สังคมข่าวหุ้น
*ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,684.71 จุด ลดลง 15.04 จุด มูลค่าการซื้อขาย 82,045.40 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงเช่นเดียวกับตลาดในภูมิภาค เป็นผลจากปัจจัยภายนอกเป็นหลัก ทั้งจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงของเฟด รวมถึงสหรัฐฯ เตรียมเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนอีก 10% คิดเป็นมูลค่า 3 แสนล้านเหรียญสหรัฐ เริ่ม 1 ก.ย.นี้ และเหตุระเบิดในหลายพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ น่าจะเป็นเพียงผลกระทบกับ sentiment ของตลาดในระยะสั้นเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ในช่วงสัปดาห์นี้ยังจับตาการทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/2562 และงวดครึ่งปีแรกกันต่อไป
สโนว์แมน
*ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,684.71 จุด ลดลง 15.04 จุด มูลค่าการซื้อขาย 82,045.40 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงเช่นเดียวกับตลาดในภูมิภาค เป็นผลจากปัจจัยภายนอกเป็นหลัก ทั้งจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงของเฟด รวมถึงสหรัฐฯ เตรียมเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนอีก 10% คิดเป็นมูลค่า 3 แสนล้านเหรียญสหรัฐ เริ่ม 1 ก.ย.นี้ และเหตุระเบิดในหลายพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ น่าจะเป็นเพียงผลกระทบกับ sentiment ของตลาดในระยะสั้นเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ในช่วงสัปดาห์นี้ยังจับตาการทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/2562 และงวดครึ่งปีแรกกันต่อไป
*SMART ล่าสุดแจ้งงบไตรมาส 2/2562 พลิกมีกำไรสุทธิ 5.7 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนกว่า 10 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณและราคาขายที่สูงขึ้น นอกจากนี้ บอร์ดยังไฟเขียวออกหุ้นเพิ่มทุน 92 ล้านหุ้น จัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นเดิม ในอัตรา 5:1 ราคาใช้สิทธิ 1.50 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิ SMART-W2 คาดจะนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนไปใช้ปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องจักร ใช้พัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการผลิต บริหารคลังสินค้า และจัดส่งสินค้า รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เป็นต้น เล็งเสนอที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น 12 ก.ย.นี้
*หุ้นกลุ่มโรงกลั่น ทั้ง TOP-PTTGC-IRPC-SPRC น่าจะได้รับอานิสงส์จากกรณีเกิดเหตุไฟไหม้โรงงานปิโตรเคมีและโรงกลั่นน้ำมันของ Exxon Mobile ในรัฐเท็กซัส สหรัฐฯ วันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา คาดอาจกระทบกับกำลังการกลั่นของโรงกลั่นแห่งนี้ที่ผลิตได้ถึง 560,000 บาร์เรลต่อวัน น่าจะมีผลให้อุปทานในอุตสาหกรรมหายไป
*บอร์ด B (บี จิสตกส์) ไฟเขียวทุ่มงบ 160 ล้านบาท เข้าถือหุ้น 40% ในโครงการโซลาร์ฟาร์มในเวียดนาม 2 โครงการ ขนาด 58 เมกะวัตต์ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดจะแล้วเสร็จและ COD ภายในก.ค. 2563 น่าจะทำให้มีรายได้ที่มั่นคง จากการที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าเป็นระยะเวลา 20 ปี อีกทั้งยังเป็นการกระจายความเสี่ยงในการลงทุน จากที่พึ่งพาธุรกิจท่าเรือ ขนส่ง และโลจิสติกส์ ที่เป็นธุรกิจหลักในปัจจุบันเพียงธุรกิจเดียว
*วันพรุ่งนี้ (6 ส.ค.) หุ้นไอพีโอน้องใหม่ DOHOME (ดูโฮม) เป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่ง และให้บริการด้านวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านแบบครบวงจรของไทย จะเข้าเทรดในตลาดหุ้นเป็นวันแรก ด้วยจำนวนไอพีโอ 465.04 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 7.80 บาท ตามแผนจะระดมเงินทุนไปใช้ขยายสาขาเพิ่ม พัฒนาระบบไอที ชำระหนี้เงินกู้ จัดว่ามีปัจจัยพื้นฐานที่ดีไม่น้อยเลย
*FC (ฟู้ด แคปปิตอล) เปลี่ยนชื่อเป็น PRIME (ไพร์ม โรด เพาเวอร์) มีผลตั้งแต่ 6 ส.ค.นี้ หลังจากกลุ่ม PRGD (พีอาร์จี ดีเวลลอปเมนท์) เข้ามาถือหุ้นใน FC จำนวน 87.45% ในด้านของธุรกิจก็จะเปลี่ยนไปเป็นธุรกิจพลังงานแทนธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ที่น่าจะทำให้ผลการดำเนินงานกลับมาเทิร์นอะราวด์ได้
*ปิดท้ายพบกับข่าวหุ้นเจาะตลาด เวลา 09.35-11.00 น. ดำเนินรายการโดยบูรพา สงวนวงศ์และสุภชัย ปกป้อง รับชมสด ๆ ผ่าน www.facebook.com/kaohoon online, www.facebook.com/tv.kaohoon และ FM 102 Mhz
*พร้อมอัปเดตตลาดทุนทุกวันจันทร์-ศุกร์กับ “ข่าวหุ้นทีวีออนไลน์” เริ่มจาก Pre-Open Report โดยอารียานันท์ สัทธรรมสกุล เวลา 09.10 น. ตามด้วย Mid-Day Report โดยบูรพา สงวนวงศ์ เวลา 12.25 น. ปิดท้ายด้วย Post Market Report โดยสุภชัย ปกป้อง เวลา 17.30 น. การันตีทุกโจทย์เรื่องหุ้นหาคำตอบได้ที่ข่าวหุ้นธุรกิจเท่านั้น