TKN ลบเกือบ 3% หลังพุ่งแรงวานนี้ ฟากโบรกฯอัพคำแนะนำ “ซื้อ” เคาะเป้าใหม่ 12 บ.

TKN ลบเกือบ 3% หลังพุ่งแรงวานนี้ ฟากโบรกฯอัพคำแนะนำ "ซื้อ" เคาะเป้าใหม่ 12 บ. โดย ณ เวลา 11.23 น. อยู่ที่ระดับ 10 บาท ลบ 0.30 บาท หรือ 2.91% สูงสุดที่ระดับ 10.30 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 10 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 173.85 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN ณ เวลา 11.23 น. อยู่ที่ระดับ 10 บาท ลบ 0.30 บาท หรือ 2.91% สูงสุดที่ระดับ 10.30 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 10 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 173.85 ล้านบาท โดยราคาหุ้น TKN ปรับตัวลดลงหนักวันนี้ หลังปรับตัวขึ้นมาติดต่อกัน 4 วัน

ด้านนายคู่สูรย์ รัตนะพร ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน TKN เปิดเผยว่า ปัจจัยที่ราคาหุ้น TKN ปรับขึ้นแรงเมื่อวานนี้ คาดนักลงทุนหันมาโฟกัสแนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งหลังปีนี้ ที่บริษัทจะทำได้มากกว่าช่วงครึ่งปีแรกที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนตัวแทนจำหน่ายในประเทศจีน ทำให้ต้องใช้เวลาในการศึกษาตลาด ขณะที่ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้เป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ

ขณะที่ตัวแทนจำหน่ายรายใหม่ในประเทศจีนก็น่าจะทำยอดขายได้ตั้งแต่ครึ่งปีหลังเป็นต้นไป หลังจากใช้เวลาในการศึกษาตลาด ซึ่งบริษัทมั่นใจว่ารายได้รวมในปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 5-7%

ทั้งนี้ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาบริษัทได้วางจำหน่ายสินค้าใหม่ที่ร้านสะดวกซื้อ 7-11 ซึ่งเป็นสินค้าที่โคแบรนด์กับผู้ผลิตแบรนด์สินค้าพริงเกิลส์ มันฝรั่งทอดกรอบ โดยคาดว่าเปิดตัวสินค้าใหม่อย่างเป็นทางการได้ในช่วงต้นเดือนส.ค.นี้ โดยมองสินค้าดังกล่าวน่าจะเป็นอีกหนึ่งสินค้าที่จะเข้ามาขับเคลื่อนยอดขายภายในประเทศให้เติบโตขึ้น

“โดยปกติครึ่งปีหลังนี้ถือเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจอยู่แล้ว ซึ่งเราก็คาดว่ายอดขายจะปรับตัวดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก จากการพยายามสร้างยอดขายของตัวแทนจำหน่ายในประเทศจีน และการเปิดตัวสินค้าใหม่” นายคู่สูรย์ กล่าว

ด้านนักวิเคราะห์ บล.ดีบีเอสฯ ปรับเพิ่มคำแนะนำจาก “ถือ” เป็น “ซื้อ” ด้วยราคาพื้นฐานที่ปรับขึ้นเป็น 12.00 บาท หลังจากมีการเลื่อนไปใช้ประมาณการปี 63 แทน ที่ระดับ 22.0 เท่า คาดการณ์อัตราการเติบโตกำไรหลักปีนี้และปีหน้าอยู่ในเกณฑ์ดีเป็น เพิ่มขึ้น 11%/20% ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม คาดกำไรหลักไตรมาส 2/62 ฟื้นตัวสูงเทียบกับไตรมาส 1 เป็น 119 ล้านบาท (ลดลง 18% จากปีก่อน, เพิ่มขึ้น 45% จากไตรมาสก่อน) โดยแรงผลักดันการฟื้นตัวมาจากอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มสูงขึ้นแม้รายได้จะเติบโตไม่สูง

ส่วนสาเหตุที่คาดการณ์กำไรไตรมาส 2/62 ยังลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นยังลดลง ซึ่งต้นทุนคงที่และ overhead  ที่สูงขึ้นเช่นเดียวกับสัดส่วนค่าใช้จ่ายขาย-บริหารเทียบกับรายได้สูงขึ้นจากค่าใช้จ่ายทางการตลาดและบริหารที่จีน

Back to top button