AWC เปิดขาย IPO วันแรกโชว์กองทุนใน-นอกประเทศจองซื้อกว่า 50% ลุยเทรด SET 10 ต.ค.นี้
AWC เปิดขาย IPO วันแรกโชว์กองทุนใน-นอกประเทศจองซื้อกว่า 50% ลุยเทรด SET 10 ต.ค.นี้
นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC เปิดเผยว่า บริษัทจะเปิดจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 8,000 ล้านหุ้น ในราคา 6 บาทต่อหุ้น ระหว่างวันที่ 25-27 ก.ย. 2562 และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. (SET) กลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร หมวดธุรกิจพลังงาน และสาธารณูปโภค ในวันที่ 10 ต.ค. 2562
โดยหุ้นไอพีโอจำนวนไม่เกิน 8,000 ล้านหุ้น แบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 6,957 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นไม่เกิน 22.47% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท ภายหลังจากการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ (ไม่รวมการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน) และอาจมีการจัดสรรหุ้นส่วนเกินจำนวนไม่เกิน 1,043 ล้านหุ้น (Greenshoe)
ทั้งนี้ บริษัทได้ลงนามในสัญญาแต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง จำกัด (มหาชน), บล.กสิกรไทย จำกัด (มหาชน), บล.ภัทร จำกัด (มหาชน) และ บล.ไทยพาณิชย์ จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นไอพีโอ และบริษัทได้แต่งตั้งผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายอีก 8 บริษัท
ได้แก่ บล.กรุงศรี จำกัด (มหาชน), บล.เคที ซีมิโก้ จำกัด, บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บล.ธนชาต จำกัด (มหาชน), บล.ทิสโก้ จำกัด, บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด, บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด และ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
นางวัลลภา กล่าวต่อว่า มีนักลงทุนสถาบันชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศประเภท Cornerstone Investor จำนวน 13 ราย ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บัวหลวง จำกัด บลจ.เอ็มเอฟซี, บลจ.กสิกรไทย, บลจ.ไทยพาณิชย์, บลจ.ทิสโก้, บลจ.กรุงไทย, บลจ.วรรณ, บลจ.ธนชาต, บลจ.อเบอร์ดีน สแตนดาร์ด (ประเทศไทย), บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน), GIC Private Limited Maitri Asset Management และ Affin Hwang Asset Management Berhad ได้ตกลงจองซื้อหุ้นไอพีโอ จำนวน 3,454,000,000 หุ้น หรือประมาณ 50% ของจำนวนหุ้นที่เสนอขายในครั้งนี้ (ไม่รวมการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน) ที่ราคา 6 บาทต่อหุ้น
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทมีวัตถุประสงค์เพื่อต่อยอดความสำเร็จในการผลักดันธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำที่มุ่งตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบครบวงจรในประเทศไทย ในกลุ่มโรงแรมและการบริการ รวมถึงกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ และใช้เป็นเงินทุนในการเข้าซื้อกิจการ (M&A) ที่เป็นเจ้าของทรัพย์สินตามสัญญาซื้อขายหุ้นปี 2562 ซึ่งจะเป็นโครงการใหม่ ๆ เข้ามาเสริมในพอร์ตฟอลิโอ
นอกจากนี้ จะนำไปลงทุนพัฒนาและปรับปรุงทรัพย์สินของบริษัทหรือบริษัทย่อย เพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงยั่งยืนให้กับบริษัทและผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น โดยส่วนใหญ่บริษัทเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดิน (Freehold) ถึง 90% เพื่อก้าวสู่การเป็นแบรนด์อสังหาริมทรัพย์ ชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย อีกทั้งจะนำเงินบางส่วนไปใช้ในการชำระคืนเงินกู้ยืม และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน