SET ลุ้นฟื้นตัวทดสอบแนว 1,490 จุดคัด 15 หุ้น Outperform ตลาด-เก็งงบสวย

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ ภาพรวมยังแกว่งตัวในกรอบแคบ แต่มีโอกาสฟื้นตัวสู่แนว 1,490 จุด ด้วยประเด็นกรีซคลี่คลายไปบางส่วน ขณะที่ยังต้องจับตาประเด็นเฟดเตรียมขึ้นดอกเบี้ยช่วงครึ่งหลังปี 58 รวมถึงผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนประจำไตรมาส 2/58


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.17 น. ค่าเงินบาทล่าสุดอยู่ที่ 34.29 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ เพราะได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ ภาพรวมยังแกว่งตัวในกรอบแคบ แต่มีโอกาสฟื้นตัวสู่แนว 1,490 จุด ด้วยประเด็นกรีซคลี่คลายไปบางส่วน ขณะที่ยังต้องจับตาประเด็นเฟดเตรียมขึ้นดอกเบี้ยช่วงครึ่งหลังปี 58 รวมถึงผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนประจำไตรมาส 2/58

สำหรับหุ้นเด่นวันนี้ ได้แก่  ADVANC, KBANK, BCP, IRPC, SCC, TTA, PSL, ITD, CK, STEC, SEAFCO, TMB, CENTEL, THCOM และ IRPC

 

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุในบทวิเคราะห์( 20 ก.ค.) คงน้ำหนักการลงทุนวันนี้เป็น “กลาง” วันที่ 11 พร้อมให้น้ำหนักกับ SET INDEX ที่จะฟื้นตัวสู่แนว 1,490 จุด +/- ผลักดันด้วย KBANK และหุ้นหลักในกลุ่มธนาคาร หลัง KBANK รายงานกำไรสุทธิ 2Q58 ออกมาดีกว่าคาด ทำให้สิ่งที่นักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศกังวลต่อแนวโน้มผลการดำเนินงานในกลุ่มธนาคารคลายตัว ประเมินว่า Downside risk ของ SET INDEX ในช่วงสั้นนี้จำกัดมากยิ่งขึ้น อีกทั้งในสัปดาห์นี้ SCC จะมีการรายงานงบ 2Q58 เราเชื่อว่าจะออกมาเท่ากับหรือดีกว่าคาด จากธุรกิจปิโตรเคมีที่เด่น และได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลง

ขณะที่สถานการณ์ต่างประเทศ เป็นกลาง ไม่มีความโดดเด่นในสัปดาห์นี้ กรีซจะสามารถชำระหนี้ของ ECB ที่ครบกำหนดในวันนี้ 3.5 พันล้านยูโร จากการนำเงินกู้ Bridging Loans ที่รมว.คลัง อียู อนุมัติให้กรีซ 7.0 พันล้านยูโรในปลายสัปดาห์ก่อน มาชำระหนี้

ดังนั้นในช่วงสั้นนี้ กลับมาให้น้ำหนักกับการทยอยประกาศงบ 2Q58 ของหุ้นหลักในกลุ่มธนาคารส่วนที่เหลืออย่าง SCB / BBL / KTB รวมถึงหุ้นหลักที่ไม่ใช่ธนาคาร กลยุทธ์การเลือกเก็งกำไรเป็นรายตัวจะกลับมาโดดเด่นมากขึ้นอีกครั้ง

กลยุทธ์การลงทุนแนะนำ “นักลงทุนที่ทยอยสะสมหุ้นเป้าหมายไว้ก่อนหน้านี้ อาจพิจารณาขายทำกำไรบริเวณ 1,490-1,500 จุด” หรือ ปรับเข้าหุ้นที่ราคาขยับขึ้นมาช้ากว่าภาพรวมของกลุ่มอุตฯ

Accumulative Buy: ADVANC

Speculative Buy: KBANK

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (20 ก.ค.) ว่า SET มีแนวโน้มเคลื่อนไหว Sideways กรอบ 1,470-1,484/1,492 จุด โดยกลุ่มสื่อสารอย่าง INTUCH ADVANC คาดว่าจะ Outperform ตลาดต่อเนื่อง จาก 1) ปันผลกลางปีสูง 2.5-2.7% 2) ได้รับผลดีจากการประมูล 4G ในเดือน พ.ย.นี้มากที่สุด และ 3) ราคาหุ้น INTUCH ยังต่ำกว่า NAV ที่ 99.5 บาท

แนะนำ “Selective” กลุ่มรับเหมาฯ ที่ได้รับผลดีจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่เร่งตัวขึ้นต่อไป โดยเฉพาะ CK STEC SEAFCO ขณะที่ AOT อาจอ่อนแอกว่าตลาดระยะสั้น หลัง FAA เห็นพ้องกับ ICAO กรณี SSC (กระทบพื้นฐานจำกัด แต่ Sentiment มีแนวโน้มอ่อนแอลง) ส่วนกลุ่มธนาคารมีจังหวะ “เก็งกำไร” KBANK TMB หลังกำไร 2Q15 ออกมาใกล้เคียงคาด

 

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (20 ก.ค.) ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ขึ้นในกรอบจำกัด

คาดดัชนีวันนี้บวกไม่แรง ภาพรวมแกว่งต่อ มองว่าปัจจัยเรื่องกรีซที่คลี่คลาย อาจถูกหักล้างไปบางส่วน โดยมุมมองต่อดอกเบี้ยสหรัฐที่น่าจะปรับขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 58 โดยดัชนีเงินดอล่าร์ที่แข็งค่าสุดรอบเกือบ 3 เดือน จะกดดันให้เงินบาทอ่อนต่อและส่งผลให้ทนต่างชาติยังไม่กลับเข้าตลาดหุ้นไทย สำหรับผลกำไตรมาส 2/58 ของกลุ่มธนาคารที่ออกมาแล้วบางส่วนนั้น ตัวเลขอยู่ในเกณฑ์ดีกว่าคาด แต่ยังมีความกังวลต่อคุณภาพของสินทรัพย์อยู่

หุ้นเด่นวันนี้ เก็งกำไร SCC กลุ่มเดินเรือ TTA-PSL

 

บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (20 ก.ค.) กลับมาให้น้ำหนักกับตลาดหุ้นไทย ทั้งปัญหาภัยแล้ง และความเสี่ยงต่อการปรับลดประมาณการกำไรตลาด จึงยังเลือกรายหุ้นที่ภูมิคุ้มกันสูงจากเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว โดยยังเลือก THCOM (FV@B51) และเลือก IRPC([email protected]) เป็น Top pick

 

บล.ไอร่า ระบุในบทวิเคราะห์ (20 ก.ค.) ทิศทางตลาด Sideway? คาดยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยให้น้ำหนักปัจจัยในประเทศ จากการทยอยประกาศผลการดำเนินงาน ซึ่งเริ่มจากกลุ่มธนาคาร ที่คาดส่วนใหญ่อยู่ในความคาดหมายของตลาด จากความกังวลประเด็นหนี้ NPL’s อย่างไรก็ตามคาดราคาหุ้นสะท้อนปัจจัยดังกล่าวไปบ้างแล้ว ทำให้คาดมีโอกาสที่จะมีแรงซื้อกลับเข้ามาในกลุ่มธนาคารหลังประกาศงบการเงิน

ส่วนทางด้าน Fund Flow ภาพรวมยังมีความผันผวน แรงซื้อ / ขายสุทธิของต่างชาติสลับกัน แต่มูลค่าไม่มาก ขณะที่แนะจับตาการปรับลดคาดการณ์ GDP ของหลายๆ หน่วยงานอีกครั้ง หลังมีความกังวลการเติบโตในช่วงที่เหลือ และได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง พร้อมกับการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของรัฐบาล โดยเน้นกลุ่มที่มีรายได้น้อย เพื่อเพิ่มกำลังซื้อภายในประเทศ (C) นอกจากการลงทุนผ่านโครงการต่างๆ ของภาครัฐ (G)

ประเด็นต่างประเทศ คาด (-) จากความเป็นไปได้ที่เฟดจะพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย (เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 10 ปี) ภายในปีนี้ หลังประธานเฟดส่งสัญญาณค่อนข้างชัดเจน

และยังแนะติดตาม (1) หุ้นกลุ่มโรงกลั่น เช่น IRPC และ BCP ตามการเคลื่อนไหวของค่าการกลั่น ล่าสุดเคลื่อนไหวบริเวณ 5 – 6 USD/bll ลดลงจากช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 8 – 9 USD/bll ยังไม่เหมาะในการเก็งกำไรระยะสั้น แต่เรามองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมหุ้นในช่วงที่ราคาอ่อนตัวสำหรับการลงทุนในระยะยาวกลาง – ยาว (2) กลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่คาดยังคงได้รับประโยชน์จากโครงการภาครัฐ เช่น CK, ITD, SEAFCO และ UNIQ (3) ค่าเงินบาท ล่าสุดมีทิศทางอ่อนค่า โดยเคลื่อนไหวบริเวณ 34.22 – 34.25 คาดส่งผลดีต่อกลุ่มส่งออก และหุ้นในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เช่น DELTA, KCE, SMT (4) กลุ่มวัสดุก่อสร้างที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐ เช่น SCC และ TASCO, VNG เป็นต้น (5) กลุ่มท่องเที่ยวยังคงได้รับประโยชน์จากนักท่องเที่ยวที่ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หุ้นที่ได้รับผลดี เช่น CENTEL และ (6) กลุ่มเดินเรือ เช่น TTA และ PSL จาก Baltic Dry Index – BADI ที่เพิ่มต่อเนื่องจาก 788 เมื่อต้นเดือนกค. อยู่ที่ 1,048 (ล่าสุดเช้านี้) รวมถึงกลุ่มพลังงานที่ได้รับปัจจัยลบจากราคาน้ำมันที่ยังมีทิศทางลดลง

หุ้นแนะนำ : ITD

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (20 ก.ค.)  ตลาดหุ้นไทยสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาปิด -0.13 % ปริมาณการซื้อขายชะลอตัวอยู่ที่ 2.7 หมื่น ลบ.  โดยทิศทางการลงทุนของต่างชาติยังเป็นลักษณะการเฮดจิ้งพอร์ต  โดยผลประกอบการ Q2/58 KBANK  มีกำไรสุทธิ 11,478 ลบ. ดีกว่าประมาณการณ์ของตลาด ขณะที่ TMB รายงานกำไรสุทธิ Q2/58 +39 % (QoQ) , -12 %(YoY)

ดังนั้นคาดทิศทางกำไรกลุ่มธนาคารยังชะลอตัวแต่อาจจะน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้  กลยุทธ์การลงทุน  แนะนำ Trading ระยะสั้นตามกรอบ 1,460 – 1,490 จุด  ระยะสั้นแนะนำ  BCP , IRPC  เนื่องจากค่าการกลั่นใน Q2/58 ที่ผ่านมาแม้จะชะลอตัวแต่ยังอยู่ในระดับสูง และคาดจะมีกำไรจาก Stock Gain

 

Back to top button