ดราม่าหุ้นไทย
*ดูเหมือนผู้คนในแวดวงตลาดหุ้นไทยจะชินชากับการเหวี่ยงตัวไปมาของดัชนี ถึงแสดงอาการไม่ยินดียินร้ายกับการทะยานขึ้นของดัชนีสักเท่าไหร่? ทำให้ภาพของการลงทุนไม่ค่อยมีอะไรน่าตื่นเต้นเร้าใจ เพราะในแต่ละวันยังคงวนเวียนอยู่กับคำแนะนำ “ซื้อ” เป็นส่วนใหญ่ ทั้งที่เห็นกันทนโท่ว่า ฝรั่งตาน้ำข้าวยังสาดหุ้นไทยไม่เลิก ส่งผลให้ดัชนียังขยับเขยื้อนไปได้ไม่ไกลนะจะบอกให้
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*ดูเหมือนผู้คนในแวดวงตลาดหุ้นไทยจะชินชากับการเหวี่ยงตัวไปมาของดัชนี ถึงแสดงอาการไม่ยินดียินร้ายกับการทะยานขึ้นของดัชนีสักเท่าไหร่? ทำให้ภาพของการลงทุนไม่ค่อยมีอะไรน่าตื่นเต้นเร้าใจ เพราะในแต่ละวันยังคงวนเวียนอยู่กับคำแนะนำ “ซื้อ” เป็นส่วนใหญ่ ทั้งที่เห็นกันทนโท่ว่า ฝรั่งตาน้ำข้าวยังสาดหุ้นไทยไม่เลิก ส่งผลให้ดัชนียังขยับเขยื้อนไปได้ไม่ไกลนะจะบอกให้
*ด้วยเหตุนี้ถึงทำให้การทะยานขึ้นของดัชนีมาปิดที่บริเวณ 1,616.93 จุด บวกไป 1.46 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.64 หมื่นล้านบาท กลายเป็นเหตุการณ์พื้น ๆ ที่เข้ามาแล้วผ่านเลยไป ซึ่งผิดกับข่าวเม้าท์ที่ชาวหุ้นกำลังซุบซิบนินทาที่เกิดขึ้นเวลานี้ ล้วนมีประเด็นที่เป็นดราม่าเกิดขึ้นเยอะมาก “โมนิก้า” ถึงต้องกระโดดเข้าไปร่วมวงกับเขาด้วยอีกคน เพราะมันเป็นเรื่องที่ฟังแล้วเกิดอารมณ์คล้อยตามสุด ๆ ไงล่ะคะ
*โดยเฉพาะข้อพิพาทของ CPN กับ AOT เกี่ยวกับการก่อสร้าง “เซ็นทรัล วิลเลจ” ตรงสุวรรณภูมิอาจกระทบกระเทือนกับการบิน จนเป็นเหตุให้มีการปิดกั้นทางเข้าออกของห้าง หลังมีการสร้างรุกล้ำเข้ามาในเขตราชพัสดุ จนทำให้ ทอท.ต้องออกคำสั่งให้รื้อถอนเพื่อความปลอดภัยของสายการบินต่าง ๆ ที่จะมาลงจอด งานนี้ถึงต้องไปจบที่ศาลอีกตามระเบียบพะยะค่ะ
*ที่สำคัญคือ หากมองให้ลึกจะเห็นว่า “เซนทรัล” ต้องการปาดหน้าเค้กลูกค้าของ “คิง เพาเวอร์” จึงผุดโครงการดังกล่าวเพื่อดักเก็บนักท่องเที่ยวก่อนเข้าสนามบินแบบนี้ ทุกคนย่อมมองเป็นเกมช่วงชิงโอกาสทางธุรกิจที่แต่ละฝ่ายไม่มีใครยอมใคร เพราะมันหมายถึงขุมทรัพย์จำนวนมหาศาลกำลังจะหลุดมือ ส่งผลให้ศึกนี้ถึงต้องดูกันยาว ๆ เพราะในแง่กฎหมายเขาว่ากันว่า ทอท.มีอำนาจสั่งให้รื้อถอนได้นะคะ
*เม้าท์ถึงข้อกฎหมายขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ต้องหันมามองปัญหาคาราคาซังของ BEM เอาเข้าจริงก็เป็นการต่อรองผลประโยชน์ของมือที่มองไม่เห็น เพราะเมื่อไล่เรียงคอนเนกชันของหัวเรือใหญ่อย่าง เฮีย ป. ต้องบอกว่าไม่ธรรมดา แถมหลายคนในหน่วยงานภาครัฐถูกกลืนไปเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้การเจรจาไม่ได้ข้อยุติสักที! เพราะฝั่งของ เฮีย น. ไม่ยอมโอนอ่อนตามคำขอนะจะบอกให้
*ประเด็นดังกล่าวทำให้หลายคนสงสัยว่า ดีลนี้จะจบแบบไหน? เพราะก็คุยกันมาแล้วหลายรอบ แถมมีการเสนอเงื่อนไขต่าง ๆ ตั้งมากมาย แต่สุดท้ายยังไม่เห็นหนทางที่มาบรรจบกันได้นั้น “โมนิก้า” มองเป็นแค่การประวิงเวลาของเกมการเมือง ซึ่งเป็นช็อตที่เคยเห็นกันมาแล้วหลายรอบ จึงไม่ต้องแปลกใจที่เที่ยวนี้จะลากกันยาว เพราะผลประโยชน์มันไม่ใช่น้อยนะตัวเอง
*เรื่องดังกล่าวมีลักษณะคล้ายคลึงกับหุ้นร้อน TKN เพราะลำพังถูกชาวหุ้นตราหน้าอย่างหนักว่าโกยเงินเข้ากระเป๋าลูกเดียว! ก็หนักหนาสาหัสอยู่แล้ว ล่าสุดดันมาเจอช็อตแย่งซีนแฟนคลับ F4 ด้วยการเซอร์ไพรส์จัดงานวันเกิดเมียของตัวเอง ทั้งที่เวลานั้นแฟนคลับจะต้องได้ใกล้ชิดกับดารา จึงกลายเป็นหุ้นที่คนทุกวงการให้ความสนใจ (นินทา) เป็นพิเศษ “โมนิก้า” ในฐานะคนที่อยู่ตรงกลาง เลยทำได้แค่เพียงรับฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้น แล้วนำเรื่องราวดังกล่าวมาถ่ายทอดอีกทีหนึ่งนะจ๊ะ
*ไหน ๆ เม้าท์ถึงเรื่องไม่เป็นเรื่องขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” เลยถือโอกาสเม้าท์มอยเรื่องการเมืองที่อุตส่าห์ฟาดฟันกันแทบตาย สุดท้ายก็มาจูบปากกันด้วยผลประโยชน์ล้วน ๆ ซึ่งเห็นได้จากตัวอย่างที่เกิดขึ้นกับหุ้น 7UP ปรากฏชื่อของ “ศิธา ทิวารี” นั่งในตำแหน่งประธานกรรมการ ขณะที่ผู้ถือหุ้นใหญ่เบอร์ 1 มีชื่อของ “รชต พุ่มพันธุ์ม่วง” (ลูกชายของสมยศ) ปรากฏให้เห็นเด่นชัด มันหมายความว่าอะไร? แถมวานนี้บริษัทมีข่าวดีคว้างานติดตั้งงวงช้าง “สนามบินดอนเมือง” มูลค่า 362 ล้านบาท แบบนี้..คงไม่ต้องอธิบายอะไรมากหรอกนะคะ
*ทิ้งท้ายกันที่เรื่องปาหี่ของหุ้น OCEAN กันสักหน่อยดีกว่า หลังพรายกระซิบได้ข้อมูลคอนเฟิร์มจากสายตรงที่ขลุกอยู่ในสนามน้ำมันปาล์มภาคใต้ว่า ลาแมน้ำมันปาล์มไม่เจ๋งเหมือนที่โม้ แถมยังเล็กกว่าอีกหลายเจ้าที่ทำธุรกิจดังกล่าว “โมนิก้า” เลยถือโอกาสนี้เล่าสู่กันฟังอีกครั้ง หลังเพื่อนพ้องน้องพี่ที่เป็นแฟนคลับทางใต้อยากให้ช่วยกระจายข่าว (สงสัยโจทก์เยอะ) เดี๊ยนเลยอยากให้คนที่ถูกพาดพิงใช้พื้นที่ตรงนี้ แก้ตัว..อุ๊ย..แก้ข่าว เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องของทุกคนนะจะบอกให้