“เครดิต สวิส” ชี้จังหวะเก็บ IVL ช่วงราคาอ่อนตัว! เคาะเป้าสนั่น 55 บ.ดันอัพไซด์ทะลัก 80%
“เครดิต สวิส” ชี้จังหวะเก็บ IVL ช่วงราคาอ่อนตัว! เคาะเป้าสนั่น 55 บ.ดันอัพไซด์ทะลัก 77%
จากกรณีราคาหุ้น บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL ปรับตัวลดลงอย่างหนักเมื่อวันที่ 26 ส.ค.62 ที่ผ่านมา จากความวิตกกังวลเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน เนื่องจากทาง IVL ได้มีโรงงานตั้งอยู่ที่ประเทศสหรัฐฯ
ล่าสุด บริษัทหลักทรัพย์ เครดิต สวิส ระบุในบทวิเคราะห์โดยให้ความเห็นว่าการปรับตัวลดลงในราคาหุ้นของ IVL นั้น เป็นการลดลงที่ไม่มีเหตุปัจจัยหลักมาประกอบ ซึ่งทางเครดิต สวิส ยังคงความเห็นว่า IVL เป็นหุ้นที่ OUTPERFORM และคงราคาเป้าหมายไว้ตามเดิมที่ 55 บาท/หุ้น (โดยเมื่อเทียบกับราคาปิดวานนี้ (27 ส.ค.62) ที่ระดับ 30.50 บาท เท่ากับราคาหุ้นมีอัพไซด์ 80.32%
ทั้งนี้ ในบทวิเคราะห์ระบุว่า IVL เข้าถือหุ้นในบริษัท Huntsman ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อต้องการดึงเอาข้อได้เปรียบของการซื้อก๊าซในราคาถูกมาให้กับบริษัท ซึ่งผลิตภัณฑ์หลักของ Huntsman นั้นได้แก่ สารลดแรงตึงผิว (ethoxylate) เมทิล เทอร์เชียรี-บิวทิล อีเทอร์ (MTBE) และ โพรพิลีน ออกไซด์
สำหรับธุรกิจสารลดแรงตึงผิว ซึ่งเป็นสารประเภทหนึ่งของ เอทิลีนออกไซด์ มีการเติบโตที่สูงกว่าค่า GDP และยังมีมาร์จิ้นที่คงที่ จึงจะทำให้ IVL ขยับขึ้นมาเป็นผู้ผลิตยักษ์ใหญ่อันดับที่สองในสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตามในส่วนของ MTBE นั้น เป็นผลิตภัณฑ์จากน้ำมันเบนซินแปรรูปที่มีการส่งออกไปภูมิภาคต่างๆ ซึ่งราคาของผลิตภัณฑ์นั้นปรับตัวตามราคาน้ำมัน ส่วนต้นทุนของวัตถุดิบตั้งต้นนั้นขึ้นอยู่กับบิวเทนและเมทานอล ซึ่งมีราคาถูกในสหรัฐ และทำให้มีมาร์จิ้นที่สูงขึ้น
ขณะที่ ธุรกิจ โพรพิลีน ออกไซด์ (PO) ก็มีอัตราการเติบโตที่สูงกว่า GDP ด้วยเช่นกัน โดยต้นทุนธุรกิจ PO ของ Huntsman นั้นจัดอยู่ในระดับที่ต่ำสุดเมื่อเทียบกับบริษัทอื่นๆ ในโลก ซึ่งเป็นผลพลอยได้มาจากการผลิตผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เกี่ยวโยงกัน
นอกจากนั้นแล้ว IVL ยังวางแผนที่จะใช้เงินลงทุนจำนวน 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อขยายธุรกิจเอทิลีนออกไซด์ คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2566
ส่วนทางด้านธุรกิจ PET นั้นยังมีความต้องการจากตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มขึ้นเป็น 1.3 ล้านตัน หรือ 5% ต่อปี เทียบกับ 1 ล้านตันในอดีต
ทั้งนี้ IVL ระบุถึงปัจจัยหลักในการเติบโตของบริษัท 2 ข้อ คือ
1) การเติบโตของความต้องการจากประเทศกำลังพัฒนา โดยเฉพาะอินเดียที่มีความต้องการมากขึ้นกว่า 20%
2) ความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผลิตภัณฑ์ PET เนื่องจากเป็นวัสดุที่นำมารีไซเคิลได้ง่ายกว่าจำพวก HDPE และ IVL ยังระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีคู่แข่งใหม่ๆในธุรกิจ PET/PTA
ทั้งนี้ ราคาสินค้าทางฝั่งทวีปตะวันตกที่ IVL ตั้งขายนั้นจะอิงจากราคาเสมอภาคการนำเข้า (Import-Parity Price) ในเอเชีย ดังนั้นเมื่อราคาระวางเพิ่มขึ้นจาก IMO 2563 IVL จะสามารถเรียกเก็บเงินเพิ่มขึ้นจากทางโซนตะวันตกได้ และยังจะช่วยเพิ่มมาร์จิ้นได้ด้วยเช่นกัน โดยผลประโยชน์ที่จะได้ในครั้งนี้จะเริ่มรับรู้ตั้งแต่ ม.ค.2563 เป็นต้นไป
ดังนั้น เครดิต สวิส เห็นว่าการปรับตัวลดลงของราคาหุ้น IVL ที่ผ่านมานั้น ไม่มีปัจจัยด้านลบที่สำคัญมาประกอบ จึงมองว่าเป็นช่วงที่น่าเข้าเก็บหุ้นเพิ่มในขณะที่ราคากำลังอ่อนตัว