‘ธีรยุทธ’ ยังมีใครฟัง

46 ปี 14 ตุลา ธีรยุทธ บุญมี ฟิตกลับมาเป็น Master Mind เตือนรัฐบาลเป็นกลาง ไม่ใช้การปลุกความเกลียดชังทำลายฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เตือนทหารอย่าเอาค่านิยมของตนเองเรื่องความจงรักภักดีมาเป็นปัญหาหลักของประเทศ ทั้งที่คนไม่ชื่นชมสถาบันมีเพียงส่วนน้อย ไม่มีพลัง ไม่จำเป็นที่นายกฯ และ ผบ.ทบ.ต้องออกมาพูดให้ประชาชนตกใจ


ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง

46 ปี 14 ตุลา ธีรยุทธ บุญมี ฟิตกลับมาเป็น Master Mind เตือนรัฐบาลเป็นกลาง ไม่ใช้การปลุกความเกลียดชังทำลายฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เตือนทหารอย่าเอาค่านิยมของตนเองเรื่องความจงรักภักดีมาเป็นปัญหาหลักของประเทศ ทั้งที่คนไม่ชื่นชมสถาบันมีเพียงส่วนน้อย ไม่มีพลัง ไม่จำเป็นที่นายกฯ และ ผบ.ทบ.ต้องออกมาพูดให้ประชาชนตกใจ

เข้าใจตรงกันนะ ธีรยุทธชอบประดิษฐ์คำใหม่ ๆ ให้สื่อพาดหัวข่าว เช่นครั้งนี้ก็ใช้ “การเมือง” กับ “ความเมือง” ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องใหม่ ก็คือความขัดแย้งที่เป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตย กับการปลุกความเกลียดชัง เพื่อทำลายล้างฝ่ายตรงข้าม

ซึ่งฝ่ายพันธมิตรนกหวีดใช้มาตลอด ตั้งแต่ใครเอาเลือกตั้ง ใครไม่เอารัฐประหาร=พวกทักษิณ แต่ธีรยุทธกลับพูดเสียใหม่ ให้ดูผิดทั้งสองฝ่าย พร้อมตีปี๊บว่าเป็นอันตรายต่อประเทศไทย

เพียงแต่เอาละ ก็รู้กันว่า 13 ปีธีรยุทธอยู่ฝ่ายไหน ถึงขั้นหนุนให้ “ปฏิวัติประชาชน” ตอนม็อบปิดเมือง ครั้งนี้ก็ยังโอดครวญว่าพันธมิตรและ กปปส.ต้องการปฏิรูปการเมือง แต่กลับล้มเหลว เพราะระบบราชการและกองทัพไม่สามารถทำการปฏิรูปใด ๆ ได้

ที่น่าสนใจคือแม้จะยังกั๊ก ๆ โดยไม่ต้องใส่เสื้อกั๊ก ก็เห็นชัดว่าครั้งนี้ ธีรยุทธเจตนาเบรกรัฐบาลและกองทัพเป็นหลัก แม้วิพากษ์ “ประชาชน พรรคการเมือง ทหารไทย ติดกับดัก ก่อวิกฤติใหม่ประเทศไทย” (ไม่มีใครดีสักคน) แต่เนื้อหาหลัก “การที่ความขัดแย้งขยายตัวมาตลอด บ่งชี้ว่ารัฐบาลกับทหารจัดการกับวิกฤตการณ์ผิดพลาด มองปัญหาใจกลางผิด” บวกกับ Timing ก็ชัดเจนว่าต้องการติติง ผบ.ทบ. ที่ออกมาแสดงความคิดสุดกู่ กระทั่งขึ้นอันดับหนึ่งทวีตภพ

รัฐบาลต้องวางตัวเป็นกลาง ทหารอย่ามองปัญหาใจกลางผิด ศาลต้องถอยจาก “ตุลาการภิวัตน์” (ใครนะประดิษฐ์คำนี้เพื่อยุให้อำนาจตุลาการมาช่วยไล่ทักษิณเมื่อปี 49) แล้วก็เบรกการปลุกความรุนแรงใส่ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และพรรคอนาคตใหม่ “ฮ่องเต้ซินโดรม” ว่าไม่ต่างจาก 6 ตุลา “ฆ่าคอมมิวนิสต์ไม่บาป”

เหล่านี้ชัดเจนว่าธีรยุทธต้องการเตือนรัฐบาลและฝ่ายทหารนั่นแหละ

แต่คำถามคือ ธีรยุทธพูด ยังมีใครฟัง กับฝั่งประชาธิปไตย อันดับแรก ธีรยุทธก็ไม่มีเครดิตเหลืออยู่แล้ว อันดับถัดมา ธีรยุทธก็เจตนาพูดเตือนรัฐบาลกับทหารไม่ใช่หรือ พรรคการเมือง นักวิชาการ ไม่มีอำนาจอะไร เป็นได้แค่ฝ่ายถูกกระทำ อันดับสาม หลายคนยิ่งฟังธีรยุทธก็ยิ่งโกรธ หาว่าทั้งสองฝ่ายปลุกความเกลียดชังเป็นอันตรายไม่ต่างกัน การเกลียดรัฐประหารสืบทอดอำนาจ คือเกลียดอำนาจไม่ชอบธรรม ถ้ากลับสู่ประชาธิปไตยก็ใช่ว่าจะสามารถใช้ความรุนแรงทำลายฝ่ายตรงข้าม

กับฝั่งรัฐบาล ทหาร ดูทัศนะ ผบ.ทบ.ที่พรั่งพรูออกมา อย่าว่าแต่คนไทย นักลงทุนต่างชาติยังสะดุ้ง นี่ท่านอยู่ยุคไหน คิดว่าตัวเองอยู่ในสงครามกลางเมือง ต้องรบราฆ่าฟันพวกทำลายชาติทำลายสถาบันให้หมดสิ้นไป ความคิดอย่างนี้ไม่มีทางเยียวยาได้ มีแต่ทำลายตัวเองเหมือน รสช.

กับมวลชนที่ฝังหัว แม้เคยเป็นพันธมิตร กปปส. ตอนนี้ก็เชื่อ “สื่อดาวสยาม” มากกว่า (ธีรยุทธนี่ใครนะ อ๋อ พวกคอมมิวนิสต์ออกจากป่า Master Mind) พวกที่คิดปฏิรูปการเมืองอย่างธีรยุทธหวัง ไม่รู้มีเท่าไหร่

ธีรยุทธเตือนใครไม่ได้หรอก เพียงช่วยทำให้เห็นภาพว่า ความรุนแรงและความเสียหายจากวิกฤติใหม่ที่กำลังเกิดนี้ ขนาดธีรยุทธยังรีบออกตัว (เตือนแล้วนะ ไม่ได้เข้าข้างรัฐบาลไม่ได้เข้าข้างทหารแล้วนะ)

ขี่ยานเวลาย้อนไปเตือนตัวเองหน่อยก็ดี

Back to top button