EPG โชว์งบฯไตรมาส 1 ปี 62/63 มีกำไร 215 ลบ.ตามรายได้ขายเพิ่ม 2,672 ลบ.

EPG โชว์งบฯไตรมาส 1 ปี 62/63 มีกำไร 215 ลบ.ตามรายได้ขายเพิ่ม 2,672 ลบ.


รศ.ดร.เฉลียว วิทูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ปี 62/63 (เม.ย.62 – มิ.ย.62) บริษัทมีรายได้จากการขาย 2,672.3 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขาย 2,623.2 ล้านบาท จำนวน 49 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.9% มีกำไรสุทธิ 215 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 304.8 ล้านบาท หรือ ลดลง 29.4%

ทั้งนี้ เป็นผลจาก 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น ภายใต้แบรนด์ Aeroflex มียอดขายรวม 760.7 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 3.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นจากต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐอเมริกา และ ญี่ปุ่น ซึ่งเลือกใช้สินค้าระดับพรีเมี่ยม

ธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ ภายใต้แบรนด์ Aeoroklas มียอดขายรวม 1,287.7 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 0.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มาจากผลิตภัณฑ์หลักของ Aeroklas และ ผลิตใหม่ ได้แก่ กันชนหลัง (Rear Bumper) และ ชุดตกแต่งยานยนต์ เป็นต้น สำหรับธุรกิจในประเทศออสเตรเลียเติบโตช้ากว่าคาดจากการชะลอตัวของสภาวะเศรษฐกิจในประเทศออสเตรเลีย อย่างไรก็ตาม ในช่วงปีบัญชีที่เหลือได้บริหารจัดการลดต้นทุนและค่าใช้จ่าย และ สร้างเสริม Synergy ระหว่างธุรกิจ ซึ่งจะเห็นพัฒนาการที่ดีขึ้น

สำหรับยอดขายจากธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น และ ธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ ได้รับผลกระทบส่วนหนึ่งจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

ธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก ภายใต้แบรนด์ EPP มียอดขายรวม 624.0 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 2.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องมาจากได้เร่งทำการตลาดในกลุ่มบรรจุภัณฑ์อาหาร ประเภทกล่องใส่อาหารและถ้วยน้ำดื่ม และสินค้าอุตสาหกรรมเพิ่มมากขึ้น

บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้น 28.3% เป็นผลบวกมาจากราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวลดลง และ อัตราการใช้กำลังการผลิตที่ดีขึ้นต่อเนื่อง

“แนวโน้มธุรกิจของ EPG ในช่วงต่อจากนี้ คาดว่าจะสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยจะมุ่งเน้นกลยุทธ์การนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ พัฒนาคุณภาพของสินค้า เร่งขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศทุกช่องทาง และบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการเติบโตในปีนี้คาดว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้มีรายได้เติบโตประมาณ 10%” รศ.ดร.เฉลียว กล่าว

Back to top button