QTC คว้างาน “กฟน” มูลค่า 300 ลบ. มั่นใจหนุนผลงานปีนี้เทิร์นอะราวด์
QTC คว้างาน “กฟน” มูลค่า 300 ลบ. มั่นใจหนุนผลงานปีนี้เทิร์นอะราวด์
นายพูลพิพัฒน์ ตันธนสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ QTC เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2562 บริษัทฯ ได้เซ็นสัญญาในการผลิตหม้อแปลงไฟฟ้าชนิด ซีเอสพี (Completely Self-Protected Type) 3 เฟส 4 ให้กับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) คิดเป็นมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ส่งผลให้ยอด Backlog ในปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 500 ล้านบาท และคาดว่าจะทยอยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
เนื่องจากบริษัทฯได้ยื่นประมูลงาน ในการผลิตหม้อแปลงของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) โดยมีมูลค่ารวมทั้งหมด 1,800 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯตั้งเป้าไว้สำหรับการยื่นประมูลงานในครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 10% ของมูลค่างาน
ทั้งนี้ บริษัทฯมองว่า ภาพรวมธุรกิจในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ จะกลับเข้าสู่ภาวะของการลงทุนมากขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากแรงขับเคลื่อนของภาครัฐบาล ที่มีการกระตุ้นนโยบายเศรษฐกิจสู่ภาคการลงทุน โดยจะเห็นได้จากการเริ่มทยอยเปิดให้มีการประมูลงานต่างๆของภาครัฐบาล และหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ในช่วงครึ่งปีหลัง จากที่ชะลอการเปิดประมูลงานด้านการลงทุนในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
ดังนั้นเชื่อว่าในช่วงหลังจากนี้ต่อไป การเปิดประมูลของ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จะเริ่มทยอยออกมาเพิ่มมากขึ้น
ขณะเดียวกัน ยอดคำสั่งผลิตหม้อแปลงไฟฟ้าในต่างประเทศก็ยังคงทยอยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่น และออสเตรเลีย พร้อมกันนี้ บริษัทฯได้ทำการศึกษาและเจาะตลาดใหม่ๆ ในแถบเอเชีย และยุโรป มากยิ่งขึ้น เนื่องจากกลุ่มประเทศดังกล่าวยังคงมีดีมานด์ความต้องการหม้อแปลงไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง
ส่งผลให้ในปีนี้ บริษัทฯตั้งเป้ายอดขายหม้อแปลงไฟฟ้า จากการส่งออกในต่างประเทศ ไว้ที่ประมาณ 300 ล้านบาท ในขณะที่ยอดขายหม้อแปลงไฟฟ้า ในประเทศ คาดว่าจะอยู่ที่ ประมาณ 700 ล้านบาท
นายพูลพิพัฒน์ กล่าวเพิ่มว่า QTC มีการปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจ โดยการยกระดับ สู่นวัตกรรม “QTC Smart Transformer” ภายใต้แนวคิดการก้าวเข้าสู่ธุรกิจพลังงานเต็มรูปแบบ โดยนำนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาเสริมประสิทธิภาพให้กับสินค้า โดยเฉพาะด้านการดูแลรักษาที่จะสามารถประหยัดต้นทุนในการบำรุงรักษา และยืดอายุการใช้งานหม้อแปลงไฟฟ้า ซึ่ง Smart Transformer คือระบบอัจฉริยะที่ติดตามการทำงานของหม้อแปลงด้วยระบบ sensor ที่ติดตามตัวแปรสำคัญ สามารถระบุตำแหน่งของหม้อแปลงด้วย GPS สามารถดูสถานะของหม้อแปลงได้แบบ Real Time และมีการ Back Up ข้อมูลย้อนหลัง ซึ่งเหมาะกับอุตสาหกรรมการผลิต ที่ต้องดำเนินเครื่องจักรตลอด 24 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม หลังจากแผนการปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจ ประกอบกับภาคการลงทุนเริ่มกลับมา ส่งผลให้ทิศทางของบริษัทฯในปีนี้จะมีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 501.88 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 119.04 ล้านบาท บริษัทฯคาดการณ์ไว้ว่าจะสามารถมีรายได้รวมทั้งปีเกือบ 1,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นการกลับมาเทิร์นอะราวด์อีกครั้ง จากคำสั่งซื้อหม้อแปลงไฟฟ้าทั้งในประเทศ และต่างประเทศมากขึ้น
ประกอบกับบริษัทฯ ยังรับรู้รายได้จากธุรกิจพลังงานทดแทน (Q Solar1) เพิ่มขึ้นในปีนี้ เพราะสามารถจ่ายไฟเข้าระบบได้มากขึ้น จึงคาดว่าจะมีการรับรู้รายได้ประมาณ 140-150 ล้านบาท จะส่งผลบวกต่อผลการดำเนินงานของบริษัทฯ
“ปีนี้ถือว่า QTC จะสามารถกลับมาผงาดได้อีกครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ภาพรวมธุรกิจไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ดังนั้นเชื่อว่าหลังจากที่บริษัทฯมีการปรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจใหม่ ประกอบกับแนวโน้มอุตสาหกรรมธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้า เริ่มกลับมาคึกคักขึ้น ทำให้บริษัทฯมั่นใจว่าปีนี้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯจะกลับมาเทิร์นอะราวด์ได้อย่างโดดเด่นและมีนัยสำคัญ” นายพูลพิพัฒน์ กล่าว