“AECS” เคาะ 6 หุ้นเด็ดรับมือ SET ผันผวน พ่วงอานิสงส์แผนกระตุ้นศก.รัฐบาล
“AECS” เคาะ 6 หุ้นเด็ดรับมือ SET ผันผวน พ่วงอานิสงส์แผนกระตุ้นศก.รัฐบาล
บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) หรือ AECS ระบุว่า แนวโน้มการลงทุนในช่วงนี้มีแรงหนุนหลักจากแรงซื้อเก็งกำไรในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากนโยบายภาครัฐฯ ประกอบกับในวันที่ 25 ก.ค.นี้ แนะนำให้จับตามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่จะแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา โดยเฉพาะนโยบายเร่งด่วน 12 เรื่อง ซึ่งคาดจะมีรายละเอียดในการดำเนินนโยบายมากขึ้นในภายหลัง
ขณะที่ทิศทางของ Fund Flow คาดกลับมาผันผวน หลัง 10Yr- Thai Bond Yield ปรับลงสู่ 1.910% ต่ำกว่า 10Yr US Bond Yield ที่ 2.053% ขณะที่ปัจจุบันซื้อขายด้วย PER ที่สูงราว 18.7 เท่า ทำให้ตลาดไทยมีความน่าสนใจลดลง
ทั้งนี้ จากปัจจัยดังกล่าวในข้างต้นส่งผลให้ทางฝ่ายวิจัยแนะนำลงทุนในหุ้น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ หุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐฯ จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะภาคการบริโภค และการลงทุนของเอกชน ทำให้มองว่า ครม. ชุดใหม่ ที่มีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ มีโอกาสสูงที่จะเร่งออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นเพื่อพยุงเศรษฐกิจ
ดังนั้นจึงแนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์จากประเด็นดังกล่าวที่ยังมี Upside น่าสนใจ ได้แก่ BJC (โดยมองว่า ช่วงครึ่งปีหลังจะเห็นการฟื้นตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนจากการขยายสาขา BigC มากขึ้น จากสาขาทั้งในประเทศ 7 สาขา และสาขาที่กัมพูชา 1 สาขา BigC Food Place 1 สาขา และ Mini BigC ราว 200 สาขา), SEAFCO (ช่วงไตรมาส 2/62 คาดโต 5.4% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ด้วยงานก่อสร้างที่รับรู้สูงกว่าปีก่อน โดยฝ่ายวิจัยปรับเพิ่มประมาณการหลังได้รับงานใหม่ ขนาดใหญ่มูลค่ากว่า 900 ล้านบาท)
รวมถึง DCC (คาดปี 62 โตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน หนุนด้วยกำลังผลิต และต้นทุนกระเบื้องดีขึ้นจาก Economy of scale หลังเข้าบริหาร และถือหุ้น RCI อีกทั้ง ตั้งเป้าขยายสาขาปีนี้ เพิ่มอีก 5 สาขา พร้อมปรับ Business Model แบ่งพื้นที่สาขาให้ธุรกิจที่เกี่ยว เนื่องเช่าเพื่อเพิ่มช่องทางรับรู้ราย นอกจากนี้ยังซื้อขายที่ PER15.2 เท่า ถูกกว่าทั้ง GLOBAL และ HMPRO) และ ROBINS (แม้ช่วง 2Q62 คาดกำไรหดทั้งจากไตรมาสก่อนแล่วงเดียวกันของปีก่อน หลัง SSSG ที่คาดติดลบราว 0.5-1% แต่คาดราคาหุ้นปรับลงมาเพื่อสะท้อนปัจจัยดังกล่าวแล้ว
พร้อมทั้งคาดว่ากำไรในช่วงครึ่งปีหลังจะยังโตและโตกว่าช่วงเดียวกัยของปีก่อน หนุนด้วยช่วงไตรมาส 4/62 ที่เป็นช่วงไฮซีซั่น และมีการกลับมาเปิดของ 3 สาขาที่ปิดปรับปรุง
รวมถึงกลุ่ม Defensive Stock ท่ามกลางความผันผวนของตลาดหุ้นเราเลือกหุ้นที่มีอัตราจ่ายปันผลน่าดึงดูดบวกกับกำไรช่วงครึ่งหลังปี 2562 มีแนวโน้มโตดี แนะนำ ASK (คาดผลดำเนินงานมีโตต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2/62 หนุนด้วยสินเชื่อรถพาณิชย์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามงานก่อสร้างภาครัฐฯที่จะทยอยเร่งตัวขึ้นบวกกับคาดได้ประโยชน์จากการทยอยเปลี่ยนรถตู้ เป็นรถมินิบัสของผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะ ตามมาตรการของ ขสมก.)
รวมทั้ง LH (คาดได้รับผลกระทบจากมาตรการ LTV ที่จำกัดเนื่อง จากมีสัดส่วนโครงการแนวราบมากกว่าคอนโดราว 2-3 เท่าบวกกับมีกำไรจากการลงทุนใน HMPRO, QH และ LHFG ที่โตต่อเนื่อง หนุนคาดผลการดำเนินทั้งปีโตกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน และคาดมีการจ่ายปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานช่วงครึ่งปีแรกคิดเป็น 3.2-3.6% ต่อปี)