BIG ชักเริ่มจะเล็ก..!?
ส่อเค้าน่าห่วง !! สำหรับบริษัท บิ๊ก คาเมร่า คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BIG ที่ปัจจุบันกำลังถูกเทคโนโลยีไล่ล่า หรือดิจิทัลดิสรัปชั่นธุรกิจ
สำนักข่าวรัชดา
ส่อเค้าน่าห่วง !! สำหรับบริษัท บิ๊ก คาเมร่า คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BIG ที่ปัจจุบันกำลังถูกเทคโนโลยีไล่ล่า หรือดิจิทัลดิสรัปชั่นธุรกิจ
BIG เป็นผู้จัดจำหน่ายค้าปลีกกล้องถ่ายภาพ อุปกรณ์การถ่ายภาพ ผลิตภัณฑ์อื่นที่เกี่ยวเนื่องภายใต้แบรนด์ BIG Camera รวมถึงให้บริการซ่อมกล้อง การจำหน่ายกล้องมือสอง บริการให้เช่ากล้องถ่ายภาพ และบริการพิมพ์ภาพครบวงจร
ซึ่งย้อนไปเมื่อ 2–3 ปีก่อน เคยเติบโตแบบก้าวกระโดดจากยอดขายของกล้องมิลเลอร์เลสที่มีการผสมผสานข้อดีของกล้อง DSLR กับกล้อง Compact ไว้ด้วยกัน เกิดเป็นลูกเล่นใหม่ ๆ ทำให้ขายดิบขายดี…
แต่…เมื่อตลาดกล้องสมาร์ตโฟนมีการพัฒนาลูกเล่นใหม่ ๆ ออกมาตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น เช่น กล้องถ่ายหน้าชัด หลังเบลอ, ถ่าย Portrait สวย แม้แสงน้อย, กล้องที่ทำงานคู่กับระบบ AI ฯลฯ
ก็ทำให้ตลาดกล้องมิลเลอร์เลสหายไป
จึงกระทบต่อยอดขายของ BIG อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เรียกได้ว่า BIG กำลังถูกดิจิทัลดิสรัปชั่นอย่างแท้จริง
นี่ยังไม่นับรวมเรื่องอายุการใช้งานกล้องถ่ายภาพที่ยาวนาน ทำให้ไซเคิลในการเปลี่ยนกล้องตัวใหม่ค่อนข้างช้า
กลายเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดรั้งยอดขายของ BIG เรื่อยมา
BIG พยายามแก้ปัญหาด้วยการหันไปชูตลาดพิมพ์ภาพครบวงจร แต่ก็ไม่บูม…
เนื่องจากพฤติกรรมคนเปลี่ยนไป…เดิมนิยมปริ๊นท์ภาพออกมาเก็บไว้ดู ก็เปลี่ยนไปเก็บไว้ในเครื่องและโพสต์ในสื่อโซเชียลมีเดียแทน
จะหันไปบุกตลาดต่างประเทศ ประเดิมที่เวียดนาม เพื่อหวังจะมาชดเชยตลาดในประเทศ ก็ยังไม่ซัคเซสเท่าที่ควร
ส่งผลให้ BIG ตกอยู่ในสถานการณ์โตยากขึ้นเรื่อย ๆ งบเริ่มแคระแกร็น…
โดยปี 2559 เคยมีกำไรสุทธิสูงถึง 846 ล้านบาท จากรายได้รวม 5,663 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 14.95% มาปี 2560 กำไรสุทธิลดลงเหลือ 774 ล้านบาท จากรายได้รวม 6,043 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 12.82% ส่วนปี 2561 มีกำไรสุทธิแค่ 549 ล้านบาท จากรายได้รวม 5,786 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 9.50%
ล่าสุดไตรมาส 1/62 มีกำไรสุทธิ 106 ล้านบาท ลดลง 104 ล้านบาท หรือ 49.58% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 209 ล้านบาท และมีรายได้รวม 1,159 ล้านบาท ลดลง 270 ล้านบาท หรือ 18.92% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,430 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรสุทธิ 8.62%
นั่นเท่ากับว่า หาก BIG ไม่ทำอะไรสักอย่าง
BIG ในวันนี้อาจกลายสภาพเป็น Small ในอนาคตก็เป็นได้…
จึงน่าจับตาว่า BIG จะสามารถฝ่าวิกฤติกระแสดิจิทัลดิสรัปชั่นไปได้หรือไม่ ??
งบไตรมาส 2/62 ที่จะประกาศเร็ว ๆ นี้
น่าจะเป็นตัวชี้วัดได้ดี…
…อิ อิ อิ…