ผู้นำทำลายตัวเอง

ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง

น้ำท่วมอุบลเสียหายหนัก รัฐบาลก็สาหัสสากรรจ์ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ คนรักลุงตู่จะตาย กลายเป็นหอกทิ่มแทงโดยไม่ได้ตั้งใจ แค่โพสต์ว่าจะหอบเงิน 1 ล้าน ไปช่วยผู้ประสบภัย ในขณะที่ “รัฐบาลมัวแต่ช้อปปิ้ง” ยอดเงินบริจาคก็หลั่งไหล น่าจะใกล้ 300 ล้าน

ซึ่งสะท้อนความอัดอั้น ของคนไทยทั้งประเทศ ที่มองว่ารัฐบาลไม่ทำอะไร การช่วยเหลือดูเหมือนไร้ประสิทธิภาพ ผู้นำก็ไม่ยักใส่ใจ แม้ไปอีสานวันจันทร์ แต่วันที่น้ำท่วมหนัก กลับไปใส่หมวกกุ๊กทำใบเหลียงผัดไข่ อยู่กับ สุเทพ เทือกสุบรรณ

ในความเป็นจริง ก็คงไม่ใช่รัฐบาลไม่ช่วย แต่ปรากฏการณ์ที่คนบริจาคผ่านบิณฑ์ล้นหลาม มันสะท้อนว่ารัฐบาลสอบตกในสายตาประชาชน โดยไม่เลือกข้างเลือกฝ่ายด้วยซ้ำ เพราะอย่าลืมว่าวันที่ 24 มีนา บิณฑ์ก็เพิ่งประกาศเลือกลุงตู่ ไม่ใช่ขวัญใจเสื้อแดงเพื่อไทยแหง ๆ

รัฐบาลยังพยายามกู้หน้า จัดรายการระดมทุน ให้นายกฯ รับโทรศัพท์ เรียกบิณฑ์กลับมาช่วย ทั้งที่กำลังลงพื้นที่ อดีตพระเอกก็ยินดี อุตส่าห์แก้ต่างให้พัลวัน ไม่ได้พาดพิงรัฐบาล ไม่ได้ต้องการข้ามหน้าข้ามตา

แต่ทำไงได้ เป็นพระเอกไปแล้ว ไม่รู้ใครเป็นผู้ร้าย เห็นแต่ #ประยุทธ์อยู่ไหน ติดอันดับหนึ่งทวิตเตอร์

ว่าที่จริง นายกฯ ไม่ลงพื้นที่น้ำท่วม ไม่ใช่เรื่องใหญ่ การไปชื่นชมผู้นำม็อบปิดเมืองขัดขวางเลือกตั้งปูทางรัฐประหาร ก็สร้างความไม่พอใจให้คนข้างหนึ่งเท่านั้น แต่การที่ท่านกลับมาอยู่บ้าน ไม่ทำงานวันเสาร์อาทิตย์ ราวกับยังเป็นข้าราชการ ในขณะที่น้ำท่วมหนัก หน่วยงานในพื้นที่รับมือไม่ไหว ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ฯลฯ แล้ววันจันทร์ก็โผล่มา ระบายอารมณ์เกรี้ยวกราดใส่คนวิพากษ์วิจารณ์ บ่นชาวบ้านว่าไปที่ไหนก็มีแต่ขอเงิน (จะให้ช่วยน้ำท่วมครอบครัวละ 5,000 ทำไม่ได้ เป็นไงล่ะ บิณฑ์ให้ไปแล้ว)

นี่สิ เรื่องสำคัญ มันซ้ำเติมความรู้สึกประชาชน ที่รู้สึกอยู่แล้วว่ารัฐบาลใส่ใจน้อยเกินไป

แถมยิ่งพูดยิ่งไปกันใหญ่ พาดพิงคนแดนไกล กลับมาก็แก้ปัญหาประเทศไม่ได้ ไม่รู้มีปมอะไร เอาตัวเองไปเทียบทักษิณในช่วงนี้ ชั่ว ๆ ดี ๆ คนส่วนใหญ่ก็ยอมรับว่าทักษิณมีฝีมือในการบริหารสถานการณ์วิกฤติ ท่านยังบอกอีกว่า รัฐมนตรีห่วยอย่ามาโทษนายกฯ อ้าว แล้วใครตั้งรัฐมนตรี ขู่อีกว่า ตัวเองไม่อยู่แล้วใครจะอยู่ “จะเอาผมแบบนี้หรือจะเอาผมแบบก่อน” อ้าว จะรัฐประหารหรือไง

ยิ่งพูดยิ่งทำลายตัวเอง ล่าสุดยังแขวะฝ่ายค้าน ลงไปเยี่ยมชาวบ้านก็เท่านั้น งบอยู่กับรัฐบาล

งบอยู่แต่ไม่ได้ใช้ เอาแค่เงินกองทุนช่วยผู้ประสบภัย ก็มีอยู่แล้ว 790 ล้าน บริจาคเข้าไป กว่าจะเบิกได้ก็ติดระเบียบราชการ แบบที่คนเซ็งกันก่อนหน้านี้ ว่าบริจาคให้จังหวัดอุบล ก็ต้องส่งเข้าสำนักนายกฯ แล้วเบิกได้ตามจำเป็น นั่นเป็นเหตุหนึ่งที่คนไม่อยากบริจาค เทให้บิณฑ์มากกว่า

ถ้าลำดับกันจริง ๆ น้ำท่วมครั้งนี้ เสียงสะท้อนจากพื้นที่ คือการบริหารสถานการณ์ ยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ เอาแค่ข้อมูลข่าวสาร ประชาชนก็ต้องพึ่งเพจ “วารินชำราบบ้านเฮา” ไม่ใช่พึ่งราชการ

งบประมาณ ก็ต้องเบิกจ่ายตามระเบียบ ตาม พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง ที่เพิ่งออกปี 2560 ป.ป.ช.ก็เพิ่งสำทับ จะจับตางบภัยแล้งน้ำท่วม ที่มหาดไทยเร่งใช้ก่อนสิ้นกันยา ไม่รู้ใครผิดใครถูก แต่ข้าราชการก็ผวา

แต่หนักที่สุด คือท่าทีผู้นำ การใช้ปากไม่สร้างสรรค์ แทนที่จะอดทนอดกลั้นทำงานแข็งขัน นี่มันสะท้อนหรือเปล่า ว่าไม่ต้องเกรงใจ ไม่ต้องแยแสประชาชน ยังไงก็อยู่ได้