พาราสาวะถี
หลังเที่ยงคืนที่ผ่านมา คงได้ทราบกันไปแล้วว่าใครได้เป็นส.ส.เขต 5 นครปฐม เดิมทีก็คิดว่าจะได้ลุ้นกันในแง่ของการนำคะแนนไปคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อใหม่ แต่พอไปพลิกดูข้อกฎหมาย เมื่อเป็นการเลือกตั้งซ่อมที่เกิดจากการลาออกคะแนนดังว่าจะไม่ถูกนำไปคำนวณใหม่ ก็เลยกลายเป็นว่ามีเพียงแค่ 1 เสียงเท่านั้น ที่ให้ฝ่ายค้านและรัฐบาลได้ช่วงชิงกัน ซึ่งความจริงจะว่าไปแล้วการที่ วิษณุ เครืองาม ปลดล็อกข้อกฎหมายให้รัฐมนตรีที่เป็นส.ส.ร่วมโหวตกฎหมายสำคัญได้ ก็แก้ปัญหาปมเสียงปริ่มน้ำไปได้เยอะ
อรชุน
หลังเที่ยงคืนที่ผ่านมา คงได้ทราบกันไปแล้วว่าใครได้เป็นส.ส.เขต 5 นครปฐม เดิมทีก็คิดว่าจะได้ลุ้นกันในแง่ของการนำคะแนนไปคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อใหม่ แต่พอไปพลิกดูข้อกฎหมาย เมื่อเป็นการเลือกตั้งซ่อมที่เกิดจากการลาออกคะแนนดังว่าจะไม่ถูกนำไปคำนวณใหม่ ก็เลยกลายเป็นว่ามีเพียงแค่ 1 เสียงเท่านั้น ที่ให้ฝ่ายค้านและรัฐบาลได้ช่วงชิงกัน ซึ่งความจริงจะว่าไปแล้วการที่ วิษณุ เครืองาม ปลดล็อกข้อกฎหมายให้รัฐมนตรีที่เป็นส.ส.ร่วมโหวตกฎหมายสำคัญได้ ก็แก้ปัญหาปมเสียงปริ่มน้ำไปได้เยอะ
อย่างไรก็ตาม ประเด็นต่อเนื่องจากการลงมติร่างพ.ร.บ.งบประมาณประจำปี 2563 ที่ผ่านความเห็นชอบในวาระแรกของสภาผู้แทนราษฎรไปแล้วนั้น ยังมีกรณีของ กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี เขต 7 พรรคอนาคตใหม่ ที่ไปยกมือหนุนสวนมติพรรคต้นสังกัดและพรรคร่วมฝ่ายค้าน นำมาซึ่งแรงกดดันมหาศาลกับข้อกล่าวหา “งูเห่าสีส้ม” โดยพรรคอนาคตใหม่ คาดโทษห้ามร่วมทุกกิจกรรมของพรรค และรอคำตัดสินหลังเสร็จศึกเลือกตั้งซ่อมเขต 5 นครปฐม
ขณะที่เจ้าตัวนอกจากปิดเฟซบุ๊กส่วนตัวเป็นการชั่วคราว เพื่อหนีกระแสโจมตีแล้ว ยังได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าว ยืนยันความจำเป็นที่ต้องโหวตสวนโดยอ้างเสียงเรียกร้องประชาชนในพื้นที่และไม่อยากเป็นปฏิปักษ์กับรัฐบาลตลอดเวลา จนนำมาซึ่งการรีบปฏิเสธจาก อิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ผู้ยิ่งใหญ่เมืองชลว่า ไม่ได้เป็นผู้ชักชวนให้กวินนาถแหกมติพรรค ขณะที่ในพื้นที่ดูเหมือนว่ามวลชนที่สนับสนุนส.ส.รายนี้ก็ก่อหวอดแสดงความไม่พอใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้นเช่นกัน
ล่าสุด เมื่อวันวานมีการตั้งโต๊ะล่ารายชื่อเพื่อกดดันให้กวินนาถล่าออกจากความเป็นส.ส.ของพรรค แน่นอนว่า การใช้วิธีมวลชนกดดันนั้นถือเป็นแนวทางที่น่าจะได้ผลมากกว่าการใช้แรงกดดันภายในพรรค เพราะอาจจะเข้าข่ายแทรกแซงและละเมิดสิทธิเสรีภาพของส.ส.ซึ่งกฎหมายให้ความคุ้มครอง ที่สำคัญหากเป็นคนในพื้นที่ด้วยแล้ว การจะยืนระยะในหัวโขนส.ส.ต่อไปนั้นคงยาก หากไม่ลาออกโดยรอให้พรรคขับเพื่อดำรงตำแหน่งส.ส.ย้ายไปสังกัดพรรคอื่นซึ่งก็คือพรรคสืบทอดอำนาจด้วยนั้นยิ่งยากเข้าไปใหญ่
คงต้องดูกันยาว ๆ งานนี้ใครจะอึดกว่ากัน หากฝ่ายที่ชักจูงยังคงเลี้ยงดูปูเสื่ออย่างดี ป้อนกล้วยให้อิ่มหมีพีมัน ไม่ต้องไปสนใจแรงกดดันใด ๆ ให้ใช้หัวโขนที่มีอยู่คอยโหวตสนับสนุนฝ่ายกุมอำนาจอยู่เรื่อย ๆ ก็ต้องว่ากันไป ในเมื่อกฎหมายเขียนมาให้เกิดภาวะเช่นนี้ แต่ในมิติทางสังคมโดยเฉพาะการยอมรับจากคนในพื้นที่ที่เป็นแรงหนุนให้ตัวเองได้เป็นส.ส.จะบากหน้าไปพบประชาชนได้เหมือนที่ผ่านมาหรือไม่ นั่นก็อีกเรื่อง ไม่ต้องพูดถึงบรรยากาศการทำงานภายในว่าจะต้องเผชิญกับอะไรบ้าง
ส่วนการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ นั้น วันนี้จะเริ่มประชุมกันนัดแรกในเวลา 10 โมงเช้า ปุจฉาที่เกิดขึ้นก็คือเก้าอี้กรรมาธิการของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์และหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่นั้น จะพิจารณากันอย่างไร เมื่อฝ่ายกฎหมายของสภาผู้แทนราษฎรเห็นว่าไม่เป็นปัญหาสามารถเป็นได้ แต่ “ตี๋กร่าง” สุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ คนที่ 1 กลับเห็นต่างพร้อมส่งหนังสือให้ ชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ใช้อำนาจวินิจฉัย
ไม่เพียงเท่านั้นที่ปรึกษากฎหมายของตี๋กร่างอย่าง ทศพล เพ็งส้ม ยังออกมายืนยันว่า ธนาธรขาดคุณสมบัติเป็นกรรมาธิการ เพราะไม่ว่าจะเข้ามาเป็นในฐานะส.ส.หรือคนนอกก็มีปัญหาทั้งสิ้น กล่าวคือ ถ้าเข้ามาในฐานะส.ส.ทำไม่ได้แม้แต่น้อยเพราะศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส่วนจะใช้สิทธิ์คนนอกก็มีปัญหาอีกว่าธนาธรเป็นคนนอกหรือไม่ เพราะยังมีสมาชิกภาพส.ส.อยู่ ไม่สามารถถอดสถานะส.ส.และเดินเข้ามาในฐานะคนนอกได้เอง
ถือเป็นปัญหาซ้อนปัญหา ถ้าเช่นนั้นคงมีทางเลือกอยู่ 2 ประการคือ ก่อนเข้าสู่วาระการประชุมของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ต้องหารือกันให้ชัดก่อนว่า สถานะของธนาธรนั้นเป็นปัญหาต่อกระบวนการพิจารณาหรือไม่ เพราะฝ่ายคนของพรรคสืบทอดอำนาจต่างเป็นกังวลกันอย่างมากในประเด็นนี้ ถึงขั้นกล่าวหาว่า การที่พรรคอนาคตใหม่ใส่ชื่อธนาธรมาเป็นกรรมาธิการนั้น เพราะต้องการให้ร่างพ.ร.บ.งบประมาณเป็นโมฆะหรือไม่
ส่วนอีกทางก็คือใช้อำนาจของประธานสภาผู้แทนราษฎรที่นายหัวชวนถือดาบอาญาสิทธิ์อยู่ ซึ่งในฐานะเป็นจอมหลักการก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะฟันฉับแบบทันทีทันใด ต้องอย่าลืมว่าเมื่อฝ่ายกฎหมายของสภาฯ มีความเห็นมาว่าเป็นได้ แล้วประธานสภาฯ เห็นต่างหรือมีความเห็นเป็นอย่างอื่น กระบวนการทำงานจากนี้ไปจะเป็นอย่างไร โดยวิสัยของจอมหลักการแล้วย่อมไม่เลือกวิธีการเช่นนั้นเป็นอันขาด ด้วยเหตุนี้ยิ่งทำให้ฝ่ายเร่งเร้าให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญฮึกเหิมกันเข้าไปอีก
ต้องอย่าลืมว่า การติดขัดของหลาย ๆ เรื่องที่ผ่านมานั้น ล้วนแล้วแต่เกิดจากกลไกที่องคาพยพของขบวนการสืบทอดอำนาจวางกับดักไว้ทั้งสิ้น เมื่อผนวกเข้ากับความต้องการที่จะเขี่ยให้ก้างขวางคอชิ้นเบ้อเริ่มอย่างธนาธรและพรรคน้องใหม่มาแรงพ้นจากเส้นทาง มันยิ่งเป็นการเพิ่มภาระอันหนักอึ้งเข้าไปอีก เพราะทุกอย่างต้องใช้กระบวนการทางกฎหมาย ขณะที่พรรคอนาคตใหม่ก็มีมือกฎหมายชั้นดีที่จะพลิกเกมสู้แบบยิบตาอยู่เหมือนกัน
สัญญาณดีจากการเข้าพบหารือกับคณะกรรมาธิการความมั่นคงฯ สภาผู้แทนราษฎรของ พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก คนจำนวนไม่น้อยมองว่านี่เป็นการลดบรรยากาศอันตึงเครียดระหว่างกองทัพกับนักการเมืองฝ่ายค้าน แต่สิ่งที่ตามมาคือการโหมประโคมข่าวของสื่อดาวสยาม 4.0 ที่พยายามตีประเด็นเป็นการเชิญบิ๊กแดงมาเพื่อประโยชน์ของฝ่ายค้านในการที่จะขอให้มีการถอนแจ้งความแกนนำ 7 พรรคฝ่ายค้านและนักวิชาการรวม 12 คนในคดีมาตรา 116 จากการเสวนาที่ปัตตานี
จะว่าไปเรื่องนี้ไม่ถือว่าใครได้ประโยชน์ เพราะฝ่ายความมั่นคงก็หน้าแหกจากการที่ถูกศาลยกฟ้องและอัยการสั่งไม่ฟ้องในคดีลักษณะนี้มาจำนวนไม่น้อย อย่าลืมว่าเรื่องแก้รัฐธรรมนูญหลังเปิดสภาในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ญัตติแรกที่จะหยิบยกขึ้นมาหารือกันคือการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาในเรื่องดังกล่าว เช่นนั้น การดำเนินเปิดเวทีของฝ่ายค้านที่ผ่านมาและจะทำไปจึงไม่ใช่เรื่องที่ไม่เหมาะสม เว้นเสียแต่พวกสอพลอเผด็จการเท่านั้นที่ต้องการเห็นการไล่ล่าเอาผิดฝ่ายเห็นต่างไม่หยุดหย่อน