SET ปิดลบ 15 จุดเซ่นปัจจัยลบรอบด้าน ลุ้นสัปดาห์หน้ารีบาวด์ทดสอบแนวต้าน 1,700 จุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีปิดตลาดวันนี้ ที่ระดับ 1,684.71 จุด ลบ 15.04 จุด หรือ 0.88% มูลค่าการซื้อขาย 8.2 หมื่นล้านบาท

10 หุ้นกดดัชนีวันนี้

ด้านนายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างปรับตัวลงกัน หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เตรียมเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนอีก 10% คิดเป็นมูลค่า 3 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยจะเริ่มเก็บวันที่ 1 ก.ย.นี้ ซึ่งที่จริงไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับไทยเท่าไร จึงไม่ห่วงเรื่องสงครามการค้า แต่ที่น่าเป็นห่วงเป็นเรื่องเหตุการณ์ระเบิดในกรุงเทพฯวันนี้ เพราะตรงนี้กำหนดความเสี่ยงไม่ได้

อย่างไรก็ดี มองแถวบริเวณ 1,680-1,660 จุด เป็นจุดซื้อ ซึ่งในช่วงใกล้ปิดตลาดฯจะเห็นได้ว่าดัชนีฯลดช่วงลบ เพราะคนที่ซื้อก็คงจะกลัวตกรถ และคาดหวังจะเกิดเทคนิคเคิลรีบาวด์หลังจากที่ปรับตัวลงไปมาก ส่วนหุ้นในกลุ่มพลังงานปรับตัวลงนำตลาดฯหลังจากที่ราคาน้ำมันได้ปรับตัวลงแรง

พร้อมให้ติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯในวันนี้ และสัปดาห์หน้าก็ติดตามดุลการค้าของจีน, การทยอยประกาศผลประกอบการต่อไป รวมถึงติดตามผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.), ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) งวดไตรมาส 2/62 ของญี่ปุ่น, MSCI จะทบทวนหุ้นที่ใช้ในการคำนวณเป็นรายไตรมาส

ส่วนแนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายถนอมศักดิ์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยังมีลุ้นเกิดเทคนิคเคิลรีบาวด์ โดยให้แนวรับ 1,672-1,660 จุด ส่วนแนวต้าน 1,700-1,715 จุด

 

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดันแรก ได้แก่

PTT มูลค่าการซื้อขาย 5,069,767.92 ล้านบาท ปิดที่ 46.00 บาท ลดลง 1.25 บาท

AOT มูลค่าการซื้อขาย 4,623,297.00 ล้านบาท ปิดที่ 70.75 บาท ลดลง 1.00 บาท

PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 4,519,187.25 ล้านบาท ปิดที่ 57.75 บาท ลดลง 2.50 บาท

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 3,959,997.35 ล้านบาท ปิดที่ 131.50 บาท ลดลง 3.50 บาท

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,743,096.62 ล้านบาท ปิดที่ 86.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

ตลาดหุ้นเอเชีย