ตลาดหุ้นเอเชียเขียวสลับแดง วิตกเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังยอดค้าปลีกหดตัวรอบ 7 เดือน
ตลาดหุ้นเอเชียเขียวสลับแดง วิตกเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังยอดค้าปลีกหดตัวรอบ 7 เดือน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบเช้านี้ โดยได้รับแรงกดดันจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดลบเมื่อคืน หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนก.ย.หดตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ นอกจากนี้ สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีนในประเด็นฮ่องกง ยังสร้างแรงกดดันต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาด
โดยดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 22,451.15 จุด ลดลง 21.77 จุด, -0.10%
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,979.99 จุด เพิ่มขึ้น 1.28 จุด, +0.04%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 26,809.04 จุด เพิ่มขึ้น 144.76 จุด, +0.54%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 11,156.14 จุด ลดลง 6.69 จุด, -0.06%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,081.76 จุด ลดลง 1.07 จุด, -0.05%
ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,138.13 จุด เพิ่มขึ้น 3.42 จุด, +0.11%
ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,573.04 จุด ลดลง 1.86 จุด, -0.12%
ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 7,913.55 จุด ลดลง 1.75 จุด, -0.02%
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.ย.ลดลง 0.3% ซึ่งเป็นการหดตัวลงครั้งแรกในรอบ 7 เดือน และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% ส่งสัญญาณว่าการใช้จ่ายผู้บริโภคที่เคยเป็นปัจจัยกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมานั้น กำลังชะลอตัวลง
ขณะที่สถานการณ์ด้านภูมิรัฐศาสตร์ได้กดดันบรรยากาศการซื้อขายในตลาดเช่นกัน หลังจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้ให้การสนับสนุนกลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง ด้วยการผ่านร่างกฎหมายสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยของฮ่องกง โดยร่างกฎหมายดังกล่าวจะคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนต้องรับผิดชอบในการทำลายเสรีภาพขั้นพื้นฐานและการปกครองตนเองในฮ่องกง นอกจากนี้ ร่างกฎหมายจะกำหนดให้มีการทบทวนการให้สิทธิพิเศษทางการค้ากับฮ่องกง ภายใต้กฎหมายของสหรัฐ โดยการทบทวนดังกล่าวจะพิจารณาถึงประเด็นที่ว่า ฮ่องกงได้รับอำนาจในการปกครองตนเองอย่างเพียงพอจากจีนหรือไม่
นักลงทุนวิตกกังวลว่า ความสัมพันธ์อันตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีนในประเด็นฮ่องกงนั้น อาจจะส่งผลกระทบต่อการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนซึ่งมีความเปราะบางอยู่แล้วในขณะนี้ หลังมีรายงานว่า จีนต้องการเจรจาเพิ่มเติมกับสหรัฐอย่างเร็วที่สุดในช่วงปลายเดือนต.ค.นี้ เพื่อสรุปรายละเอียดของข้อตกลงการค้าขั้นแรกก่อนที่ผู้นำทั้งสองจะลงนามร่วมกัน