สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 29 ส.ค. 2562

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 29 ส.ค. 2562


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ (29 ส.ค.) หลังจากรัฐบาลจีนยืนยันว่ากำลังหารือกับสหรัฐเกี่ยวกับการจัดประชุมเพื่อเจรจาการค้าในเดือนก.ย. พร้อมประกาศเจตนารมณ์ที่จะแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐอย่างสงบ โดยข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า และยังช่วยหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มอุตสาหกรรมดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,362.25 จุด เพิ่มขึ้น 326.15 จุด หรือ +1.25% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,924.58 จุด เพิ่มขึ้น 36.64 จุด หรือ +1.27% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,973.39 จุด เพิ่มขึ้น 116.51 จุด หรือ +1.48%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (29 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากความเห็นของรัฐบาลจีนเกี่ยวกับการเจรจาการค้ากับสหรัฐ และ ตลาดหุ้นอิตาลีที่ทะยานขึ้นได้ช่วยหนุนตลาดหุ้นยุโรปโดยรวมด้วย

ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 1.04% ปิดที่ 376.74 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,449.97 จุด เพิ่มขึ้น 81.17 จุด หรือ +1.51%,  ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,838.88 จุด เพิ่มขึ้น 137.86 จุด หรือ +1.18% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,184.32 จุด เพิ่มขึ้น 69.61 จุด หรือ +0.98%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (29 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากความเห็นครั้งใหม่ของรัฐบาลจีนเกี่ยวกับการเจรจาการค้ากับสหรัฐ ขณะที่หุ้นกลุ่มส่งออกปรับตัวขึ้น หลังค่าเงินปอนด์ร่วงลงจากความวิตกเกี่ยวกับกระบวนการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)  แบบไร้ข้อตกลง

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,184.32 จุด เพิ่มขึ้น 69.61 จุด หรือ +0.98%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (29 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ลดลงอย่างมากในสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ส่งสัญญาณคืบหน้า ยังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดน้ำมัน

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 93 เซนต์ หรือ 1.7% ปิดที่ 56.71 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 13 ส.ค.

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 59 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 61.08 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (29 ส.ค.) หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐทะยานขึ้นกว่า 300 จุด ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และเข้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า เช่นหุ้น นอกจากนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์ยังส่งผลให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์ มีความน่าดึงดูดน้อยลง

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 12.20 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดที่ 1,536.90 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 13.3 เซนต์ หรือ 0.72% ปิดที่ 18.323 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 11.10 ดอลลาร์ หรือ 1.22% ปิดที่ 920.00 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 9.00 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 1,471.50 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (29 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า หลังจากรัฐบาลจีนยืนยันว่ากำลังหารือกับสหรัฐเกี่ยวกับการจัดประชุมเพื่อเจรจาการค้าในเดือนก.ย. พร้อมประกาศเจตนารมณ์ที่จะแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐอย่างสงบ

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 106.62 เยน จากระดับ 106.04 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9873 ฟรังก์ จากระดับ 0.9816 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3301 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3307 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1052 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1078 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2177 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2217 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 0.6727 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6736 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button