30 มิ.ย. อยู่ที่ 30.765 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 31.37-30.78 บาท/ดอลลาร์

ขณะที่ยังมีความเสี่ยงที่อุปสรรคต่อการส่งออกของไทย ได้แก่ 1.ความผันผวนของเงินบาท ที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งไม่สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน และความไม่ชัดเจนในการดำเนินนโยบายเพื่อจัดการอัตราแลกเปลี่ยนของธนาคารแห่งประเทศไทย 2.สงครามการค้าส่งผลกระทบต่อประเทศคู่ค้า และคู่แข่งที่สำคัญของไทย 3.ราคาน้ำมันที่มีความผันผวนจากมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านของสหรัฐที่มีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น 4. สินค้าโภคภัณฑ์ได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาท และ 5.ปัจจัยด้านโครงสร้าง ได้แก่ เทคโนโลยีที่ล้าสมัยในอุตสาหกรรมรถยนต์

อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยบวกสำคัญ คือ

1.ไทยในฐานะประธานอาเซียน สนับสนุนกรอบความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) แล้วเสร็จภายในปี 2562 ซึ่งสมาชิกมีมูลค่าการค้ารวมกันกว่า 10 ล้านล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 29% ของมูลค่าการค้าโลก

2.การส่งออกไทยยังขยายตัวได้ดีในหลายตลาด โดยเฉพาะตลาดอินเดียและตลาดดาวรุ่ง เช่น แคนาดา รัสเซีย และซีไอเอส โดยสินค้าเกษตร อาหารและเครื่องดื่ม สินค้าเครื่องสำอาง ยังขยายตัวได้ดีมาก

3.ผลการตัดสินขององค์การการค้าโลก (WTO) กรณีที่จีนผิดข้อตกลง WTO ในการจัดสรรโควตาสินค้าเกษตรจำพวกข้าว และข้าวโพดตามที่สหรัฐอเมริกาได้ทำการฟ้องร้องอาจเป็นโอกาสของไทยในการส่งออกข้าวไปยังประเทศจีนได้เพิ่มขึ้น

4.กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายในการจัดสรรงบประมาณสำหรับช่วยเหลือผู้ผลิตที่ได้รับผลกระทบการเปิดเสรีทางการค้า (กองทุน FTA) ซึ่งเป็นการส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการ 5. สหรัฐฯ ยืนยันไม่ขึ้นภาษีส่วนที่เหลืออกี 3.25 แสนล้านดอลลาร์จากจีน และส่งสัญญาณกลับมาสู่การเจรจากันอีกครั้ง ทำให้บรรยากาศการค้าโลกดีขึ้น

 

 

Back to top button