SINGER รุกขยายแฟรนไชส์เต็มสูบ ตั้งเป้าครอบคลุม 7 พันตำบลภายในปี 65
SINGER รุกขยายแฟรนไชส์เต็มสูบ ตั้งเป้าครอบคลุม 7 พันตำบลภายในปี 65
นายกิตติพงศ์ กนกวิไลรัตน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานปี 2563 บริษัทจะเดินหน้าขยายเครือข่ายการขายแบบเจาะลึกทุกอำเภอเข้าถึงในทุกตำบล เพื่อขยายฐานลูกค้าให้เติบโตมากขึ้น โดยตั้งเป้าขยายธุรกิจแฟรนไชส์หรือสาขาย่อยของบริษัทให้ครอบคลุม 925 อำเภอ ในปี 2563 และครบ 7,000 กว่าตำบลทั่วประเทศภายในปี 2565 จากที่ปัจจุบัน SINGER มีสาขารวมกัน 1,051 สาขา แบ่งเป็นร้านสาขาหลัก 182 สาขา ร้านแฟรนไชส์หรือสาขาย่อย 869 สาขา ครอบคลุม 763 ตำบล จาก 475 อำเภอ ใน 76 จังหวัดทั่วประเทศ
โดยสาขาแฟรนไชส์ของบริษัทฯ จะกำหนดเป็นรูปแบบต่างๆ ไว้ 3 รูปแบบคือ แบบ Standard, แบบ Premium และแบบ Partner โดยในแต่ละโมเดลจะใช้ยอดขายเป็นเกณฑ์ในการแบ่ง ซึ่งจะส่งผลต่อการจัดรูปแบบร้าน การวางสินค้า และการคิดคำนวณค่าตอบแทนการขายที่ไม่เหมือนกัน แต่สิ่งที่ทุกโมเดลได้รับเหมือนกันคือ จะไม่มีการเก็บค่าแรกเข้า ค่าธรรมเนียมรายปี ไม่ต้องลงทุนในการซื้อสินค้าไปสต๊อก ได้เป็นเจ้าของกิจการของตนเอง มีรายได้จากการขาย การสร้างทีมขาย
รวมถึงรายได้จาการบริหารบัญชีลูกค้าของตนเองแบบไร้ขีดจำกัด ทั้งนี้ยังสามารถขายสินค้าได้ทั้งในรูปแบบของระบบเงินสดและเงินผ่อน โดยบริษัทจะเป็นผู้ดูแลด้วยการนำระบบรองรับการจำหน่ายสินค้าที่ทันสมัย เรียนรู้ง่าย สามารถใช้งานได้ทันทีผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ และมีทีมงานบริหารหลังบ้าน (back office) คอยสนับสนุน อำนวยความสะดวกในทุกขั้นตอนของกระบวนการขายตลอดเวลา
“ภาพรวมของซิงเกอร์ในปีนี้ เราจะเดินหน้าขยายธุรกิจแฟรนไชส์ หรือสาขาย่อยลงไปในระดับตำบลต่อเนื่อง ปัจจุบันเรามีสาขารวมทั้งสิ้น 1,051 สาขา ในจำนวนนี้แยกเป็นแฟรนไชส์ของบริษัท 869 สาขา ครอบคลุม 763 ตำบล จาก 475 อำเภอทั่วประเทศ โดยผู้ที่สนใจจะทำธุรกิจแฟรนไชส์กับซิงเกอร์นั้นทำได้ไม่ยาก ทุกคนสามารถทำได้โดยไม่ต้องอาศัยเงินลงทุนแม้แต่บาทเดียว บริษัทไม่มีการเก็บค่าแรกเข้า และรวมถึงค่าธรรมเนียมรายปี
อีกทั้งผู้ที่ทำธุรกิจแฟรนไชส์ซิงเกอร์ไม่จำเป็นต้องลงทุนในการซื้อสินค้า หรือทำการสต๊อกสินค้าเลย ผู้ที่สนใจเพียงแจ้งความจำนงอยากทำธุรกิจแฟรนไชส์เข้ามาเท่านั้น ซิงเกอร์ก็จะจัดส่งทีมงานเข้าไปช่วยในการจัดหน้าร้าน พร้อมแนะนำระบบที่จะใช้ในการขาย รวมถึงช่วยเป็นพี่เลี้ยงสอนวิธีการขายและอธิบายรายละเอียดของสินค้าทั้งหมดให้ โมเดลแฟรนไชส์นี้ สนับสนุนให้ซิงเกอร์สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น จากการมีตัวแทนการขายเป็นคนในพื้นที่ ซึ่งมีความใกล้ชิดคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี” นายกิตติพงศ์กล่าว
พร้อมวางเป้าหมายจะขยายแฟรนไชส์ให้ครอบคลุม 925 อำเภอทั่วประเทศภายในปี 2563 และขยายให้ครบ 7,000 กว่าตำบลทั่วประเทศภายในปี 2565 การที่บริษัทหันมามุ่งเป้าหมายขยายธุรกิจซิงเกอร์แฟรนไชส์ให้เติบโตเช่นนี้นั้น นอกจากผลสัมฤทธิ์ทางธุรกิจที่บริษัทจะได้รับ เหนือสิ่งอื่นใดคือบริษัทเล็งเห็นความสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนให้สามารถมีความสุข เติบโตอยู่ได้อย่างเข้มแข็งในท้องถิ่นของตนเองโดยไม่ต้องย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่อื่น และมีรายได้ที่มั่นคงเคียงคู่ไปกับการเติบโตของ SINGER อย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ ปัจจุบัน SINGER เป็นผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้า “ซิงเกอร์” เช่น จักรเย็บผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านต่างๆ และจำหน่ายสินค้าเชิงพาณิชย์ เช่น ตู้แช่ เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการเกษตร ตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือออนไลน์ ตู้เติมน้ำมันแบบหยอดเหรียญ และเครื่องทำน้ำหวานเกล็ดหิมะ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุม และหลากหลาย นอกจากนี้ ยังดำเนินธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ เป็นธุรกิจดาวรุ่งที่จะเข้ามาเสริมการเติบโตให้ SINGER แข็งแกร่ง ทั้งในแง่ของการสร้างยอดขาย และกำไรที่ดี
สำหรับผู้สนใจอยากร่วมทำธุรกิจซิงเกอร์แฟรนไชส์ สามารถติดต่อแจ้งความจำนงได้ที่เวบไซต์ของบริษัท https://www.singerthai.co.th/sgthai2017/th/singerfranchise/ หรือส่งข้อความเข้าไปที่ FACEBOOK FANPAGE: SINGERTHAILAND หรือติดต่อโดยตรงกับพนักงานขาย ร้านสาขาของบริษัททั่วประเทศ หรือติดต่อเข้ามาที่ Call Center โทร 0-2234-7171 ได้ตลอดทุกวันในเวลาทำการ