5 หุ้นปันผลแจ่ม
ช่วงที่ตลาดหุ้นแกว่งเป็นชิงช้าชวนเวียนหัว
ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร
ช่วงที่ตลาดหุ้นแกว่งเป็นชิงช้าชวนเวียนหัว
มักจะมีคำแนะนำตามมาว่า ให้ซื้อ “หุ้นปันผล” เข้าพอร์ตบ้าง โดยเฉพาะในช่วงที่หุ้น (ปันผลสูง) ราคาปรับลงมา
มีมุมมองจาก “เอกภาวิน สุนทราภิชาติ” บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด เกี่ยวกับคำแนะนำหุ้นปันผล ผมอ่านดูแล้วน่าสนใจดี
เขาบอกว่าในช่วงที่ดัชนีปรับร่วงลงไปจากปัจจัยลบทั้งต่างประเทศ และในประเทศ และล่าสุดค่อย ๆ ทยอยขึ้นมา
แต่มีคำเตือนว่า นักลงทุนยังต้องระวังแรงขายของนักลงทุนต่างชาติอยู่ และมีโอกาสขายหุ้นไทยได้อีก 6 หมื่นล้านบาทจาก MSCI Rebalance ในรอบเดือน ส.ค.นี้
ก่อนหน้านี้ที่ดัชนีต่ำกว่าระดับ 1,600 จุดลงมา
บล.ไทยพาณิชย์ มองว่า มีโอกาสกลับมาฟื้นตัว ด้วยความน่าสนใจด้านมูลค่า
ดัชนีที่บริเวณ 1,600 จุด คิดเป็น forward P/E ที่ระดับ 14.0 เท่า ซึ่งถือว่าน่าสนใจ หากเทียบกับค่าเฉลี่ย P/E ของดัชนีที่ระดับ 15-16 เท่า ทำให้คาดว่าดัชนีมีโอกาสฟื้นตัวจากบริเวณนี้
ส่วนแนวต้านเป้าหมายสำหรับรอบการฟื้นตัวข้างหน้า มองที่บริเวณ 1,650 และ 1,700 จุด
ทว่า ภาพรวมของตลาดอาจจะดูยังไม่ค่อยดีนัก
ขณะที่ราคาหุ้นเริ่มถูก
ดังนั้น ตัวเลือกที่น่าสนใจ จึงเป็นกลุ่มหุ้นที่จ่ายเงินปันผลในระดับที่ดี
บล.ไทยพาณิชย์ เขาเลือกหุ้นที่ปันผลน่าสนใจมาจำนวน 5 ตัว
เริ่มจาก KKP เป็นหุ้นที่แนวโน้มราคาดี จ่ายปันผลสูง (คาดอัตราเงินปันผลตอบแทนอยู่ที่ระดับ 6.4% ต่อปี)
KKP ราคาหุ้นมีความผันผวนต่ำ อีกทั้งการวิเคราะห์เชิงปริมาณ 10 ปีล่าสุด พบว่าราคาหุ้นก่อนขึ้นเครื่องหมาย XD 1 เดือน มักปรับขึ้นเฉลี่ย 2.95% ด้วยความน่าจะเป็น 70%
KKP จะขึ้น XD ในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนก.ย.นี้
คาดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 2.00 บาทต่อหุ้น คิดเป็นยีลด์ระดับประมาณ 2.8%
และยังมองเป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์ในช่วงอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ
ต่อมาคือ MAJOR อัตราเงินปันผลตอบแทนอยู่ที่ประมาณ 4.4% ต่อปี และจะจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลที่ระดับ 0.65 บาทต่อหุ้น คิดเป็นยีลด์ระดับประมาณ 2.5% (ขึ้น XD 23 ส.ค.)
ส่วนไตรมาส 3/2562 จะมีหนังฟอร์มยักษ์หลายเรื่องเข้าฉาย
และมีช่วงวันหยุดเทศกาล คาดว่าจะหนุนให้ผลประกอบการเติบโตเด่น
หุ้น LH อัตราเงินปันผลตอบแทนอยู่ที่ประมาณ 6.3% ต่อปี และคาดว่าจะจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลที่ระดับ 0.38 บาทต่อหุ้น คิดเป็นยีลด์ระดับประมาณ 3.6%
LH ยังเป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ
และคาดว่าภาครัฐอาจมีมาตรการกระตุ้นอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซา
อีกหุ้น คือ TTW อัตราเงินปันผลตอบแทนอยู่ที่ประมาณ 4.4% ต่อปี และจะจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลที่ระดับ 0.30 บาทต่อหุ้น คิดเป็นยีลด์ระดับประมาณ 2.2% (ขึ้น XD 26 ส.ค.)
คาดว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2562 จะเติบโตแบบก้าวกระโดด
เหตุผลเพราะได้รับปัจจัยกระตุ้นจากการเริ่มเดินเครื่องโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี (XPCL) ตอนปลายเดือนต.ค.นี้
และจะส่งผลทำให้กำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นของ CKP ปรับเพิ่มขึ้นสู่ 921 MW
ซึ่งในส่วนของ TTW ปรับเพิ่มขึ้นสู่ 233 MW
สุดท้ายคือ SPALI อัตราเงินปันผลตอบแทนอยู่ที่ประมาณ 4.8% ต่อปี
และจะจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลที่ระดับ 0.40 บาทต่อหุ้น คิดเป็นยีลด์ระดับประมาณ 2.0% (ขึ้น XD 27 ส.ค.)
โดย SPALI มีปัจจัยหนุนเฉพาะตัวจากยอดขายที่โดดเด่นและมียอดขายรอรับรู้รายได้จำนวนมากที่จะสร้างรายได้ไปจนถึงปี 2566 ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้กำไรเติบโตอย่างราบรื่นในระยะ 2-3 ปีข้างหน้า