อัพไซด์จำกัด
*ดัชนีท้ายสัปดาห์ที่ผ่านมาถูกลากขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,646.68 จุด บวกไป 13.12 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.11 หมื่นล้านบาท ยิ่งเป็นการตอกย้ำสิ่งที่ “โมนิก้า” เคยเกริ่นและแอบกระซิบแฟนคลับตั้งแต่วันก่อนว่าเป็นรูปแบบที่ต้องทันเกม! พวกอ่อนต่อโลกอาจไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นในรอบนี้ แต่ผู้ที่เจนสนามที่เข้าใจเรื่องเกมการเงินจะมองรูปแบบของการลงทุนได้อย่างถ่องแท้
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*ดัชนีท้ายสัปดาห์ที่ผ่านมาถูกลากขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,646.68 จุด บวกไป 13.12 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.11 หมื่นล้านบาท ยิ่งเป็นการตอกย้ำสิ่งที่ “โมนิก้า” เคยเกริ่นและแอบกระซิบแฟนคลับตั้งแต่วันก่อนว่าเป็นรูปแบบที่ต้องทันเกม! พวกอ่อนต่อโลกอาจไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นในรอบนี้ แต่ผู้ที่เจนสนามที่เข้าใจเรื่องเกมการเงินจะมองรูปแบบของการลงทุนได้อย่างถ่องแท้
*งานนี้ถึงอย่าไปหาเหตุผลที่แท้จริงที่ทำให้ “หุ้นขึ้น” เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในเที่ยวนี้มันเป็นเพียงแค่กระแส ยังไม่ใช่จังหวะที่นักเล่นใส่กันแบบไม่ยั้ง เพราะเชื่อว่าอาจได้เห็นการกลับหัวลงมาอีกครั้งหลัง “โมนิก้า” นั่งคิดนอนคิดด้านไหนก็เห็นเป็นแค่เกมชักเย่อธรรมดา ๆ เพราะสถานการณ์โดยรอบยังไม่มีปัจจัยบวกหนุนโดดเด่น จึงยังไม่มีอะไรที่จะเป็นจุดเปลี่ยนรูปแบบการเคลื่อนตัวได้ยังไงล่ะเจ้าคะ
*ยิ่งไปกว่านั้นการกระชากขึ้นมาได้ถึง 13 จุด ยิ่งกลับทำให้ต้องระวังตัวเป็นพิเศษเพราะเท่าที่ดูแล้วดัชนียังไปต่อได้ไม่ไกล และที่สำคัญการวิ่งแรงเที่ยวนี้ทำให้ Upside ที่มีอยู่เริ่มจำกัดเข้าไปทุกที ซึ่งเป็นไซเคิลที่ทุกคนรู้อยู่แล้วว่า ควรต้องทำตัวอย่างไรต่อไป? หากอยากเห็นการฟื้นตัวจริง ๆ คงต้องอาศัยปัจจัยภายนอกเป็นบวก (จริง ๆ) เพื่อที่จะบิลต์อารมณ์ให้ฮึกเหิม ฉะนั้นในช่วงที่ดัชนียังไม่สามารถเปลี่ยนโพสิชั่นได้ จึงต้องรู้จักหลบหลีกให้เป็นเจ้าค่ะ
*ในรายของ INTUCH ช่วงนี้มีวอลุ่มหนาแน่นเป็นพิเศษจากปัจจัยบวกเฉพาะตัวหลังรับปัจจัยบวก 2 เด้งถูกเพิ่มน้ำหนักใน FTSE พ่วงด้วยลุ้นเข้าคำนวณ MSCI รอบใหม่ที่จะประกาศช่วงปลายเดือน ถือเป็นแรงหนุนนำให้ราคาหุ้นเมื่อวันศุกร์วิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 64.75 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 2.37% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.78 พันล้านบาท มีข่าวดีแบบนี้การที่ราคาจะทะยานขึ้นแตะแนวต้าน 67 บาท คงจะไม่นานเกินรอแล้วนะจะบอกให้
*ด้านหุ้น DTAC สัญญาณชัดแจ๋ว! ราคาถึงยังทะยานไม่หยุด ล่าสุดมาปิดที่ระดับ 63.25 บาท บวกไป 3.00 บาท หรือขึ้นไป 5% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 944.10 ล้านบาท ทำนิวไฮในรอบเกือบ 4 ปี ถือเป็นหุ้นที่แข็งกว่าตลาด เพราะไม่ว่าดัชนีจะออกมารูปแบบไหนก็ยังบวกสวนได้แบบชิว ๆ ด้านปัจจัยพื้นฐานยังมีสตอรี่ให้ติดตามอีกเพียบ “เดี๊ยน” มองว่าราคาหุ้นรอบนี้มีเป้าหมายขึ้นไปทดสอบระดับ 66 บาท เป็นสถานีต่อไปเจ้าค่ะ
*ฟาก CK ราคาถูกกดลงมาอย่างต่อเนื่องจนเข้าเขต Oversold ล่าสุดกลับมาฮึดได้อีกครั้งด้วยการเด้งกลับขึ้นมาปิดที่ระดับ 23.20 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 3.11% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 465.88 ล้านบาท สัญญานเทคนิคเริ่มตั้งลำเป็นขาขึ้นรอบใหม่ เดี๊ยนมองว่าเป็นโอกาสในการเก็บของถูก เพราะแรงซื้อที่ยังมีมากกว่าแรงขายถือเป็นหุ้นอีกตัวที่น่าตามต่อเจ้าค่ะ
*ตรงกันข้ามกับกรณีของ STEC ที่มีรูปแบบการเคลื่อนตัวคล้ายกัน แต่เนื้อหากลับไม่เหมือนกัน ล่าสุดราคาดีดกลับขึ้นมาให้เห็นบาง ๆ หลังจากเจอมรสุมทำให้หุ้นเป็นขาลงมาร่วม 2 สัปดาห์ มาปิดที่ระดับ 19.20 บาท บวกไป 0.90 บาท หรือขึ้นไป 4.92% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.50 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองการขยับตัวขึ้นรอบนี้เป็นเพียงการซื้อเก็งกำไรเวลาหุ้นร่วงหนัก ๆ เท่านั้น ด้วยเรื่องพื้นฐานยังถูกปัจจัยกดดันเรื่องมาร์จิ้น ทำให้ภาพการเคลื่อนไหวที่ออกมายังไม่น่าลุยเต็มเหนี่ยวนะเจ้าคะ
*หุ้น TKN ลักษณะการเคลื่อนไหวยังเป็นการพายเรือวนในอ่าง ขึ้น 2 วัน ลง 2 วัน สาเหตุที่เป็นเช่นนั้น “เดี๊ยน” ขอตอบด้วยคำถามที่ว่า มูลค่าที่แท้จริงของหุ้นควรอยู่ตรงไหน? การที่หุ้นกระชากขึ้นมาปิดที่ระดับ 11.80 บาท บวกไป 1.30 บาท หรือขึ้นไป 12.38% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 908.30 ล้านบาท ด้วย P/E เฉียด 50 เท่า คงเป็นคำตอบที่ทำให้นักเล่นถึงบางอ้อได้ไม่ยากนะเจ้าคะ
*ส่วนหุ้น FANCY มักมีการเคลื่อนไหวแบบแฟนตาซี ให้มิตรรักแฟนคลับได้เห็นอยู่เป็นประจำ ล่าสุดหุ้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 0.72 บาท ลบไป 0.02 บาท หรือลงไป 2.86% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 20.99 ล้านบาท การเคลื่อนไหวของหุ้นตัวนี้มักเป็นที่โจษจันเสมอ ใครที่เก๋าเกมคงจะมองเกมออกว่าสถานการณ์แบบนี้หากจะเข้าไปคลุกวงในต้องรีบเล่นรีบลุก เพราะหากเข้าไปติดดอยแล้วจะหาทางกลับเมืองยาก!
*ปิดท้ายที่หุ้น SEAFCO ราคาเด้งแรงขึ้นมาปิดที่ระดับ 7.40 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 3.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 26.02 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นการเข้ามาเก็บหุ้นเก็งกำไรก่อนขึ้นเครื่องหมาย XD ด้วยยีลด์กว่า 3% พร้อมปัจจัยพื้นฐานอันแข็งแกร่งถือเป็นแบ็กกราวด์สำคัญที่ดึงดูดนักลงทุนอย่างดี ด้านสัญญาณเทคนิคก็ไม่น้อยหน้าเพราะเริ่มเห็นถึงการผงกหัวกลับขึ้นมาได้อีกครั้ง งานนี้บอกเลยว่ามีข่าวดีมารอรับขนาดนี้จะชักช้าไม่ได้แล้วนะ…อิอิ