JAS ร่วง 4% โบรกฯเคาะเป้าลุ้นรีบาวด์ช่วงสั้น พ่วงประเด็นบวก “ปันผลพิเศษ”
JAS ร่วง 4% โบรกฯเคาะเป้าลุ้นรีบาวด์ช่วงสั้น พ่วงประเด็นบวก “ปันผลพิเศษ”
จากกรณีวานนี้ (16 ก.ย.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เปิดเผยการดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งราย นายพิชญ์ โพธารามิก และ นายเกริกไกร ไตรบัญญัติกุล กรณีใช้ข้อมูลภายในซื้อหุ้น บริษัท จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JTS โดยเรียกให้ชำระค่าปรับทางแพ่งและส่งคืนผลประโยชน์รวม 59.10 ล้านบาท
ล่าสุดวันนี้ (17 ก.ย.) JAS เปิดเผยว่าได้รับหนังสือแจ้งการลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการของนายพิชญ์ โพธารามิก แม้จะยังไม่ได้รับทราบในรายละเอียดจาก ก.ล.ต. ในเรื่องดังกล่าวแต่เพื่อให้เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลที่ดี จึงได้ขอลาออกและให้การลาออกมีผลตั้งแต่วันที่ 17 ก.ย.2562 ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างจัดประชุมคณะกรรมการเป็นกรณีเร่งด่วนเพื่อพิจารณาเกี่ยวกับการแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งแทนนายพิชญ์ โพธารามิก
ขณะเดียวกัน บล.โนมูระ พัฒนาสิน ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (17 ก.ย.) ว่าแนะนำ NEUTRAL ต่อข่าว ก.ล.ต กล่าวโทษผู้บริหารระดับสูงของ JAS โดยมองเป็น Negative sentiment กดดันราคาหุ้น JASและกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF ในระยะสั้น เนื่องจากการกล่าวโทษ ผู้บริหารระดับสูง JAS จะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณะบริษัทแย่ลงกว่าเดิม โดยบล.โนมูระ พัฒนาสิน ประเมินราคาเป้าหมาย 6.60 บาท
ทั้งนี้มองว่าระยะสั้นราคาหุ้น JAS และ JASIF มีแนวโน้มเหวี่ยงตัวลงและผันผวน ประกอบกับถึงแม้ประเด็นดังกล่าวจะไม่กระทบปัจจัยพื้นฐาน JAS ในระยะสั้น แต่มองว่าการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการบริหารอาจส่งผลต่อการดำเนินงานธุรกิจในระยะยาว ประกอบกับภาพลักษณ์องค์กรที่แย่ลง อาจส่งผลให้ต้นทุนการเงินสูงขึ้น (JAS มีต้นทุนการเงินเฉลี่ย 5%) และมีผลต่อต้นทุนเงินทุนของกิจการในระยะยาว (WACC)
อย่างไรก็ตาม JAS ยังไม่มีการแจ้งข่าวต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ หลังผู้บริหารระดับสูงถูก ก.ล.ต.กล่าวโทษ และอยู่ระหว่างสั่งห้ามเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทฯ ทำให้ยังไม่แน่ใจต่อการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างบริหารของบริษัท ปัจจุบันคุณพิชญ์ ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าบริหารและกรรมการของ JAS ถือหุ้นสัดส่วน 56.08% (ณ 30 ส.ค.19) และ JAS ถือหุ้น 19% ใน JASIF
สำหรับโครงสร้างเงินทุน ณ ช่วง 6 เดือนแรกปี 2562 ของ JAS เงินสดราว 1,037 ล้านบาท มีหนี้สินที่มีดอกเบี้ยมูลค่ารวม 9,187 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นหนี้สินระยะสั้นสถาบันการเงิน 2,703 ล้านบาท และหนี้สินระยะยาว 4,602 ล้านบาท รวมทั้งมีอัตราหนี้สินที่มีดอกเบี้ยต่อทุน (IBD/Equity) ที่ 0.48 เท่า
โดยปัจจุบันบริษัท ทริปเปิ้ลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTTBB (JAS ถือหุ้น 99%) อยู่ระหว่างขายทรัพย์สินใยแก้วนำแสงเพิ่มเติมครั้งที่ 1 มูลค่าราว 38,000 ล้านบาท ให้กับกองทุน JASIF ซึ่งเชื่อว่าเงินที่ได้จากการขายทรัพย์สินดังกล่าว จะนำไปใช้ชำระหนี้บางส่วน รวมทั้งใช้เป็นเงินลงทุนและจ่ายเป็นเงินปันผลพิเศษให้กับผู้ถือหุ้น
ด้านแหล่งข่าวนักวิเคราะห์รายหนึ่ง เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ว่า ราคาหุ้น JAS ปรับตัวลดลงหนักในวันนี้หลังจากที่ ก.ล.ต. ได้ดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งราย นายพิชญ์ โพธารามิก กรณีใช้ข้อมูลภายในซื้อหุ้น JTS โดยแหล่งข่าวระบุว่า ราคาหุ้น JAS จะได้รับปัจจัยกดดันในระยะสั้นๆ เท่านั้น เนื่องจากเชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อด้านพื้นฐาน ด้านฐานะทางการเงิน และผลการดำเนินงานของบริษัท รวมถึงการดำเนินการของบริษัทยังเป็นไปตามแผนธุรกิจที่วางเอาไว้
โดยในด้านพื้นฐาน JAS ยังมีปัจจัยบวกในเรื่องของการจำหน่ายทรัพย์สินโครงสร้างพื้นฐานประเภทเส้นใยแก้วนำแสง (Optical Fiber Cables) จำนวนประมาณ 700,000 คอร์กิโลเมตร ให้กับกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) คิดเป็นมูลค่ารายการไม่เกิน 38,000 ล้านบาท ซึ่งจะมีการเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ผู้หุ้นที่จะจัดขึ้นในวันที่ 25 ก.ย.2562
ขณะที่ ราคาหุ้น JAS ปิดตลาดภาคเช้าวันนี้อยู่ที่ระดับ 6.25 บาท ลบ 0.30 บาท หรือ 4.58% สูงสุดที่ 6.35 บาท ต่ำสุดที่ 6.10 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 415.33 ล้านบาท