ตามน้ำไหม ?

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ตลอดทั้งสัปดาห์มีข้อมูลไหลเข้ามาหา “โมนิก้า” เยอะมากจนแทบจำไม่ได้ว่าเคยดูเรื่องนั้นไปหรือยัง! เคยอ่านข้อมูลตรงนี้ไปกี่เที่ยว! สุดท้ายก็มาจบเอาตรงที่เงินทุนไหลเข้าเต็มตัวหรือยัง? แนวต้านสำคัญทางจิตวิทยายังทำงานได้ดีไหม? หรือแม้กระทั่งตลาดหุ้นไทยตอบรับเรื่องผลประกอบการไปถึงไหนแล้ว? ทั้งหลายทั้งมวลเป็นข้อมูลที่เห็นกันจนชินตาแล้วนะคะ

*งานนี้ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรให้มากความ เพราะทั้งหมดเป็นข้อมูลที่มีผลกระทบกับตลาดหุ้นเต็ม ๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าช่วงนั้นจะมีการหยิบยกประเด็นไหนขึ้นมาปั่นกระแส “โมนิก้า” ถึงอยากให้มิตรรักแฟนเพลงเข้าใจบริบทของการลงทุนเที่ยวนี้ มันเป็นการวัดกำลังระหว่าง “แรงซื้อ” กับ “แรงขาย” โดยมีตัวแปรอยู่ที่การตั้งฐานของดัชนีมั่นคงแข็งแกร่งขนาดไหนเจ้าค่ะ

*ถามว่าตรงนี้มีอะไรที่นักลงทุนควรรู้ไหม? เดี๊ยนขอตอบตรง ๆ เลยว่า ควรเตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นตั้งแต่เนิ่น ๆ หลังมีการเปรย ๆ เกี่ยวกับความมั่นคงของแบงก์หนาหูขึ้นเรื่อย ๆ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับเริ่มหันมามองการทะยานขึ้นของหุ้นกลุ่มนี้มาจากประเด็นอะไรเป็นหลัก รวมทั้งสำรวจดูเรื่อง NPL ต่อจากนี้จะมีพัฒนาการไปในทางที่ “เพิ่มขึ้น” หรือ “ลดลง” นะจะบอกให้

*เหมือนกับในรายของ SCB กระชากขึ้นมาปิดที่ 125 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 1.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.62 พันล้านบาท “โมนิก้า” ขอเรียนตามตรงว่า จริง ๆ ทุกอย่างสวยงามขนาดนี้ไหม? เพราะเมื่อเดือนก่อนเพิ่งโดนกดหัวจนลงไปยืนแถว 115 บาท พอเห็นว่ากดหัวไม่ลงจริง ๆ ก็มีแรงซื้อไหลกลับเข้ามาเป็นจำนวนมาก จนหุ้นถึงเริ่มขึ้นรอบใหม่อีกครั้งนะตัวเอง

*อีกหนึ่งรายที่ต้องรีบวิ่งใส่อย่างรวดเร็ว และต้องยอมตัดใจขายเมื่อไม่เป็นเหมือนที่คิด “โมนิก้า” ขอโฟกัสไปที่หุ้น CPN หลังราคาหุ้นอ่อนตัวลงมาปิดที่ 68 บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 1.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 637 ล้านบาท มันเป็นช็อตที่ต้องคิดมากหน่อย เพราะรูปแบบที่ผ่านมาหุ้นแกว่งตัวในทิศทางขาลงตลอด จู่ ๆ พยายามขึ้นสุดชีวิต แต่ดันขึ้นไม่ไหวแบบนี้ ถือเป็นช็อตวัดใจนักเล่นอีกครั้งเจ้าค่ะ

*ไหน ๆ เม้าท์ถึงหุ้นที่ไม่ต้องคิดอะไรมาก “โมนิก้า” ขอให้แฟนคลับหันมามองม้าตีนปลายที่เริ่มติดเครื่องอย่างเช่น PRM เพื่อเพิ่มความตื่นเต้นเร้าใจให้กับชีวิตสักหน่อย หลังหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 8.95 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 3.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 95 ล้านบาท แถมหุ้นพยายามกระชากขึ้นเป็นระยะ มันเป็นอะไรที่เย้ายวนใจดีเหลือเกินเจ้าค่ะ

*ทำนองเดียวกับหุ้น ORI กระชากขึ้นมาปิดที่ 8.30 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 3.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 161 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตที่ขาประจำต้องกระโจนเข้าใส่กันอยู่แล้ว เพราะมีแรงซื้อนำร่องเข้ามาเยอะกว่าปกติ จนหุ้นขึ้นมาอีกครั้ง จึงเชื่อได้ว่าวันนี้น่าจะไปต่อแบบสวย ๆ ได้อีกครั้ง ส่วนจะทำสำเร็จตามเป้าหมายหรือไม่? อันนี้ขึ้นอยู่กับแรงซื้อจะหนาแน่นเพียงใด และมวลชนเห็นพ้องต้องกันขนาดไหนนะคะ

*ปิดท้ายกันที่กรณีกลุ่มไลน์หุ้น (เถื่อน) ชื่อ “คันหุ้น” ภายใต้การควบคุมของแอดมินชื่อ “เจ๊มด” ตอนนี้ดูเหมือนปากพล่อย ๆ จะพาซวยเข้าตัวซะแล้ว ที่ไปเที่ยวพล่ามว่าเจ้าของ GULF และบริษัทไปเกี่ยวพันเรื่องเบี้ยวหนี้ แถมไซฟ่อนเงินต่างหาก ล่าสุดเห็นต้องหนีหัวซุกหัวซุน หลังค้นพบแล้วว่าตัวเองลุยไฟมาเจอกับอะไรเข้า แถมงานนี้บอกเลย ไม่เพียงแต่จะหมดหนทางทำมาหากินเท่านั้น แต่อาจถูกลากคอเข้าไปดับซ่าในตะรางด้วยอย่างไรล่ะเจ้าคะ

*ถือเป็นเรื่องน่าเวทนา และคงคิดด้วยสมองกลวง ๆ ไปไม่ถึงว่างานนี้เจ้าของบริษัทเขาเอาจริง! ถึงขั้นมอบหมายให้ซีเอฟโอชื่อ “สมิทธ์ พนมยงค์” ออกมาสยบข่าวลวงที่เกิดขึ้น พร้อมกับลั่นวาจาไว้เสียงดังฟังชัด ประหนึ่งจะสื่อความไปให้สำเหนียกถึงหายนะ หรือผลกรรมที่พวกปากพล่อยไร้ราคากำลังจะได้รับ “โมนิก้า” สงสัยว่างานนี้เจ๊มดคนดีของเดี๊ยน คงถูกช้างเหยียบขยี้ บี้แบนแหลกเป็นจุณอย่างแน่แท้แล้วล่ะนะจ๊ะ…นายจ๋า

*ทันทีที่ปรากฏข่าวมือการเงินของ GULF ออกโรงชี้แจงข้อเท็จจริง “อีมด” ก็นั่งไม่ติด มือไม้สั่นรีบเขียนขอขมา “เสี่ยกลาง” สารัชถ์ รัตนาวะดี พร้อมอ้างว่าไลน์ตัวเองถูกมือดีแฮ็กเข้ามาสวมรอยจนก่อให้เกิดความเสียหาย แถมยังบอกด้วยว่ามีผู้ไม่ประสงค์ดีไปแอบอ้างเป็นตัวเอง จนปัจจุบันมีห้องไลน์ “คันหุ้น” 4-5 ห้องแล้ว…เอ้า!! ทำหางโผล่มาขนาดนี้ สงสัยต้องกราบขอรบกวนคุณพี่แป๋ว “รื่นวดี” ส่งมือดีจากก.ล.ต.เข้าตรวจสอบแล้วล่ะฮ่า…คุณพี่แป๋วฮ้า

*“โมนิก้า” ก็ทำเรื่องนี้ให้มันดูขบขันไปตามประสาสาวโสดหัวใจว้าวุ่นไปอย่างนั้นล่ะค่ะ แต่บอกตามตรงว่าจริง ๆ แล้วรู้สึกเวทนาระคนสมเพช เพราะจากการสืบสาวราวเรื่อง พบว่ากลุ่มไลน์หุ้นเถื่อนที่ว่านี้ และอีกหลายกลุ่ม หลายเพจ ปรากฏว่ามีพวกสื่อหางแถวที่อยากมีตัวตน พยายามจะ “เรียกค่าตัว” และนักวิเคราะห์ยีนด้อย ที่เอาดีทางวิชาชีพตัวเองไม่ได้ หันมาหา “เศษเนื้อข้างเขียง” เอาเป็นว่าอย่าไปให้น้ำหนัก “สื่อหางแถว-นักวิเคราะห์ยีนด้อย” ที่ทำตัวเป็น “สัมภเวสี” ที่จ้องหาเศษหาเลยกับตลาดหุ้นพวกนี้เล๊ย..!!!