JKN หวนส่ง 3 รายการ CNBC ป้อนช่องใหญ่ไตรมาสนี้ ลั่นรายได้ปี 62 ตามเป้า 20%

นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า บริษัทยังคงเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับทางช่อง GMM25 โดยได้มีการปรับรูปแบบรายการให้เข้ากับกลุ่มผู้ชมมากขึ้น ซึ่งขณะนี้มีรายการเจาะข่าวเช้านี้ วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 06.00-07.00 น. และรายการข่าวต่างประเทศ ออกอากาศวันจันทร์-ศุกร์ ในช่วงบ่าย เวลา 13.15 น. และช่วงเย็นเวลา 17.15 น. โดยได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากกลุ่มผู้ชมข่าวทางช่อง GMM25 เพิ่มขึ้น น่าจะส่งผลให้เรตติ้งเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

สำหรับแผนดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4/2562 สำนักงานข่าว JKN-CNBC ยังได้ผลิตรายการจากลิขสิทธิ์ CNBC เพื่อออกอากาศทางสถานีทีวีดิจิทัลเพิ่มเติมอีกหลายรายการ โดยทางสถานีโทรทัศน์ TNN ช่อง 16 อีก 2 รายการ ได้แก่ รายการ The CNBC Conversation เป็นรายการยอดนิยมของช่อง CNBC ที่จะจับเข่าคุยกับผู้นำนโยบายและทิศทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทั้งระดับจุลภาค และมหภาค ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 20.30-21.30 น. ดำเนินรายการโดยนายสุทธิชัย หยุ่น และรายการ Managing Thailand เป็นรายการพูดคุยเรื่องราวของสุดยอดนักธุรกิจชั้นนำของประเทศ แชร์วิสัยทัศน์การทำงานที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งเทปแรกจะออกอากาศในเดือน พ.ย.นี้

รวมถึงรายการ JKN-CNBC Around The World ออกอากาศทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 05.30-06.00 น. และรีรันเวลา 23.30-24.00 น. ทางอมรินทร์ทีวี 34 ดำเนินรายการโดยนางสาวสโรชา พรอุดมศักดิ์ เป็นรายการสรุปข่าวเด่นในรอบสัปดาห์ เกี่ยวกับการเงิน การลงทุน ทั้งในและต่างประเทศ, รายการ HALFTIME REPORT ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 11.30-12.00 น. ทางช่อง 5 ดำเนินรายการโดยนางสาววรินท์มาศ ปัญญาดี หรือกีตาร์ เป็นรายการที่ติดตามภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้น และยังมีรายการทางช่องทรูโฟร์ยู (True4U)

ด้านรายการจาก CNBC Thailand ทั้ง 3 รายการ ประกอบด้วย รายการ Squawk Box, Power Lunch และ Street Signs ที่ JKN ได้รับลิขสิทธิ์จาก CNBC ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นผู้ผลิตคอนเทนต์รายการข่าวเศรษฐกิจ เป็นระยะเวลา 10 ปีนั้น ยังใช้สตูดิโอเดิมที่มูลค่าลงทุนรวมประมาณ 50 ล้านบาทในการดำเนินรายการ ภายใต้ทีมงานข่าวที่มุ่งมั่นผลิตรายการที่มีคุณภาพ เพื่อสร้างฐานกลุ่มผู้ชมข่าวสารและสร้างเรตติ้งให้แก่สถานี

สำหรับ CNBC คาดว่าจะถึงจุดคุ้มทุน (Break Even) ภายในระยะเวลา 1 ปีครึ่ง ซึ่งรายการทั้งหมดกำลังจะไปออกอากาศทางช่องดิจิทัลยักษ์ใหญ่ที่มีความเหมาะสมมากกว่า โดยจะมีการเปิดตัวในช่วงไตรมาส 4/2562 คาดว่าจะส่งผลให้ปีนี้มีรายการใน 7 ช่องทีวีดิจิทัล จากปัจจุบันที่มี 5 ช่อง ขณะที่สัดส่วนรายได้จาก CNBC คิดเป็นประมาณ 3% ของรายได้รวม ส่วนรายได้หลักจะมาจากการขายคอนเทนต์ประมาณ 97%

ส่วนราคาหุ้น JKN ที่ทยอยปรับตัวลดลงตั้งแต่ในช่วงปลายเดือนก.ย.ที่ผ่านมา น่าจะมาจาก 2 ปัจจัย ประกอบด้วย 1.ปัจจัยจากต่างประเทศที่รอดูความชัดเจนของการลงทุนในประเทศไทย และ 2.อุตสาหกรรมมีเดีย ที่ถูกจับตา ซึ่งควรจะศึกษาข้อมูลเป็นรายบริษัท โดย JKN เป็นผู้นำการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับสากล ซึ่งการขายคอนเทนต์มีการเติบโตมากกว่า โดยเฉพาะในตลาดต่างประเทศ อย่างในประเทศฟิลิปปินส์และประเทศอินโดนีเซีย ดังนั้น แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4/2562 น่าจะมีการเติบโตที่ดีต่อเนื่อง และน่าจะส่งผลให้ทั้งปี 2562 มีรายได้เติบโตประมาณ 15-20% จากปีก่อน ได้ตามเป้าหมาย