สังคมข่าวหุ้น
*วานนี้ดัชนีหุ้นไทยปิดเหนือ 1,600 จุดได้ ถือเป็นจิตวิทยาที่ดี เพราะหากลงไปต่ำกว่านั้น จะทำโมเมนตัมเสียไปแล้ว นักลงทุนอาจเกิดการแพนิกขึ้นอีก และจะทำให้กลับขึ้นมายืนเหนือ 1,600 จุดได้อีกครั้งค่อนข้างยาก นี่ยังดีที่นักลงทุนสถาบัน (กองทุน) ซื้อสุทธิ 8,074 ล้านบาท สวนทางกับต่างชาติขายออกมา 11,946 ล้านบาท ทำให้สัดส่วนลงทุนในหุ้นไทยของต่างชาติหากนับจากต้นปี 2562 คงเหลืออยู่ 25,282 ล้านบาท
คาเฟอีน
*วานนี้ดัชนีหุ้นไทยปิดเหนือ 1,600 จุดได้ ถือเป็นจิตวิทยาที่ดี เพราะหากลงไปต่ำกว่านั้น จะทำโมเมนตัมเสียไปแล้ว นักลงทุนอาจเกิดการแพนิกขึ้นอีก และจะทำให้กลับขึ้นมายืนเหนือ 1,600 จุดได้อีกครั้งค่อนข้างยาก นี่ยังดีที่นักลงทุนสถาบัน (กองทุน) ซื้อสุทธิ 8,074 ล้านบาท สวนทางกับต่างชาติขายออกมา 11,946 ล้านบาท ทำให้สัดส่วนลงทุนในหุ้นไทยของต่างชาติหากนับจากต้นปี 2562 คงเหลืออยู่ 25,282 ล้านบาท
*หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ปรับลงเกือบทุกตัว KBANK จริง ๆ แล้วราคายืนแข็งอยู่แดนบวกมาได้ทั้งวัน แต่ปิดตลาดที่ 155 บาท เท่ากับราคาปิดวันก่อนหน้า ส่วนแบงก์กรุงเทพ BBL ที่ภาคเช้าอยู่ในแดนลบ พอตกบ่าย กลับพลิกขึ้นมาเป็นบวกได้ ปิด 167.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท และน่าจะเป็นการเข้าซื้อของกองทุนต่าง ๆ หลังเห็นราคาลงมาค่อนข้างมาก ส่วนไทยพาณิชย์ SCB แม้จะเป็นแบงก์ที่ได้รับผลเกี่ยวกับ NIM มากสุด จากการปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ทั้ง MRR และ MOR แต่ก็จะกระทบกับกำไรน้อยสุด เพราะปีนี้จะมีบันทึกกำไรพิเศษจาก SCBLIFE เข้ามา ส่วนราคาปิดวานนี้ 120.50 บาท เหนือแนวรับ 120.00 บาท ไปแบบเฉียดฉิว ล่าสุดแจ้งจ่ายปันผลระหว่างกาล 1.50 บาท ต่อหุ้น ขึ้น XD วันที่ 28 ส.ค.นี้
*SAWAD ของ “ธิดา แก้วบุตตา” แจ้งงบไตรมาส 2 สวยหรู กำไรกว่า 883 ล้านบาท เพิ่ม 32% เป็นไปตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ส่งผลครึ่งปีแรก กำไรดันจนกระเป๋าตุงแล้ว 1.70 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 47% ส่วนเอ็นพีแอลทรงตัวไม่เพิ่มและไม่ลด และแนวโน้มครึ่งปีหลังคาดว่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก และได้รับประโยชน์จากดอกเบี้ยเป็นขาลงด้วย ทำให้โบรกฯ ต่างยังคงแนะนำ “ซื้อ” บล.เคที ซีมิโก้ ให้ราคาเป้าหมาย 64 บาท ส่วนบล.ฟินันเซียฯ เคาะไว้ 59 บาท
*ชาติชาย พยุหนาวีชัย บอสแบงก์ออมสิน ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อลูกค้ารายย่อย โดยปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี หรือ MRR ลดลง 0.13% ต่อปี จาก 7.00% เหลือ 6.87% ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำ ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี หรือ MOR ลดลง 0.13% ต่อปี จาก 7.00% เหลือ 6.87% ทำให้เท่ากับ 2 ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ มีผลตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค.นี้
*เช่นเดียวกับ ธอส. หรือธนาคารอาคารสงเคราะห์ภายใต้การบริหารของ “ฉัตรชัย ศิริไล” แจ้งลดดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR) จาก 6.250% ต่อปี ลงเหลือ 6.125% ต่อปี ดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) จาก 7.000% ต่อปี ลงเหลือ 6.875% ต่อปี และดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) จาก 6.750% ต่อปี ลงเหลือ 6.625% ต่อปี และถือเป็นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยที่ต่ำสุดในระบบสถาบันการเงิน มีผลวันที่ 16 ส.ค.นี้เช่นกัน
*ชวลิต ทิพพาวนิช บิ๊กบอส GPSC หรือ บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ ชงแพ็กเกจเพิ่มทุน ด้วยราคาจูงใจ 56 บาทต่อหุ้น รับส่วนลดทันที 20% จากราคาเฉลี่ยที่สูงถึง 70 บาท ผู้ถือหุ้นจะได้รับในอัตราส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 0.8819 หุ้นใหม่ เพื่อระดมเงินให้ได้ 7.4 หมื่นล้านบาท ตามแผนการเพิ่มทุนของการเข้าไปซื้อกิจการ GLOW หรือ บมจ.โกลว์ พลังงาน เพื่อทำงานตามแผน 5 ปี ไว้ จะมีโครงการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเป็น 5,400 เมกะวัตต์ อ้อ เขาขึ้น XR (Excluding Right) หรือผู้ซื้อหลักทรัพย์ไม่ได้สิทธิจองซื้อหุ้นออกใหม่ วันที่ 3 ก.ย.นี้ และเปิดจอง 30 ก.ย.-4 ต.ค. 2562
*ข้อมูล ณ วันที่ 15 ส.ค. หรือวันสุดท้ายของการประกาศผลดำเนินงานงวดไตรมาส 2 มีบริษัทจดทะเบียน (บจ.) รายงานงบฯ แล้วกว่า 500 บริษัท คิดเป็น 95% ของมาร์เก็ตแคปทั้งตลาดฯ ทำกำไรสุทธิรวมกันได้ 2.15 แสนล้านบาท ลดลงจากไตรมาส 1/2562 ราว ๆ 20% และลดลงจากไตรมาส 2/2561 ระหว่าง 17-18% เห็นตัวเลขแบบนี้ บรรดาโบรกฯ น่าจะมีการปรับลดคาดการณ์กำไรบจ.ปีนี้ลงอีกแน่นอน นี่ยังไม่รวมหุ้นกลุ่มแบงก์ที่ได้รับผลจากปรับดอกเบี้ยลงด้วยนะ
*ธนาคารกรุงไทย (KTB) แจ้งปรับปรุงระบบงานอิเล็กทรอนิกส์ ส่งผลให้ลูกค้าไม่สามารถใช้บริการบางประเภทชั่วคราว วันเสาร์ที่ 17 ส.ค.นี้ ระหว่างเวลา 00.01 น.-05.30 น. ได้แก่ กรุงไทย NEXT กรุงไทย Connext กรุงไทย Corporate Online กรุงไทย PromptPay บริการจองซื้อหลักทรัพย์ออนไลน์ แอปพลิเคชันเป๋าตัง บัตรกรุงไทย E-Money (เฉพาะชำระค่าสินค้าที่ร้านธงฟ้า) บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (เฉพาะชำระค่าโดยสารรถประจำทาง) และกรุงไทย Internet Banking