พาราสาวะถี
จูบปากกันเรียบร้อยแต่ราบรื่นหรือไม่ให้วันเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ หลัง พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ บินไปปิดสัมมนาส.ส.พรรคพลังประชารัฐ พร้อมยอมรับว่าตัวเองเป็นผู้สนับสนุนคนสำคัญ ก่อนจะขอให้ทุกคนสามัคคีกัน เลิกแบ่งก๊วน แยกมุ้ง เชื่อว่าจะสามารถทำให้รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำอยู่ไปจนครบวาระ 4 ปีได้อย่างแน่นอน ขณะที่ สมศักดิ์ เทพสุทิน ก็ขานรับด้วยวลีสวย ๆ คนพรรคสืบทอดอำนาจเหมือนแก้วที่หลอมแล้วสวยงาม จะไม่กลับไปเป็นเศษดินเศษทรายอีก
อรชุน
จูบปากกันเรียบร้อยแต่ราบรื่นหรือไม่ให้วันเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ หลัง พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ บินไปปิดสัมมนาส.ส.พรรคพลังประชารัฐ พร้อมยอมรับว่าตัวเองเป็นผู้สนับสนุนคนสำคัญ ก่อนจะขอให้ทุกคนสามัคคีกัน เลิกแบ่งก๊วน แยกมุ้ง เชื่อว่าจะสามารถทำให้รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำอยู่ไปจนครบวาระ 4 ปีได้อย่างแน่นอน ขณะที่ สมศักดิ์ เทพสุทิน ก็ขานรับด้วยวลีสวย ๆ คนพรรคสืบทอดอำนาจเหมือนแก้วที่หลอมแล้วสวยงาม จะไม่กลับไปเป็นเศษดินเศษทรายอีก
ในยามรักน้ำต้มผักยังว่าหวาน เพิ่งผ่านช่วงฮันนีมูนทุกอย่างย่อมดูสดใส ซ่าบซ่า แต่คนก็ดักคอไว้ก่อนว่า แน่ใจหรือว่าเป็นแก้วที่สวยงาม ไม่มีรอยร้าวปริแยก เพราะก่อนหน้านั้นคนส่วนใหญ่เข้าใจว่านี่เป็นแก้วที่มันร้าวหลอมยังไงก็ไม่เหมือนเดิม ภาพที่พากันขย่มขับไล่เลขาธิการพรรคยังติดตราตรึงใจผู้คนทั้งหลายเป็นอย่างดี นี่ไงที่เขาบอกว่าลมปากนักการเมือง จะให้คนเชื่อสนิทใจก็ต่อเมื่อพากันปฏิบัติให้เป็นจริงและเร่งสร้างผลงานเป็นที่ปรากฏ
บอกแล้วว่าองคาพยพเผด็จการนั้นแบ่งบทกันเล่นได้เป็นอย่างดี แม้มันจะไม่เนียนตา ทว่าคนก็ไม่ได้ติดใจอะไรมากมายเหมือนอย่างกรณีพรรคสืบทอดอำนาจที่รู้กันตั้งแต่ต้นว่าเป็นพรรคของใคร มีใครอยู่เบื้องหลัง มาถึงวันนี้แทนที่จะสารภาพบาปกันให้หมด ก็ยังมีบางคนพยายามสร้างภาพว่าตัวเองไม่เกี่ยวข้อง ไม่อยากยุ่ง ทั้ง ๆ ที่ทุกอย่างถูกวางแผนและขับเคลื่อนกันผ่านเด็กในคาถาของตัวเองที่เรียกว่าสี่กุมารมาโดยตลอด นี่แหละพวกคนดีที่ไม่รู้ว่าภาพที่สร้างกันไว้มันจะละลายหายไปในวันใด
ขณะที่พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์ยังปิดปากเงียบเรื่องการสมัครเป็นสมาชิกพรรคสืบทอดอำนาจ รวมทั้งการนั่งในตำแหน่งประธานที่ปรึกษาพรรค จะว่าไปมันก็แค่หัวโขน ในเมื่อทางปฏิบัติทุกอย่างมันชัดเจนอยู่ว่าใครคือผู้จัดการตัวจริงเสียงจริง สิ่งที่ขับเคลื่อนผ่าน ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ไม่ใช่ว่าเจ้าตัวเป็นดาวฤกษ์ส่องแสงเองได้ มันก็มาจากอำนาจของผู้มากบารมีในพรรคที่ส่งผ่านไปนั่นเอง ผิดกับพวกที่เคยประกาศตัวเป็นดาวฤกษ์กันก่อนหน้านี้ พอเอาเข้าจริงเป็นเพียงแค่ดาวเคราะห์ดวงน้อยในอุ้งมือเผด็จการเท่านั้นเอง
เหลือเวลาอีกไม่ถึง 24 ชั่วโมง การแถลงนโยบายของรัฐบาลสืบทอดอำนาจก็จะเริ่มขึ้น สะกิดมาตั้งนาน ไม่มีวันที่ลิ่วล้อของเผด็จการจะไร้องครักษ์พิทักษ์ผู้นำและรัฐมนตรีร่วมคณะ การจัดชุดตอบโต้ 20 คนของพรรคสืบทอดอำนาจคือการประกาศสงครามกับฝ่ายค้าน ข้ออ้างที่ว่าหากอภิปรายอยู่ในประเด็นก็จะไม่เจอการโต้ตอบ ขีดกรอบให้ฝ่ายตรงข้ามเดินเสร็จสรรพ สงสัยไปฝึกรับคำสั่งเผด็จการมาจนเคยตัว ลืมกำพืดตัวเองไปว่าเป็นนักการเมืองที่เคยถูกเขาดูถูกดูแคลนว่าชั่วว่าเลว
ไม่ต่างกัน ส.ว.ลากตั้งที่ก็เร่งสร้างภาพว่าปราศจากการครอบงำ ไร้ใบสั่ง เมื่อวันจันทร์จัดวงสัมมนาเตรียมความพร้อมเรื่องอภิปรายนโยบาย พลเอกสิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ยืนยันไม่มีองครักษ์พิทักษ์รัฐบาล จะอภิปรายอย่างสร้างสรรค์ แต่ พลตำรวจโทศานิตย์ มหถาวร ลั่นจะลุกขึ้นเสนอที่ประชุมขอให้งดเว้นการอภิปรายรัฐมนตรี ขอให้ว่ากันด้วยนโยบายล้วน ๆ เรื่องซักฟอกให้ส.ส.เอาไปยื่นขอเปิดประชุมอภิปรายไม่ไว้วางใจอีกเวที นี่ไงผู้พิทักษ์ตัวจริงเสียงจริง
มันจะทิ้งคราบไคลของคนที่ได้รับอานิสงส์ ความเมตตาจากเผด็จการมาโดยตลอดได้อย่างไร ยิ่งมาได้ยินได้ฟังส.ส.ที่ตัวเองมองเป็นปฏิปักษ์มาอภิปรายโจมตี กระแนะกระแหนผู้มีพระคุณมันจะนิ่งดูดายได้อย่างไร ยิ่งพวกที่ได้ดิบได้ดีจากปลายกระบอกปืนมายาวนานกว่า 10 ปียิ่งต้องรู้จักกตัญญูรู้คุณ ออกตัวปกป้องกันสุดฤทธิ์ ไม่จำเป็นต้องร้องขอ ไม่ต้องให้ใครมาจูงจมูก แต่ทุกอย่างออกมาจากใจของทาสผู้ซื่อสัตย์แม้ต้องตายแทนก็ยอม
ส่วนรายนี้เรื่องตีสำบัดสำนวนถือว่าข้าคือหนึ่งในตองอู ว่าแล้ว วิษณุ เครืองาม ก็กระซิบดัง ๆ ไปยังพรรคฝ่ายค้าน การจะไปจับมือกับภาคประชาชนเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น เป็นช่องทางที่ทำได้ว่ากันไปตามกฎหมาย แต่อย่าไปแสดงกริยาท่าทางที่ออกไปในทางปลุกระดมก็แล้วกัน แค่ยกแรกก็เชือดนิ่ม ๆ เดี๋ยวอยู่ไปนาน ๆ ก็จะได้เห็นบทบาทของเนติบริกรศรีธนญชัยกันมากขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากสีข้างถลอกมาแล้วกรณีการสรรหาส.ว.
จากท่วงทำนองในลักษณะนี้จะให้ไม่มีเสียงทักท้วงเลยก็กระไรอยู่ ว่าแล้ว มุข สุไลมาน รองหัวหน้าพรรคประชาชาติ จึงออกมาพูดถึงการทำหน้าที่ของวิษณุว่า เป็นครู เป็นอาจารย์ เป็นนักกฎหมายที่ดีที่สุดคนหนึ่งในประเทศไทย มีประชาชนยอมรับ แต่วันนี้การตีความกฎหมายของวิษณุดูแล้วไม่เที่ยงตรง ทำให้นักศึกษากฎหมายสับสน การยึดถือในหลักการมีความรู้สึกไม่น่าจะถูกต้อง แต่กลับได้รับการยอมรับ และรัฐนำไปปฏิบัติ
สิ่งที่รองหัวหน้าพรรคประชาชาติเป็นห่วงก็คือ การเรียนของนักศึกษากฎหมายไทยจะเกิดความสับสนว่าจุดยืนความถูกต้องจะอยู่ตรงไหน การตีความแม้รัฐจะยอมรับแต่สังคมโดยทั่วไปไม่ยอมรับในความถูกต้องทำให้สถาบันนิติบัญญัติไม่ได้การยอมรับจากสังคม บ้านเมืองก็ไม่น่าจะอยู่ได้นำไปสู่ความเสื่อม นำไปสู่วิกฤตของประเทศ แต่วันนี้ที่สังคมยังไม่มีปฏิกิริยาเพราะสังคมยังอดทน มันก็ถูกแต่ความจริงแล้วต้องบอกว่าสังคมอดทนมาตั้งแต่ใช้กฎหมายย้อนหลังในทางเป็นโทษคราวยุบพรรคไทยรักไทยแล้ว
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีกรณีเปิดพจนานุกรมตัดสินความผิด จนกระทั่งใช้ความรู้สึกตัดสินเรื่องรถไฟความเร็วสูงประเด็นว่าด้วยถนนลูกรัง ทั้งหมดเหล่านี้คือตัวอย่างของการตีความข้อกฎหมายที่ไร้บรรทัดฐาน จะเรียกว่าตามอารมณ์ยึดกระแสของพวกตัวเองก็ว่าได้ ด้วยเหตุนี้กระบวนการที่ถูกเรียกว่าตุลาการภิวัฒน์มันจะกลายเป็นตุลาการวิบัติไปเสียฉิบ และอาจถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ของสนิมเกิดแต่เนื้อในตนได้
ภัยแล้งปีนี้ส่อเค้าว่าจะรุนแรง หลังแถลงนโยบายแล้ว เรื่องนี้ต้องเป็นเรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลเข้าไปจัดการทันที ถ้าคิดแบบชั่วร้ายก็คือดีเหมือนกันพืชผลทางการเกษตรมันจะหายไปจากตลาดทำให้ราคาสูงขึ้น แต่ความเป็นจริงคือเกษตรกรส่วนใหญ่จะไม่มีรายได้และซ้ำเติมปัญหาให้หนักหน่วงเข้าไปอีก เป็นรัฐบาลเลือกตั้งแล้ว ท่านผู้นำคงต้องเลิกสั่งว่าอย่าปลูกพืชใช้น้ำมากและรู้จักปลูกพืชหมุนเวียน เพราะถ้ามันทำได้อย่างที่ท่านว่าเกษตรกรเขาไม่มาเรียกร้องขอความช่วยเหลือใด ๆ จากภาครัฐให้เมื่อยตุ้ม อย่าคิดแบบบ้องตื้น