พาราสาวะถี

วันนี้ยังเป็นวันหยุดราชการต่อเนื่อง ดังนั้น ทำให้รัฐมนตรีของรัฐบาลประยุทธ์ 2/1 จึงจะเข้าทำงานกันหลังเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนในวันพรุ่งนี้เป็นวันแรกส่วนใหญ่ มีเพียงบางรายเท่านั้นที่ถือเรื่องฤกษ์ผานาที จะเข้ากระทรวงกันในวันศุกร์ อย่างที่ทราบกัน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา โชว์ฟิตเรียกประชุมครม.นัดแรกทันทีหลังจากเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน แต่ประเด็นสำคัญที่หารือเป็นเรื่องของการรับทราบนโยบายและการแต่งตั้งเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเท่านั้น


อรชุน

วันนี้ยังเป็นวันหยุดราชการต่อเนื่อง ดังนั้น ทำให้รัฐมนตรีของรัฐบาลประยุทธ์ 2/1 จึงจะเข้าทำงานกันหลังเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนในวันพรุ่งนี้เป็นวันแรกส่วนใหญ่ มีเพียงบางรายเท่านั้นที่ถือเรื่องฤกษ์ผานาที จะเข้ากระทรวงกันในวันศุกร์ อย่างที่ทราบกัน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา โชว์ฟิตเรียกประชุมครม.นัดแรกทันทีหลังจากเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน แต่ประเด็นสำคัญที่หารือเป็นเรื่องของการรับทราบนโยบายและการแต่งตั้งเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเท่านั้น

ไม่มีอะไรพลิกโผ ดิสทัต โหตระกิตย์ ได้รับเก้าอี้ตามคาด เป็นไปตามที่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจมีความประสงค์ ส่วนหลังจากนี้เป็นเรื่องที่รัฐมนตรีแต่ละคนต้องไปทำการบ้าน เตรียมพร้อมรับมือการอภิปรายร่างนโยบายของรัฐบาลจาก 7 พรรคฝ่ายค้านให้ดี ไม่เว้นแม้กระทั่งผู้นำรัฐนาวา ที่ถูกเพ่งเล็งเรื่องคุณสมบัติอย่างเป็นพิเศษ โหมโรงกันจนกระทั่งต้องดักคอกันไว้ล่วงหน้าว่า ฝ่ายค้านอย่าพูดผิดเวทีนี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาอภิปรายไม่ไว้วางใจกัน

เป็นธรรมดาของคนที่ถนัดชี้นิ้วสั่งซ้ายหันขวาหัน พอมารับตำแหน่งที่ไร้ซึ่งอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดและมาตรายาวิเศษที่งัดมาใช้เป็นว่าเล่น ต้องออกตัวตีกันกันไว้แต่เนิ่น ๆ อย่าได้ดูแคลนประชาชนยุคดิจิทัล ส่วนใหญ่ไม่ได้กินหญ้า ทุกคนย่อมรู้ดีว่า สิ่งที่ฝ่ายค้านกล่าวหาและฝ่ายรัฐบาลแก้ต่าง ใครพูดเท็จ ใครพูดจริง ใครสีข้างเข้าถู ทุกอย่างต้องว่าไปตามความเป็นจริง ศรัทธา ความเชื่อถือ ไม่ได้เกิดจากการยกยอปอปั้นของพวกที่หวังยศถาบรรดาศักดิ์

ดักคอท่านผู้นำไว้เหมือนกัน สุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ที่ช่วงนี้มีบทบาทอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เรื่องการจี้ประธานสภาผู้แทนราษฎรอย่าบิดพลิ้วต่อการตั้งคณะกรรมาธิการตรวจสอบกระบวนการสรรหาส.ว.ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นกรรมาธิการศึกษาที่มาส.ว. ล่าสุด กระทุ้งท่านผู้นำเบา ๆ นอกจากจะไม่เข้าใจปรัชญาประชาธิปไตยแล้ว ยังไม่รู้เรื่องกลไกของสภาด้วย เรื่องนี้น่าห่วง พร้อมทั้งฝากให้ศึกษาประเพณีปฏิบัติของสภาที่ทำกันมาในแต่ละยุคด้วย

การอภิปรายนโยบายของรัฐบาลก็คือ การแสดงความเห็นว่านโยบายของรัฐบาลจะตอบโจทย์ของประเทศและประชาชนหรือไม่ จัดได้สอดคล้องกับข้อกำหนดของกฎหมายที่เกี่ยวข้องตลอดทั้งแผนยุทธศาสตร์หรือไม่ ได้คำนึงถึงสถานะการเงินการคลังของประเทศเพียงใด แต่แหม!สุทินมาจี้ประเด็นตรงนี้ ระวังจะถูกสวนเอาว่า ทั้งยุทธศาสตร์ชาติ การปฏิรูปและเรื่องแนวทางการเงินการคลังที่ดีนั้น องคาพยพของเผด็จการเขาวางกับดักไว้กับมือ (ฮา)

อย่างไรก็ตาม ความประหวั่นพรั่นพรึงของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจต่อการอภิปรายของฝ่ายค้านนั้น อาจเป็นเพียงแค่ลีลา เพราะความจริงแล้วอย่างที่รู้กันพรรคแกนนำรัฐบาลหรือแม้กระทั่งพรรคร่วมและอาจรวมถึงส.ว.ลากตั้ง เนื่องจากการแถลงนโยบายของรัฐบาลนั้นเป็นการแถลงต่อที่ประชุมรัฐสภา คนเหล่านั้นคงจะไม่ปล่อยให้ผู้มีพระคุณถูกโจมตีหรือตีกินเป็นอันขาด ที่บอกว่าไม่มีองครักษ์พิทักษ์ท่านผู้นำหรือรัฐมนตรีนั้น ใครเชื่อลมปากนักการเมืองก็บ้าแล้ว

สรุปคือไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ขอเพียงท่านผู้นำนั่งฟังการอภิปรายให้ครบทั้ง 3 วันที่วางกันไว้ก็แล้วกัน สิ่งสำคัญที่ต้องสะกิดกันตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็คือ อย่าเผลอไปทุบโต๊ะยึดอำนาจเหมือนเมื่อ 22 พฤษภาคม 2557 อีกก็แล้วกัน ถ้าเห็นว่าในสภาทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ถกเถียงกันจนหาทางลงไม่ได้ เพราะวันนี้ท่านผู้นำได้ปรับภาพลักษณ์เป็นคนใจเย็น ไม่โมโหเหมือนกว่า 5 ปีที่ผ่านมาแล้ว หรือจะฝากเตือนไปยังผบ.เหล่าทัพที่เป็นส.ว.โดยตำแหน่งด้วยก็ได้ อย่าลืมตัวทุบโต๊ะตามผู้นำเผด็จการด้วยก็แล้วกัน

ปมว่าด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นไม้เด็ด (หลอกกองเชียร์) ของพรรคประชาธิปัตย์ ฟังจากปากพลเอกประยุทธ์ว่าต้องแก้ไข กฎหมายทุกฉบับที่เป็นปัญหาต้องแก้ไข คำถามก็คือแค่ลมปากจะทำให้คนเชื่อได้อย่างนั้นหรือ ขนาดเรื่องเลือกตั้งยังเลื่อนกันมาจนไม่กล้าเปิดเพลงที่มีเนื้อหาว่าเราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นานมาจนถึงทุกวันนี้ นี่เรื่องที่เป็นผลกระทบต่อการอยู่ในอำนาจของตัวเองแท้ ๆ ใครมันจะมายอมให้แก้กันได้ง่าย ๆ

คำถามคงอยู่ที่พรรคเก่าแก่ จะแถ อุ๊ย!จะชี้แจงให้กองเชียร์เข้าใจอย่างไร ถ้าในขวบปีแรกไม่ได้แก้ ก็หมายความว่าไม่ต้องแก้กันแล้วใช่หรือไม่ เหตุผลเพียงแค่ว่าต้องดูแลปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชนเป็นอันดับแรกก่อนมันไม่น่าจะฟังขึ้น มีเพียงพวกบ้องตื้นเท่านั้นที่คิดว่าพูดแบบนี้แล้วคนจะเชื่อ เนื่องจากงานบริหารประเทศเป็นเรื่องของรัฐบาล ส่วนงานแก้ไขข้อกฎหมายเป็นเรื่องฝ่ายนิติบัญญัติ ดังนั้น อย่าเที่ยวอ้างเรื่อยเปื่อย

คงต้องรอดูว่าเจอคำถามแบบนี้ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ จะชี้แจงอย่างไร แต่ช่วงนี้คงไม่ว่าง เนื่องจากต้องจัดการวางแผนต่อกระบวนการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยเฉพาะฐานเสียงสำคัญของพรรคอย่างภาคใต้ พุ่งเป้าไปที่การแก้ไขปัญหาราคายางพารา ปาล์มน้ำมัน เป็นหลัก นอกจากจะต้องเดินตามวิธีที่พรรควางแผนกันไว้แล้ว ยังต้องจับสัญญาณของเกษตรกรการเมืองทั้งหลายด้วยว่า รับในสิ่งที่ผู้มาใหม่จะทำหรือไม่

ส่งสัญญาณมาแล้วจากเครือข่ายยางและสถาบันเกษตรกรยางพารา อ้างว่าไม่อยากเห็นการแก้ปัญหาแบบประชานิยมขอให้มองไปในระยะยาวและยึดแนวทางของผู้นำเผด็จการเป็นหลัก เท่านี้ก็เห็นแล้วว่า สิ่งที่รัฐมนตรีใหม่จะเข้ามาจัดการตามแนวทางของพรรคนั้น ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด อย่าลืมเป็นอันขาดว่าที่มาของพรรคสืบทอดอำนาจนั้น ก็เกิดจากการใช้เครือข่ายแหกตาประชาชนนี่แหละ แต่บังเอิญว่าคนส่วนใหญ่ไม่ได้หลงกล เพราะรู้กันมาตั้งเริ่มขยับแล้วว่าใครทำอะไรเพื่ออะไร

เหมือนประเด็นการหมดอำนาจไปของคสช. แต่คนจำนวนไม่น้อยยังไม่เชื่อว่าจะสิ้นฤทธิ์อย่างแท้จริง วันนี้มีการพูดถึงปมอำนาจที่ถูกถ่ายเทไปยังกอ.รมน. กรณีสามารถเรียกคนมาปรับทัศนคติได้หากเห็นว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง เรื่องนี้มีการชี้แจงมาจากหน่วยงานแล้ว แต่จะให้คนเชื่อก็ต่อเมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่งแล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะตลอด 5 ปีที่ผ่านมานั้น ปมความมั่นคงมันถูกนำมาใช้เล่นงานฝ่ายตรงข้ามผู้มีอำนาจอย่างต่อเนื่องนั่นเอง

Back to top button