เปิดโผหุ้นกลุ่ม SET ไตรมาส 2/62 พลิกกำไร!
เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของบริษัทจดทะเบียนส่วนหนึ่งใน SET ที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ที่ผ่านมา สามารถพลิกมีกำไรได้จากงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุน
เส้นทางนักลงทุน
ผลการดำเนินงานไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2562 ของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ประกาศออกมาเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อย พบว่ามีหลักทรัพย์ที่สามารถพลิกมีกำไรสุทธิได้อย่างแข็งแกร่ง จากงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ
อาทิเช่น TSI, ROJNA, PERM, BJCHI, AKR, MFEC, AS, CWT, SAMCO, AMC, GULF, AJ, EGCO, AMARIN, MCOT, INSURE, KTIS, RPC, EE, TIPCO, SQ, MATI, TEAM, EVER, FNS, SAMART, RCL, CNT, CGD, THRE, ESTAR, PDI, MPIC และ TKT เป็นต้น
บริษัท ไทยเศรษฐกิจประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ TSI รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2562 สามารถพลิกมีกำไรสุทธิ 54.10 ล้านบาท หรือ 0.05 บาทต่อหุ้น เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 1.08 ล้านบาท หรือ 0.001 บาทต่อหุ้น เป็นผลจากค่าใช้จ่ายรวมที่ลดลงจำนวน 52.9 ล้านบาท โดยค่าสินไหมทดแทนลดลง 36.5 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเกิดจากพัฒนาการสินไหมของกรมธรรม์ที่มีอัตราความเสียหายสูงกว่าอุตสาหกรรมใกล้จะครบ (กรณีมีการเรียกร้องแล้ว) ค่าจ้างและค่าบำเหน็จลดลงผันแปรตามยอดเบี้ยประกันที่ลดลง โดยลดลงจาก 21.7 ล้านบาทเป็น 14.2 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการรับประกันภัยและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานรวมลดลงจาก 96.6 ล้านบาท เป็น 87.7 ล้านบาท
บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) หรือ ROJNA รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2562 สามารถพลิกมีกำไรสุทธิ 569.59 ล้านบาท หรือ 0.28 บาทต่อหุ้น เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 65.37 ล้านบาท หรือ 0.01 บาทต่อหุ้น เป็นผลจากรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น อันเนื่องจากมาจากมีลูกค้าที่โครงการพระนครศรีอยุธยา, ระยอง (บ้านค่าย) และโครงการปราจีนบุรี ที่ถึงกำหนดชำระเงินงวดสุดท้ายและบริษัทได้ทำการโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินให้แก่ลูกค้า รวมถึงรายได้จากการขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้น เนื่องจากเปิดดำเนินการของโครงการ SPP3 และรายได้ค่าบริการและค่าเช่า เป็นรายได้จากการขายน้ำเพื่ออุตสาหกรรม, บริการบำบัดน้ำเสีย และค่าบริการส่วนกลาง โดยในไตรมาสนี้มีลูกค้าในโครงการเพิ่มปริมาณการใช้น้ำเพื่ออุตสาหกรรมมากขึ้น
บริษัท เพิ่มสินสตีลเวิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PERM รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2562 สามารถพลิกมีกำไรสุทธิ 12.33 ล้านบาท หรือ 0.022 บาทต่อหุ้น เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 1.63 ล้านบาท หรือ 0.003 บาทต่อหุ้น เป็นผลจากค่าใช้จ่ายการขายและบริหารลดลง เนื่องจากไม่มีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเพราะในปี 2562 ค่าเงินบาทแข็งค่ากว่างวดเดียวกันของปีที่แล้ว
บริษัท บีเจซี เฮฟวี่ อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ BJCHI รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2562 สามารถพลิกมีกำไรสุทธิ 12.31 ล้านบาท หรือ 0.01 บาทต่อหุ้น เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 1.79 ล้านบาท หรือ 0.00 บาทต่อหุ้น สาเหตุหลักเกิดจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณงาน ซึ่งได้อธิบายในภาพรวมการดำเนินงานที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น
บริษัท เอกรัฐวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ AKR รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2562 สามารถพลิกมีกำไรสุทธิ 53.47 ล้านบาท หรือ 0.04 บาทต่อหุ้น เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 8.42 ล้านบาท หรือ 0.006 บาทต่อหุ้น โดยส่วนใหญ่ที่เพิ่มขึ้นมาจากรายได้จากการจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้าให้กับหน่วยงานราชการ รวมถึงรายได้ค่าบริการ และซ่อมบำรุงรักษาหม้อแปลงไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน อีกทั้งยังเป็นผลจากการบริหารจัดการต้นทุนขายสินค้าให้ลดลงอย่างต่อเนื่อง
บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFEC รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2562 สามารถพลิกมีกำไรสุทธิ 41.50 ล้านบาท หรือ 0.09 บาทต่อหุ้น เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 7.37 ล้านบาท หรือ 0.02 บาทต่อหุ้น เนื่องจากในปี 2561 บริษัทบันทึกรับรู้ขาดทุนจากการด้อยค่าเงินลงทุน และปรับมูลค่าเงินลงทุนในบริษัทย่อยแห่งหนึ่ง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 37.33 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากมูลค่าที่คาดว่าจะได้รับคืนในเงินลงทุนดังกล่าวต่ำกว่ามูลค่าตามวิธีส่วนได้เสียของเงินลงทุน
บริษัท เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AS รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2562 สามารถพลิกมีกำไรสุทธิ 20.37 ล้านบาท หรือ 0.05 บาทต่อหุ้น เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 4.46 ล้านบาท หรือ 0.01 บาทต่อหุ้น เป็นผลจากบริษัทมีรายได้จากการขายและบริการเพิ่มขึ้น เนื่องจากได้เปิดตัวเกมใหม่ 2 เกม โดยเป็นเกมมือถือ 1 เกมและเกมพีซี 1 เกม โดยรายได้หลักของบริษัทมาจากรายได้จากการขายและบริการในประเทศไทย
บริษัท ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CWT รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2562 สามารถพลิกมีกำไรสุทธิ 47.19 ล้านบาท หรือ 0.07 บาทต่อหุ้น เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 10.49 ล้านบาท หรือ 0.02 บาทต่อหุ้น เป็นผลจากรายได้จากการขายและบริการเพิ่มขึ้น โดยมาจากธุรกิจหนังผืน อีกทั้งยังมีรายได้จากกลุ่มธุรกิจพลังงานซึ่งเกิดจากขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ และจากธุรกิจออกแบบและจัดจำหน่ายเรือและรถโดยสารขนาดเล็กที่ผลิตด้วยอะลูมิเนียม
นอกจากนี้ยังมีหลักทรัพย์ตัวอื่นที่มีความสามารถบริหารจัดการให้ไตรมาส 2/2562 พลิกกลับมามีกำไรสุทธิได้ โดยดูตัวเลขจากตารางประกอบ
สรุปว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของบริษัทที่มีการปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจและการบริหารต้นทุนได้เป็นอย่างดี !!!
…