มอเตอร์เวย์3สายขี่พายุ ทะลุฟ้า
อันที่จริงแล้ว โจทย์น้ำท่วม-น้ำแล้ง มันก็เป็นโจทย์อันเดียวกันแหละ
อันที่จริงแล้ว โจทย์น้ำท่วม-น้ำแล้ง มันก็เป็นโจทย์อันเดียวกันแหละ
กล่าวคือ หน้าน้ำ ก็มีเขื่อนมีอ่าง กักเก็บน้ำไว้ ไม่ปล่อยให้น้ำทิ้งลงทะเลไปโดยเปล่าประโยชน์ และพอหน้าแล้ง ก็ได้น้ำที่กักเก็บไว้นั่นแหละ นำมาใช้ประโยชน์ทั้งเพื่อการเกษตรและการอุปโภค บริโภค
หากทำได้จริง ก็คงไม่ต้องมาพบทางตันเช่นทุกวันนี้หรอก กับธรรมชาติที่ควบคุมไม่ได้
สำหรับประเทศไทยแล้ว แผนการลงทุนระบบบริหารจัดการน้ำขนาดใหญ่ จำเป็นต้องมีครับ
แต่พอบ้านเมืองมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นมาเป็นเวลากว่า 1 ปีแล้ว มหาโปรเจ็กต์น้ำไม่ได้รับการสานต่อ มาเจอเอาฟ้าฝนวิบัติเช่นนี้ ก็เลยอับจนอย่างที่เห็น
นั่นก็เป็นเหตุจากธรรมชาติ แต่ด้านความสามารถในการจัดการบริหารบ้านเมือง ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
สังเกตไหมครับ กระทรวงคมนาคมมีโครงการลงทุนต่างๆ มากมาย แต่ยังไม่มีโครงการใดผ่านขั้นตอนการประมูลออกมาได้สักโครงการเดียว
ยกเว้นโครงการเดียว คือ การจัดซื้อรถเมล์ขสมก .400 กว่าคัน แต่ก็ยังค้างเติ่ง เพราะมัวแต่ตรวจสอบแล้วตรวจสอบอีกอยู่นั่นแหละ
ล่าสุดนี้ก็คือ คณะรัฐมนตรีอนุมัติโครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์ 3 สาย มูลค่าลงทุนรวม 1.6 แสนล้านบาท แยกเป็นเส้นทางพัทยา-มาบตาพุด ระยะทาง 72 ก.ม. วงเงิน 20,200 ล้านบาท
เส้นทางบางใหญ่-กาญจนบุรี ระยะทาง 96 ก.ม. วงเงิน 55,620 ล้านบาท และเส้นทางบางปะอิน-นครราชสีมา ระยะทาง 196 ก.ม. วงเงิน 84,600 ล้านบาท
ดูเหมือนจะดีนะครับ ที่โครงการมีความคืบหน้าถึงขั้นผ่านครม.มาแล้ว แต่ก็ไม่รู้เป็นอะไรสิน่า ที่ความเชื่อมั่นในเรื่องความสำเร็จ ไม่สู้จะมีมากนัก
ถ้าหากยังถือกฎเหล็กอยู่ว่า การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมทั้งหลาย ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนสูง จะต้องตั้งวงเงินไว้ในงบประมาณรายจ่ายประจำปีเท่านั้น ไม่สามารถจะจัดทำในรูปแบบของกฎหมายกู้เงินได้
ก็คงจะไม่มีโครงการใดได้จัดทำเป็นผลสำเร็จหรอก
อาทิ 3 โครงการมอเตอร์เวย์เนี้ย วงเงินลงทุนสูงตั้ง 1.6 แสนล้านบาท มันจะใช้วิธีการตั้งวงเงินเอาในงบประมาณรายจ่ายประจำปีได้หรือ
นี่ยังไม่ได้นับรวมโครงการอื่นๆ เช่น รถไฟความเร็วสูงแต่ละเส้นเป็นหลายแสนล้านบาท หรือรถไฟทางคู่ทั่วประเทศ ซึ่งก็อีกหลายแสนล้านบาทเหมือนกัน
ใช้วิธีการงบประมาณโบราณแบบนี้ ก็คงจะสร้างอะไรไม่ได้สักเส้นหรอก
นอกจากนั้น การสร้างขั้นตอนตรวจสอบที่ยุ่งยากในรัฐบาลทหารชุดนี้ ก็มีส่วนทำให้กระทรวงคมนาคม ไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอันสักโครงการเดียว
นอกจากมีสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน มีป.ป.ช. เป็นหน่วยงานตรวจสอบตามปกติอยู่แล้ว ยังมีคตร.หรือคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้งบประมาณภาครัฐ ที่คสช.เป็นผู้ตั้ง เพิ่มเข้ามาอีก
ตรวจสอบเข้มกันตั้งแต่ก่อนประมูล ยันหลังประมูลแล้ว แทนที่จะเดินหน้าเตรียมตัวเซ็นสัญญา กลับยังต้องเจอหน่วยตรวจสอบเข้มยิ่งเสียกว่าก่อนประมูลอีก
ข้าราชการเนี้ย กลัวกันตัวลีบ เรื่องอะไรจะหาเหาใส่หัว เพราะมันเสี่ยงคุกเสี่ยงตะรางทั้งวันนี้และวันหน้า พอข้าราชการเกียร์ว่าง งานก็ไม่เดิน แล้วจะหาผลงานอะไรให้เป็นชิ้นเป็นอันในรัฐบาลชุดนี้
ผ่านครม.มาแล้วก็เถอะ คงจะหวังอะไรไม่ได้มากนัก