สังคมข่าวหุ้น
*ดัชนีตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ สวนทางกับตลาดหุ้นเอเชีย เพราะเป็นการปรับขึ้นแบบ technical rebound หรือขึ้นตามสัญญาณทางเทคนิค หลังจาก 3 วันทำการก่อนหน้านี้ปรับลงมาตลอดกว่า 21 จุด ส่วนปัจจัยบวกตอนนี้ไม่ได้มีอะไรเข้ามาใหม่ แถมมีปัจจัยลบเข้ามาคอยกดดันอีก ทั้งเทรดวอร์ กำไร “บจ.” ที่อาจต่ำกว่าคาด และมาตรการของธปท. เรื่องคุมค่าเงินบาทที่อาจเพิ่มความเข้มข้น ทำให้นักลงทุนหวั่นว่าจะกระทบกับตลาดหุ้นเช่นเดียวกับในอดีต
คาเฟอีน
*ดัชนีตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ สวนทางกับตลาดหุ้นเอเชีย เพราะเป็นการปรับขึ้นแบบ technical rebound หรือขึ้นตามสัญญาณทางเทคนิค หลังจาก 3 วันทำการก่อนหน้านี้ปรับลงมาตลอดกว่า 21 จุด ส่วนปัจจัยบวกตอนนี้ไม่ได้มีอะไรเข้ามาใหม่ แถมมีปัจจัยลบเข้ามาคอยกดดันอีก ทั้งเทรดวอร์ กำไร “บจ.” ที่อาจต่ำกว่าคาด และมาตรการของธปท. เรื่องคุมค่าเงินบาทที่อาจเพิ่มความเข้มข้น ทำให้นักลงทุนหวั่นว่าจะกระทบกับตลาดหุ้นเช่นเดียวกับในอดีต
*หุ้น “บัตรกรุงไทย” หรือเคทีซี ของคุณหมอระเฑียร ศรีมงคล วันนี้จะประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 เห็นหลายโบรกฯ คาดว่ากำไรน่าจะอยู่ที่ 1.50 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 22-23% และมีความเป็นไปได้ที่จะต่ำกว่าคาดการณ์ แต่ราคาหุ้นเมื่อวานนี้ กลับปิดบวก 2.25 บาท มาที่ 41.75 บาท เปลี่ยนแปลง +5.70% วอลุ่มหนาแน่น น่าจะเป็นการเก็งกำไรก่อนแจ้งงบ หรืออาจจะมีอะไรเซอร์ไพรส์ก็ได้นะ
*ส่วนวันนี้ กสิกรไทย KBANK จะแจ้งงบงวดไตรมาส 2 น่าจะเป็นช่วงเช้าวันนี้เลย แต่ราคาหุ้นกลับดิ่งพสุธามาหลายวัน เพราะเก็งกันว่ากำไรไม่สวย หรือต่ำกว่าคาดกันไว้แน่ ๆ แต่อย่าลืมว่า ช่วงก่อนหน้านี้ คาดกันว่ากสิกรไทยกำไรออกมาอาจจะต่ำ แต่พอแจ้งตลาดฯ จริง ๆ กลับสวนทางกับที่หวาดหวั่นกันไว้ เท่ากับว่า “ขายหมู” กันเพียบเลย ต้องเข้ามาไล่ซื้อ (กลับ) กันฝุ่นตลบไปหมด แต่หากใครที่เป็นนักลงทุนแบบปานกลางถึงระยะยาว มีคำแนะนำให้ทยอยสะสม เพราะราคาไม่น่าจะต่ำไปกว่านี้อีกแล้ว หรือราคาน่าจะสะท้อนกลับผลประกอบการแล้วล่ะ
*BEM บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ แม้ราคาปิดตลาดจะลงมาหลายวันทำการติดต่อกัน โดยที่ไม่มีวันไหนปิดบวกเลย แต่หากสังเกตให้ดีว่า ระหว่างวันที่ว่านั้น มีการเล่นรอบ (ระหว่างวัน) กันเยอะมาก คือ ไล่ราคาซื้อตอนเช้า แล้วมาเทขายกันตอนบ่าย วนเวียนไปแบบนี้มาหลายวัน ล่าสุด เมื่อวานนี้ ราคาสามารถปิดยืนในแดนบวกได้เป็นวันแรกในรอบ 9 วันทำการ +0.30 บาท ปิด 10.60 บาท หลังนักลงทุนเริ่มกลับมารับรู้ข้อมูล แบบสมมติว่า หากไม่ได้ยืดสัมปทาน แต่ BEM ก็ยังได้เงินแน่นอน ขณะที่พื้นฐานอื่น ๆ แทบไม่มีอะไรที่เป็นเชิงลบเลย ยิ่งสีน้ำเงินส่วนต่อขยายกำลังเปิดให้บริการ รายได้จะเข้ามามากขึ้นแน่นอน
*เรื่องสกุลเงินดิจิทัล Libra ของเฟซบุ๊กที่มีแผนจะเปิดให้บริการในปี 2563 ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าเงิน Libra จะเข้ามาทดแทนสกุลเงินท้องถิ่นอย่างรวดเร็ว ทำให้ธปท.ต้องออกมาเตือนว่า อย่าตื่นตูมกันไป เพราะเรื่องต้องขึ้นอยู่กับการพัฒนาระบบการเงินของแต่ละประเทศว่ามีมากน้อยแค่ไหน เพราะหากประเทศที่สกุลเงินท้องถิ่นเป็นที่เชื่อถือและได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ก็คงยากที่เงิน Libra จะเข้ามาทดแทนได้
*ธนาคารกรุงไทย (KTB) ปรับปรุงระบบงานอิเล็กทรอนิกส์ ส่งผลให้ลูกค้าไม่สามารถใช้บริการบางประเภทชั่วคราว วันเสาร์ที่ 20 ก.ค.นี้ ระหว่างเวลา 00.30 น.-03.00 น. ลูกค้าจะไม่สามารถใช้บริการรับชำระค่าสินค้าและบริการผ่านกรุงไทย EDC และระบบรับชำระออนไลน์ วันอาทิตย์ที่ 21 ก.ค.นี้ ระหว่างเวลา 00.01 น.-04.00 น. ไม่สามารถใช้บริการ กรุงไทย NEXT กรุงไทย Connext กรุงไทย Promptpay กรุงไทย Government แอปพลิเคชันเป๋าตัง เป๋าตุง บริการจองซื้อหลักทรัพย์ออนไลน์ Internet Banking และกรุงไทย Corporate Online
*บลจ.บางกอกแคปปิตอล โชว์ผลงานกองทุน BMSCITH ลงทุนหุ้นบนดัชนี MSCI ในไทย ประกาศจ่ายเงินปันผลปี 2562 อัตรา 0.30 บาทต่อหน่วย รวมมูลค่าประมาณ 30 ล้านบาท กำหนดวันปิดสมุดทะเบียนเพื่อสิทธิรับเงินปันผล 26 ก.ค. และดีเดย์จ่ายเงิน 9 ส.ค.นี้ ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 ปี ประมาณ 10.68% ต่อปี