เส้นทางนักลงทุน

หุ้นไก่กำไรเด่น

หุ้นกลุ่มไก่เป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่น่าลงทุน ! เพราะมีการประกาศผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2 ปี 2562 รวมไปถึงงวด 6 เดือนแรก นับว่าสดใสกระพือปีกบินกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะ บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน) หรือ GFPT, บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TFG สามารถทำกำไรสุทธิเติบโตแข็งแกร่ง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

สำหรับ บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน) หรือ GFPT รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2562 ทำกำไรสุทธิ 341.50 ล้านบาท หรือ 0.27 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 61.40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 211.59 ล้านบาท หรือ 0.17 บาทต่อหุ้น

ขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรก สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2562 ทำกำไรสุทธิ 569.35 ล้านบาท หรือ 0.45 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 59.26% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 357.50 ล้านบาท หรือ 0.29 บาทต่อหุ้น

ผลการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น สาเหตุหลักจากรายได้จากการขายรวมเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจเนื้อไก่แปรรูปเพิ่มขึ้น และส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ทางนักวิเคราะห์มองว่า ผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังมากกว่าครึ่งปีแรกเนื่องจากเข้าสู่ช่วง high season การส่งออกและการรับรู้กำไรจากบริษัทร่วมทุนเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะ Mckey ที่เริ่มดำเนินงานเต็มกำลังการผลิตเต็มปี

เช่นเดียวกับ บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TFG รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2562 ทำกำไรสุทธิ 518.50 ล้านบาท หรือ 0.10 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 2,241.92% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 22.14 ล้านบาท หรือ 0.04 บาทต่อหุ้น

ขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรก สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2562 ทำกำไรสุทธิ 722.67 ล้านบาท หรือ 0.14 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 548.83% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 111.38 ล้านบาท หรือ 0.02 บาทต่อหุ้น

ผลการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นจากมาร์จิ้นสูงขึ้นจากราคาไก่และสุกรที่ดีขึ้นประกอบกับต้นทุนอาหารสัตว์จากข้าวโพดอาหารสัตว์และกากถั่วเหลืองที่ลดลง

นอกจากนี้นักวิเคราะห์มองว่าแนวโน้มไตรมาส 3/2562 ทางด้านกำไรจะเร่งขึ้นจากไตรมาสก่อนตามปัจจัยฤดูกาลธุรกิจไก่ส่งออก ราคาไก่เป็นไทยยืนแกร่ง ราคาหมูในประเทศอ่อนตามฤดูกาล แต่ในเวียดนามเริ่มฟื้นและมีแนวโน้มจะปรับขึ้นในครึ่งหลังของปี 2562

ส่วนทางด้านยักษ์ใหญ่ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2562 ทำกำไรสุทธิ 4,104.48 ล้านบาท หรือ 0.48 บาทต่อหุ้น ลดลง 30.36% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 5,893.98 ล้านบาท หรือ 0.70 บาทต่อหุ้น ขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรก สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2562 ทำกำไรสุทธิ 8,383.88 ล้านบาท หรือ 0.99  บาทต่อหุ้น ลดลง 6.25% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 8,942.60 ล้านบาท หรือ 1.06 บาทต่อหุ้น

แม้ว่าผลกำไรสุทธิลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ภาพรวมไม่น่ากังวล เนื่องจากการลดลงเป็นผลมาจากผลกระทบจากการบันทึกผลขาดทุนจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์ชีวภาพ และผลจากที่พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2562 กำหนดให้นายจ้างจ่ายเงินชดเชยเมื่อออกจากงานเพิ่มเติมจาก 300 วันเป็น 400 วัน ให้แก่ลูกจ้างที่ทำงานติดต่อกันครบ 20 ปีขึ้นไป ทำให้บริษัทต้องรับรู้ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในไตรมาสที่ 2 ปี 2562 อีกจำนวน 1,812 ล้านบาท

ทว่าหากทางบริษัทไม่มีการสำรองเงินให้กับพนักงาน โดยกำไรที่เติบโตยังคงมาจากราคาเนื้อสัตว์ปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ ราคาหมูในไทยเฉลี่ยไตรมาส 2/2562 เท่ากับ 74.33 บาท/กก. (เพิ่มขึ้น 1.4% จากไตรมาสก่อน, และเพิ่มขึ้น 23.9% จากงวดเดียวกันของปีก่อน) และราคาไก่ในไทยเฉลี่ยไตรมาส 2/2562 เท่ากับ 35.67 บาท/กก. (เพิ่มขึ้น 5%  จากไตรมาสก่อน, และเพิ่มขึ้น 11.5% จากงวดเดียวกันของปีก่อน) รวมถึงภาพรวมธุรกิจในต่างประเทศค่อนไปในทางทรงตัวถึงปรับตัวดีขึ้น

ดังนั้นผลการดำเนินงานเติบโตแข็งแกร่งจะช่วยสะท้อนปัจจัยบวกต่อราคาหุ้นต่อไป !!!