MAJOR จากปลายสู่ต้น..!
ถ้าพูดถึงเจ้าพ่อโรงภาพยนตร์ ต้องยกให้บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR !!
สำนักข่าวรัชดา
ถ้าพูดถึงเจ้าพ่อโรงภาพยนตร์ ต้องยกให้บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR !!
ถือเป็นหุ้นที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งอีกหนึ่งตัวที่น่าจับตา…
ดูได้จากตัวเลขสำคัญทางการเงิน จะเห็นว่า แม้เศรษฐกิจโตไม่ดีนัก
แต่…รายได้และกำไรของ MAJOR ยังเติบโตสม่ำเสมอทุกปี
โดยปี 2558 มีรายได้รวม 9,201 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 1,170 ล้านบาท ปี 2559 มีรายได้รวม 9,580 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 1,188 ล้านบาท ปี 2560 มีรายได้รวม 9,937 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 1,193 ล้านบาท ปี 2561 มีรายได้รวม 10,671 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 1,283 ล้านบาท
ล่าสุดไตรมาส 1/62 มีรายได้รวม 2,513 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 205 ล้านบาท
ขณะที่อัตรากำไรสุทธิอยู่ระดับที่ดี…ปี 2558 มีอัตรากำไรสุทธิ 12.72% ปี 2559 มีอัตรากำไรสุทธิ 12.40% ปี 2560 มีอัตรากำไรสุทธิ 12.01% และปี 2561 มีอัตรากำไรสุทธิ 12.03%
ที่สำคัญ ถือเป็นหุ้นที่มียีลด์ค่อนข้างสูง อยู่ที่ 4.66%
อีกทั้งยังมีเสถียรภาพทางด้านราคา จะเห็นว่าราคาไม่ค่อยสวิงมากนัก
แถมเป็นหุ้นที่หมายตาของกองทุนอีกด้วย…
แต่…จุดที่น่าสนใจ MAJOR กำลังจะเปลี่ยนโฉมจากผู้ฉายภาพยนตร์…ไปสู่ผู้สร้างภาพยนตร์…
ด้วยการทุ่มงบ 30 ล้านบาท ตั้งบริษัทย่อยใหม่ ภายใต้ชื่อบริษัท ไท เมเจอร์ จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตภาพยนตร์ไทย
MAJOR จะเข้ามาถือหุ้นในบริษัทใหม่สัดส่วน 60% ที่เหลือ 40% เป็นผู้ถือหุ้นรายย่อยอื่น
ส่วนเหตุผลที่ MAJOR ไม่ถือหุ้นบริษัทใหม่ทั้ง 100% ก็ไม่มีนัยยะอะไร
แค่ต้องการกระจายความเสี่ยงเท่านั้น…
สิ่งที่น่าจับตา ถ้าหนังของ MAJOR ได้รับกระแสตอบรับดี…
MAJOR จะสามารถกำหนดรอบการฉายได้มากขึ้น ในขณะที่ต้นทุนเท่าเดิม
นั่นหมายถึงรายได้และกำไรเนื้อ ๆ เน้น ๆ !!
ต่างจากหนังลิขสิทธิ์ ที่กำหนดรอบการฉายไว้ชัดเจนแล้ว
แม้หนังจะได้รับกระแสตอบรับดีแค่ไหน…เมื่อครบกำหนดก็ต้องลาโรง
โจทย์ของ MAJOR จึงขึ้นอยู่กับว่า จะสามารถสร้างหนังได้ถูกจริตคนไทยมากน้อยแค่ไหน ??
แต่…ในฐานะที่เป็นผู้ฉายภาพยนตร์มาก่อน…
ก็น่าจะมีข้อมูลของผู้ชมระดับหนึ่งแหละ
ก็หวังว่า การเดินเกมจากผู้ฉาย…ไปสู่ผู้สร้าง จะเป็นอีกก้าวที่ทำให้ MAJOR เติบโตแบบติดปีก
ซึ่งจะเป็นอย่างที่คาดหรือไม่ ? อันนี้ต้องติดตามกันต่อไป…
…อิ อิ อิ…