CHOW คว้างาน “Solar Rooftop” มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง มูลค่า 5.12 ลบ. รับรู้รายได้ไตรมาส 3
CHOW คว้างาน "Solar Rooftop" มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง มูลค่า 5.12 ลบ. รับรู้รายได้ไตรมาส 3 ทันที
นายศุภชัย ยิ้มสุวรรณ ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินและบริหาร บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW เปิดเผยถึงความคืบหน้าของ โครงการ Solar Rooftop ในประเทศไทยว่า บริษัทฯ ได้รับงานเพิ่มขึ้นอีก 1 โครงการ คือ งานติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์อาคารหอฝิ่น ณ อุทยานสามเหลี่ยมทองคำ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมถ์ ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ขนาดกำลังการผลิต 114.73 กิโลวัตต์ ของมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ มูลค่ารวม 5,120,000 บาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการติดตั้ง โดยมีกำหนดจะส่งมอบงานในต้นเดือนกันยายน 2562 และจะรับรู้รายได้ทันทีในไตรมาสที่ 3/2562
“สำหรับโครงการ Solar Rooftop ในประเทศไทย CHOW มีการพัฒนาใน 2 รูปแบบ คือ รับเหมาติดตั้งระบบ และพัฒนาโครงการเป็นของบริษัทเอง โดยโครงการมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงถือเป็นโครงการที่ 2 สำหรับการรับเหมาติดตั้งระบบ ส่วนโครงการที่ CHOW พัฒนาเป็นของบริษัทเองและได้เชื่อมต่อสายส่งจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (Commercial Operation Date: COD) เรียบร้อยแล้ว 6.62 เมกะวัตต์ ซึ่งบริษัทฯ มีนโยบายจะขยายธุรกิจพลังงานอย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะในตลาดที่ศักยภาพการเติบโตสูงและให้ผลตอบแทนที่ดี” นายศุภชัยกล่าว
ทั้งนี้ ปัจจุบัน CHOW มีโครงการโรงไฟฟ้าโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่รอรับรู้รายได้ในไตรมาสที่ 3 อีก 21 เมกะวัตต์ โดยทั้ง 3 โครงการอยู่ในประเทศญี่ปุ่น อยู่ระหว่างการก่อสร้างและรอเชื่อมต่อสายส่งจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (Commercial Operation Date: COD) กับการไฟฟ้าญี่ปุ่น โดยโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของ CHOW จำหน่ายไฟเข้าระบบแล้วจำนวน 59.92 เมกะวัตต์ และมีเป้าหมายจะพัฒนาให้ครบ 500 เมกะวัตต์ ภายในเวลา 5 ปี ตามนโยบายที่วางไว้
โดยหลังจากนี้บริษัทยังมุ่งขยายธุรกิจพลังงานอย่างต่อเนื่องอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นตามแผนธุรกิจ ที่ต้องการลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพ ก่อให้เกิดรายได้และกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอ ซึ่งสนับสนุนให้ผลประกอบการของ CHOW เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและมั่นคงในอนาคต สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาว ซึ่งล่าสุดบริษัทฯได้ขยายฐานธุรกิจพลังงานออกสู่ตลาดออสเตรเลียเพิ่มขึ้น นอกเหนือจากประเทศไทยและญี่ปุ่นที่ดำเนินธุรกิจในปัจจุบันซึ่งจะสะท้อนให้ธุรกิจพลังงานเติบโตได้ตามนโยบายที่วางไว้