ไฮสปีดเทรน ยาขมบอร์ดร.ฟ.ท.
คิดเป็นอื่นไปไม่ได้..! กรณีบอร์ดการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ลาออกยกชุด เกี่ยวโยงกับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ที่เดิมขีดเส้นตายให้กลุ่มซีพีและพันธมิตรต้องมาเซ็นสัญญาภายในวันที่ 15 ต.ค.นี้...
สำนักข่าวรัชดา
คิดเป็นอื่นไปไม่ได้..! กรณีบอร์ดการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ลาออกยกชุด เกี่ยวโยงกับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ที่เดิมขีดเส้นตายให้กลุ่มซีพีและพันธมิตรต้องมาเซ็นสัญญาภายในวันที่ 15 ต.ค.นี้…
มีความเป็นไปได้หลายประการ…
1) ถูกล้วงลูกจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมหรือไม่ ?
เนื่องจากมีการประชุมแค่คณะกรรมการคัดเลือกการประมูล แล้วรายงานตรงไปยังรัฐมนตรีเลย ที่ผ่านมา ไม่มีข้อมูลชี้ชัดว่า ผ่านบอร์ดร.ฟ.ท.แต่อย่างใด
2) เงื่อนไขเรื่องการส่งมอบพื้นที่…ที่เอกชนต้องการให้ส่งมอบพื้นที่ให้ได้ทั้ง 100% ก่อนลงนามสัญญาและเริ่มการดำเนินโครงการ ที่มีกำหนดให้ก่อสร้างแล้วเสร็จภายใน 5 ปี ฟากรัฐแย้งว่า เรื่องดังกล่าวมีกำหนดไว้ในกรอบทีโออาร์ ซึ่งเอกชนก็รับรู้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว
อาจเป็นเหตุผลหลักที่ยังเคลียร์ไม่ชัด หากเซ็นไปแล้วอาจเกิดข้อผิดพลาด นำไปสู่การฟ้องร้องของเอกชนในอนาคตได้
และ 3) เกิดอาการเกรงอกเกรงใจกลุ่มผู้ชนะประมูลหรือไม่ ??
หลังจาก “เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์” ออกมาระบุชัดว่า “ภาครัฐควรมีส่วนในการรับผิดชอบร่วมกับเอกชน ถ้าจะเสี่ยงก็ต้องเสี่ยงด้วยกัน ไม่ใช่ให้เอกชนแบกรับอยู่ฝ่ายเดียว”
ซึ่งไม่บ่อยนักที่จะเห็น “เจ้าสัวธนินท์” ออกมาพูดถึงธุรกิจอย่างตรงไปตรงมาเช่นนี้…
ด้วยเหตุผลหลากหลายประการ ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าเกี่ยวข้องกับไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบิน..!
จะว่าไป ไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบิน ซึ่งมีมูลค่าการลงทุนสูงถึง 2.24 แสนล้านบาท เป็นโครงการที่รัฐบาลยุคคสช. มาสู่รัฐบาลพรรคพลังประชารัฐ หวังเป็นเรือธง ควบคู่ไปกับโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี
แต่หลังจากได้ผู้ชนะการประมูลมาเกือบ 1 ปีแล้ว ก็ยังไม่สามารถปิดดีลได้..!
กลายเป็นข้อกังขาว่า เกิดอะไรขึ้นกับโครงการนี้ ? มีการเล่นแร่แปรธาตุกันหรือไม่ ?
ว่ากันว่า จุดไคลแม็กซ์ของการลงทุนไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบิน จะต้องได้โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออกควบคู่ไปด้วย ถึงจะคุ้มค่ากับการลงทุน..!
ซึ่งก่อนหน้านี้กลุ่มซีพีฯ หมายมั่นปั้นมือว่าจะเป็นผู้ชนะทั้ง 2 โครงการ…
แต่กลุ่มซีพีฯ กลับวืดชิงการประมูลสนามบินอู่ตะเภา (ตกม้าตายเพราะส่งเอกสารไม่ทันภายในระยะเวลาที่กำหนด) และส่อเค้าว่ากลุ่มบีทีเอส (คู่แข่งตลอดกาล) จะคว้าชัยโครงการนี้ไป
ทำให้ชัยชนะของกลุ่มซีพีฯ จากไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบิน กลายเป็น “ได้ไม่คุ้มเสีย”…
จึงเกิดอาการงอแง…ไม่ยอมจรดปากกาเซ็นสัญญาซะที
เดือดร้อนถึง “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับกระทรวงคมนาคม ต้องออกมาขีดเส้นให้กลุ่มซีพีฯ เซ็นสัญญากับร.ฟ.ท. ภายในวันที่ 15 ต.ค.62
กระทั้งล่าสุดบอร์ดร.ฟ.ท. พร้อมใจกันลาออกยกชุด…
แต่งานนี้รอช้าไม่ได้ แว่วมาว่าได้รายชื่อบอร์ดชุดใหม่เรียบร้อยแล้ว เตรียมเสนอครม. วันที่ 15 ต.ค.นี้ หากได้รับความเห็นชอบ บอร์ดชุดใหม่ก็สามารถทำหน้าที่ได้ทันที
ปมร้อนที่รออยู่ก็หนีไม่พ้นการอนุมัติเซ็นสัญญาไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบิน ที่เลื่อนจาก 15 ต.ค.มาเป็น 25 ต.ค.นี้
จึงน่าจับตาว่าใครจะอาจหาญมานั่งบอร์ด ร.ฟ.ท.ชุดใหม่ เพื่อเป็น “หนังหน้าไฟ” ให้กับกรณีนี้…
…อิ อิ อิ…